บรูโน่ แฟร์นานเดส เชื่อว่าเขาจะผันตัวกลายเป็นโค้ชในอนาคตและสนใจที่จะกลับมาคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งเมื่อถึงเวลานั้น
กองกลางทีมชาติโปรตุเกสกลายเป็นแข้งคนสำคัญของ “ปีศาจแดง” นับตั้งแต่ย้ายร่วมทีมในเดือนมกราคม 2020 และถึงแม้เขาจะอายุเพียงแค่ 26 ปีแต่ก็เริ่มคิดถึงอนาคตของตัวเองมากขึ้น
บรูโน่, ที่ยิงไป 24 ลูกและทำแอสซิสต์ 13 หนในฤดูกาลนี้, ยอมรับว่ายังอยากทำงานเกี่ยวกับฟุตบอลต่อเมื่อถึงตอนที่เลิกเล่นแล้วและการคุม แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นงานใหญ่ที่สุดสำหรับเขา
เมื่อถามว่าเขาอยากคุมทีมไหน, บรูโน่ ตอบว่า “ที่ผ่านมาผมก็คิดนะ, ผมคิดถึงเรื่องอนาคตมากขึ้น ตอนนี้ผมเห็นว่าเวลาผ่านไปและมีเด็กๆจากปี 2000, 2001, 2002 ก้าวขึ้นมา น้องผมก็เกิดปี 2000 ดังนั้นมันทำให้ผมสับสน”
“ผมพยายามสนุกไปกับฟุตบอลน่ะรู้มั้ย ผมคิดว่าผมอยากเป็นโค้ช บอกตามตรงนะ, ผมอยากที่จะเป็นโค้ช”
“ผมไม่รู้ว่าทีมไหนที่ผมอยากคุม แน่นอน, ทีมใหญ่ที่สุดถ้าผมได้มีโอกาสคุมก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด, ผมก็จะแฮปปี้นะ ขอพูดไว้แบบนี้แล้วกันเพราะถ้าคนมาเห็น, เพราะถ้าอนาคตผมกลายเป็นกุนซือ, แฟนๆจะได้กดดันให้ดึงผมมาเป็นโค้ช!”
“แต่ผมคิดว่าในอนาคตผมก็อยากเป็นโค้ชนะ ผมไม่แน่ใจหรอกแต่สิ่งที่ผมรู้สึกเกี่ยวกับฟุตบอล, ความรู้สึกที่ผมมี ผมคิดว่าผมต้องทำงานในวงการฟุตบอลต่อไปเพราะทั้งชีวิตผมมีแต่เรื่องบอล ดังนั้นผมว่าอนาคตก็ต้องเป็นฟุตบอลเหมือนกัน”
เวลานี้ บรูโน่ มีบทบาทสำคัญต่อผลงานในสนามของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฐานะดาวซัลโวของทีม, แอสซิสต์เยอะสุดและยังมีความเป็นผู้นำ ส่งผลช่วยทีมรั้งรองจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก
เขากับเพื่อนร่วมทีมออกสตาร์ทฤดูกาลได้ตะกุกตะกัก แต่ทีมก็ดีขึ้นและขึ้นไปเบียดกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อแย่งแชมป์อยู่ช่วงนึง แต่ดูเหมือนว่าจะลงเอยด้วยการเป็นรองแชมป์เสียมากกว่า
ยูโรป้าลีกยังเป็นโอกาสให้พวกเขาจบด้วยการมีแชมป์ติดมือ และ บรูโน่ ก็พูดถึงสิ่งที่ โซลชาร์ ทำมานับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งถาวรในปี 2019
“บอกตามตรง ผมว่าทีมพัฒนาขึ้นเยอะตั้งแต่ผมย้ายมา ผมสัมผัสได้ถึงความก้าวหน้าขึ้นแต่ผมว่าทีมดีขึ้นตั้งแต่โค้ชเข้ามาคุม เขาพยายามปรับเปลี่ยนทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ”