การแข่งขันในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง ลิเวอร์พูล ลงสนามพบกับ เรอัล มาดริด โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล ลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้าน เรอัล มาดริด มาสู้ในระบบ 4-3-3
เริ่มเกมมาได้ 15 นาที “หงส์แดง” ได้ทักทายก่อน
จากจังหวะของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พาบอลแหวกเข้าเขตโทษทางฝั่งขวาก่อนจ่ายหักข้อมาถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล้มตัวยิงด้วยขวาแต่บอลก็ยังไปติดเซฟ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ควักบอลออกมาได้ทันเวลา
นาทีที่ 16 เกมรุกยังเป็นของ หงส์แดง
จากจังหวะต่อเนื่องเป็นโอกาสของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน สอดขึ้นมาเก็บบอลทางฝั่งซ้ายดึงจังหวะจ่ายไซค์ก้อยมาหน้ากรอบถึง ติอาโก้ อัลกันตาร่า เอียงตัวปั่นด้วยขวาหนีบล็อคเสียดายตรงตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ รับเอาไว้ได้อีกครั้ง
นาทีที่ 18 ลิเวอร์พูล เดินหน้ากดดันอย่างหนัก
จากบอลทางซ้ายเปิดเข้าเขตโทษถึง ซาดิโอ มาเน่ เก็บบอลแปะชิ่งเร็วเข้าในให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โฉบมายิงตามน้ำด้วยซ้ายบอลยังไปเข้ามือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ รับไว้ได้ไม่พลาด
นาทีที่ 20 “หงส์แดง” พลาดโอกาสทอง
จากความสามารถเฉพาะตัวของ ซาดิโอ มาเน่ รับบอลทางขวาพาแหวกเข้าเขตโทษก่อนจะโยกหนี เอแดร์ มิลิเตา ได้ช่องยิงหักข้อยัดเสาแรกบอลติดปลายมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดไปชนเสาเด้งมาหน้าปากประตูก่อนตามมาตะปปได้ทันเวลา
นาทีที่ 34 หงส์แดง ขึงเกมบุกเอาไว้ฝ่ายเดียว
จากจังหวะบอลขึ้นทางฝั่งขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สอดมารับบอลตัดเข้าในปั่นด้วยซ้ายโค้งมาหน้ากรอบบอลเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ขึ้นโหม่งแบบไร้ตัวประกบบอลก็ยังไปตรงตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ รับเอาไว้ได้อีกหน
นาทีที่ 43 “ราชันชุดขาว” เกือบทะยานออกนำ
จากจังหวะชุลมุนในเขตโทษ อลีสซง เบ็คเกอร์ ออกมาตัดบอลไม่ขาดเด้งไปแฉลบ ฟาบินโญ่ ไหลมาเข้าทาง คาริม เบนเซม่า เก็บส้มหล่นส่งบอลซุกก้นตาข่าย ผู้ตัดสินรอเช็ค วีเออาร์ อยู่นานสุดท้ายตัดสินเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน
จบครึ่งเวลาแรก ลิเวอร์พูล เสมอกับ เรอัล มาดริด อยู่ที่ 0-0 รูปเกมเป็นทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่า แต่ก็ยังขาดความเฉียบคมต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 55 “หงส์แดง” เร่งเครื่องบุกเข้าทำ
จากจังหวะของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไหลบอลเข้าช่องให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สอดมาเปิดเข้ามาหน้าปากประตู ติอาโก้ อัลกันตาร่า ยิงบอลไปติดเซฟ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ตบทิ้งออกมาได้ทันเวลา
นาทีที่ 59 “ราชันชุดขาว” ทะยานออกนำจนได้
จากจังหวะบอลตรงกลาง เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ รับบอลทางขวาแหวกเข้าเขตโทษก่อนจะกดเรียดมาเสาไกลเข้าทาง วินิซิอุส จูเนียร์ สอดมาตั้งเท้าชาร์จส่งบอลเข้าไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด ออกนำ 0-1
นาทีที่ 64 ลิเวอร์พูล พยายามเร่งเครื่องทวงประตูคืน
จากจังหวะของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายบอลออกขวาไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาจี้เข้าเขตโทษก่อนจะโยกตัดเข้าในได้ช่องปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งเสียบเสาไกลติดเซฟ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นิดเดียว
นาทีที่ 69 ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตามมาเก็บบอลทางขวาเปิดบอลโค้งข้ามไปเสาไกลถึง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน โหม่งชงย้อนมาถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตามมาจิ้มบอลไปติดขา ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปิดมุมช่วยได้ทันเวลา
นาทีที่ 79 หงส์แดง โหมบุกเป็นพายุ
จากจังหวะของ ดิโอโก้ โชต้า ได้โอกาสสอดขึ้นมาเปลี่ยนทางบอลแต่บอลก็ยังไปติดเซฟ กูร์กตัวส์ ก่อนเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาบอลลุยขึ้นหน้าเอาชนะ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ หลุดเข้าไปยิงเน้น ๆ ด้วยขวาบอลยังไปติดแขน ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ
จบเกม ลิเวอร์พูล แพ้ให้กับ เรอัล มาดริด ไป 0-1 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ที่ทำได้เหนือกว่าแต่กิน กูร์กตัวส์ ไม่ได้ ทำให้ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปครองได้สำเร็จ
ufabet สนับสนุนไฮไลท์ติดขอบสนาม