ยูฟ่า ได้ปฏิเสธคำสั่งของผู้พิพากษาจากมาดริด กรณีที่ให้ยกเลิกการบทลงโทษที่บังคับใช้กับสโมสรที่ก่อตั้งยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก
มีการเปิดเผยแผนการเมื่อเดือนเมษายน สำหรับทัวร์นาเม้นต์แข่งขันซึ่งประกอบไปด้วย 12 สโมสรชั้นนำ โดยจะการันตีรายได้มหาศาลให้กับพวกเขา และไม่ต้องหวั่นเรื่องการตกชั้น แต่สิ่งดังกล่าวเจอกระแสแอนตี้รุนแรงจากเหล่าแฟนบอล ทำให้ 9 สโมสรต้องประกาศถอนตัวออกไป
ยูเวนตุส, บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด คือ 3 ทีมที่ยังคงไม่ล้มเลิกแผนการก่อตั้ง ESL โดยอาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, สองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์, ท็อตแน่ม, สองทีมจากเมืองมิลาน และแอตเลติโก้ มาดริด ได้ถอนตัวออกไปแล้ว
ผู้พิพากษา มานูเอล รุยซ์ เดอ ลาร่า ได้มีคำสั่งเมื่อวันศุกร์ให้ยูฟ่า ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ว่าบทลงโทษทุกอย่างต่อสโมสรที่มีส่วนร่วมจะไม่ถูกบังคับใช้อีกต่อไป โดย The Times รายงานว่าจะมีการปรับเงินหรือดำเนินคดีทางอาญา หากคำสั่งของศาลถูกละเลย
นอกจากนี้ผู้พิพากษายังสั่งให้ พรีเมียร์ ลีก และเอฟเอของอิตาลี ซึ่งเคยบอกไว้ว่าทีมใดก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎ จะต้องโดนแบนจากการแข่งขันลีกสูงสุด ให้ยกเลิกบทลงโทษทุกอย่างกับแต่ละสโมสรในประเทศของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ยูฟ่า รู้สึกว่าบทลงโทษที่พวกเขามอบออกไปนั้นมีความยุติธรรม และเชื่อมั่นว่าจะได้รับชัยชนะหากคดีความนี้ถูกส่งต่อไปที่ศาลยุติธรรมแห่งยุโรป
นอกจากนี้พวกเขายังอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่ง เนื่องจากสำนักงานที่อยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในสหภาพยุโรป ซึ่งทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำตามคำสั่งของศาล
สำหรับผลลัพธ์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 9 สโมสรที่ถอนตัวได้หาข้อตกลงร่วมกับยูฟ่าในการบริจาคเงิน 15 ล้านยูโร (12.8 ล้านปอนด์) ให้กับฟุตบอลระดับเยาวชนและรากหญ้า นอกจากนี้ยังต้องถูกปรับเงินรายได้จากการแข่งขันของยูฟ่าเป็นจำนวน 5% ตลอดหนึ่งฤดูกาลด้วย
6 สโมสรจากอังกฤษ ตกลงที่จะร่วมบริจาคเงิน 22 ล้านปอนด์เพื่อสนับสนุนฟุตบอลรากหญ้า และโปรเจ็คต์งานเพื่อสังคมภายในประเทศ โดยหากพวกเขามีแผนที่จะก่อตั้งซูเปอร์ ลีก ก็จะโดนตัด 30 แต้ม และปรับเงินอีก 25 ล้านปอนด์สำหรับทีมที่มีส่วนร่วม