เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหมาป่า เอเอส โรม่า เปิดสนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก้, กรุงโรม ประเทศอิตาลี ต้อนรับการมาเยือนของทีม สเปเซีย ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดที่ 17 เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เอเอส โรม่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย ไบรอัน คริสตานเต้ กองกลางห้องเครื่อง เฮนริค มคิทาร์ยาน เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ แทมมี่ อับราฮัม ดาวยิงตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน สเปเซีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ติอาโก้ มอตต้า มาเล่นในระบบ 3-5-2 เช่นกัน นำทีมโดย จาโคโป ซาล่า กองกลางห้องเครื่อง เอ็มมานูเอล กียาซี่ ตัวจี๊ดริมเส้น และ เรย์ มาไนจ์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
นาที 6 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ทัพหมาป่า โรม่า มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา จอร์แดน แวร์กตูต์ บรรจงเปิดบอลโด่งโค้งสวย ลอยลึกเลยไปที่เสาไกลให้ แทมมี่ อับราฮัม ได้โขกตั้งย้อนกลับเข้ามาที่หน้าประตู แล้วเป็น คริส สมอลลิ่ง โฉบมาโขกเปลี่ยนทางอีกทอดจ่อ ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 17
ทีมเยือน สเปเซีย ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นครึ่งแรก เมื่อ ยาโคโป ซาล่า มิดฟิลด์คนสำคัญ มีอาการบาดเจ็บ สุดท้ายเล่นต่อไม่ไหว ติอาโก้ มอตต้า กุนซือหนุ่มไฟแรง ตัดสินใจส่งเอา ยาคูบ คีวิออร์ ลงสนามมาเล่นแทน
นาที 22
ทีมเยือน สเปเซีย บุกขึ้นมาได้จบสกอร์แบบจะแจ้งครั้งแรกของเกม จากจังหวะ โหมบุกขึ้นมาตรงกลางถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วเป็น อาร์คาดิอุซ เรซ่า สบโอกาสได้หวดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปติดบล็อกเต็ม ๆ กระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุมแทน
นาที 25
เจ้าถิ่น โรม่า เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ แทมมี่ อับราฮัม ถ่างออกมารับบอลทางริมเส้น เจ้าตัวบังบอลดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะตอกส้นไขว้หลังอย่างสวยเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ มาธีอัส บีญ่า ที่วิ่งสอดตามช่องขึ้นมา ได้แต่งเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ตามมาด้วยเอี้ยวล้มตัวบรรจงปั่นเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยแต่ยังติดเซฟของ อิวาน โปรเวเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาพุ่งไปปัดออกหลังเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 35
ทีมเยือน สเปเซีย ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ อาร์คาดิอุซ เรซ่า ทำชิ่ง 1-2 กับ ดาวิด สตรีเลซ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะซัดไปติดเซฟของ อิวาน โปรเวเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน บอลไม่ห่างตัวเท่าไหร่ ปัดเอาไว้ได้ทัน สกอร์ยังเป็น โรม่า นำอยู่ 1-0 !!!
นาที 42
ทีมเยือน สเปเซีย บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ยาคูบ คีวิออร์ พาบอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ อาร์คาดิอุซ เรซ่า สอดพุ่งมาล้มตัวโขกเหน่ง ๆ ทว่ากดไม่ลง บอลไม่เข้าเป้า เหินเฉียดคาน หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
นาที 45+7
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เจ้าถิ่น โรม่า เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ เฮนริค มคิทาร์ยาน ได้บอลที่สุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะบรรจงเปิดเข้ามาตรงกลางให้กับ แทมมี่ อับราฮัม สอดมาโขกเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปชนคานเต็ม ๆ กระเด้งออกมาเข้าทาง จอร์แดน แวร์กตูต์ ได้โหม่งซ้ำก็ยังไปชนคานออกไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น โรม่า ที่ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นเกม หลังจากนั้นก็ยังเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่า ส่วนทางด้านทีมเยือน สเปเซีย มีโอกาสได้โต้ตอบขึ้นมาบ้างเหมือนกัน แต่จังหวะจบไม่ได้อันตรายอะไรมาก สุดท้ายยังทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ สกอร์ตอนนี้เป็น โรม่า 1 สเปเซีย 0 !!!
นาที 46
เริ่มครึ่งหลังมาแค่แปปเดียว ทีมเยือน สเปเซีย เกือบได้ลุ้นประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ ดาวิด สตรีเลซ แทงบอลทะลักช่องให้ เรย์ มาไน หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะก้มหน้าวางเท้าหวดด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลก็ยังไม่เข้าเป้า เหินข้ามคานออกไปเอง อย่างน่าเสียดาย
นาที 55
ทีมเยือน สเปเซีย บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ เควิน อากูเดโล่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ลากบอลขึ้นมาจ่ายยัดตามช่องให้ เรย์ มาไน เจ้าเก่า ได้วิ่งสอดไปถึงบอล หลุดมาถึงหน้าเสาซ้ายมือ เจ้าตัวโยกหลบ คริส สมอลลิ่ง ก่อนจะเอี้ยวตัวปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลผ่านบล็อกกองหลังไปแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังไปตรงตัวของ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ล้มตัวตะครุบเอาไว้ได้ติดมือ
นาที 56 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ทัพหมาป่า เอเอส โรม่า มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา จอร์แดน แวร์กตูต์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่กลางประตู แล้วเป็น โรเจอร์ อิบันเญซ โฉบเทคตัว ลอยโถมมาโขกเหน่ง ๆ เต็มกบาล ส่งบอลพุ่งแรงเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 62
ทีมเยือน สเปเซีย เกือบได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะ อาร์คาดิอุซ เรซ่า บรรจงหยอดบอลเข้าไปในเขตโทษให้ ซิโมเน่ บาสโตนี่ ได้ซัดเน้น ๆ ทันที แต่ไปติดบล็อกแข้งเจ้าบ้านเต็ม ๆ มาเข้าทาง เรย์ มาไน ได้วิ่งมาสไลด์ยิงซ้ำสวนตัว รุย ปาตริซิโอ นายด่านเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ไม่เหลือ ทว่า ผู้ตัดสิน อเลสซานโดร พรอนเทร่า ขอเช็ค VAR เพื่อความแน่ใจ สุดท้ายริบสกอร์คืน เนื่องจากมีจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
นาที 67
เจ้าถิ่น โรม่า ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ เฮนริค มคิทาร์ยาน รับบอลมาที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวแต่งบอลหาช่อง ก่อนจะสบโอกาส วางเท้าตะบันด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ยังไม่เข้าเป้า บอลเหินข้ามคานออกไป ชนิดได้ลุ้น
นาที 78
ทีมเยือน สเปเซีย พยายามฮึดสู้อย่างหนัก จังหวะนี้ ฟรีคิกนอกกรอบฝั่งซ้ายมาถึงที่หน้าประตู บอลชุลมุนขลุกขลิกอยู่หลายจังหวะ สุดท้ายมาเข้าทาง เรย์ มาไน โล่ง ๆ กำลังจะได้ง้างเท้ายิงแต่ดันไปกั๊กกันเองกับเพื่อน ตอนจบไม่ยิง แถมโดนจะล้ำหน้าไปอีกตะหาก
นาที 82
ทีมเยือน สเปเซีย พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมา เป็นจังหวะ ซิโมเน่ บาสโตนี่ พาบอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ เกลแว็ง อาเมียง ฟูลแบ็กที่เติมสูงสอดขึ้นมา ได้โหม่งเหน่ง ๆ ทว่าบอลไม่ตรงกรอบ พุ่งเฉียดเสาแรกซ้ายมือ หลุดออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 90+3 ใบแดง!!!
ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น โรม่า ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะ เฟลิกซ์ อเฟน่า กียาน หัวหอกดาวรุ่งตัวสำรอง พยายามใช้แขนแต่งบอล ได้หลุดเข้าไปยิงเน้น ๆ เข้าประตูไป ทว่าวิ่งดีใจได้แค่แปปเดียว ผู้ตัดสินเป่าริมสกอร์คืน แถมยังแจกใบเหลืองใบที่สองให้เจ้าตัว กลายเป็นใบแดง โดนไล่ออกจากสนามไปแบบเสียหน้าสุด ๆ จบเกม โรม่า ชนะ สเปเซีย 2-0 แซง ยูเวนตุส รั้งที่ 6
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เอเอส โรม่า เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน สเปเซีย ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 !!! เก็บเพิ่มเป็น 28 แต้ม ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 6 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนอตาลันต้า ในคืนวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม 2564 ส่วนทางด้านสเปเซีย อยู่อันดับที่ 17 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเอ็มโปลี ในคืนวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้