เกมการแข่งขัน ระหว่างเจ้าถิ่นทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เปิดสนาม เอสตาดิโอ อัลเฟรโด้ดิ สเตฟาโน่ ต้อนรับการมาเยือนของทีม โอซาซูน่า ในศึกฟุตบอล ลา ลีก้า สเปน
เกมนี้ เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย ราฟาแอล วาราน กองหลังตัวเก่งทีมชาติฝรั่งเศส เอแด็น อาซาร์ ปีกความเร็วสูงทีมชาติเบลเยี่ยม และ คาริม เบนเซม่า ดาวซัลโวคนเก่งประจำสโมสร ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน โอซาซูน่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย โรเบร์โต้ ตอร์เรส กองกลางห้องเครื่อง รูเบน การ์เซีย ปีกตัวจี๊ด และ เอเซกิเอล อาวิล่า กองหน้าตัวความหวังของทีม
นาที 3
เริ่มเกมมาปุ๊บ เป็นเจ้าถิ่น ได้ทักทายก่อนเลย เป็นจังหวะตัดบอลได้จากกลางสนาม เอแด็น อาซาร์ กระชากเร็วขึ้นมาทางซ้าย เลี้ยงจี้กองหลังเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะโยกตัดเข้าใน แต่งเข้าขวาแล้วหวดเต็ม ๆ บอลพุ่งแรงเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
นาที 5
เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาทางกราบซ้าย วินิซิอุส จูเนียร์ พลิ้วขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษ ก่อนจะปาดบอลเลียดไปในเขตโทษให้ เอแด็น อาซาร์ สอดทะลุเข้าไปถึงหน้าเสาแรก แล้วยิงเร็วด้วยซ้ายยัดมุมแคบทันที เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยืนปิดมุมอยู่พอดี ปัดออกมาได้ทัน แต่ยังไม่พ้นอันตราย จังหวัดสุดท้ายบอลมาเข้าทาง มาร์โก อาเซนซิโอ ได้ตามมาซ้ำ แต่ ดาบิด การ์เซีย ก็ตามมาบล็อก ช่วยทีมไว้ทันหวุดหวิด
นาที 9
ทีมเยือน โอซาซูน่า ได้ลุ้นขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะผู้เล่นเจ้าถิ่นเล่นพลาดกันง่าย ๆ หน้ากรอบเขตโทษของตัวเอง บอลมาเข้าทาง เอซกิเอล อาวิล่า เก็บตกได้ เจ้าตัวพลิกหลบ มาร์โก อาเซนซิโอ มาได้สวย ก่อนจะยิงเร็วด้วยซ้ายหน้ากรอบ 18 หลา บอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีตัวเท่าไหร่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ตะปบไว้ได้ทัน
นาที 14
เจ้าถิ่น ได้ลุ้นเล็ก ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง เป็นจังหวะ คาเซมิโร่ ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม ก่อนจะเงยหน้ามองไปเห็นว่า เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมานอกเขตประตูไกลพอสมควร จึงตัดสินใจลักไก่ วางเท้ายิงไกลทันที บอลพุ่งแรงทิศทางได้ แต่หลุดคานออกหลังไป แบบได้เสียวทีเดียว
นาที 16
เจ้าถิ่น ขึงเกมรุกกันขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือน แต่ยังเจาะไม่เข้า จังหวะนี้เป็นอีกครั้งที่จบด้วยการส่องไกลนอกเขต มาร์โก อาเซนซิโอ ได้วางเท้าปั่นด้วยซ้าย บอลโค้งหลุดคานไปนิดเดียว
นาที 18
ทีมเยือน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ โรเบร์โต้ ตอร์เรส ทำชิ่ง 1-2 กับ มานู ซานเชซ หลุดขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ แต่เหมือนจะผิดเหลี่ยม บอลกลายเป็นลอยย้อยกำลังจะไปเสียบใต้คานที่เสาไกล ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาไปปัดทิ้งไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 24
เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า หลุดขึ้นมาสวย ก่อนจะเปิดโด่งเข้าไปที่เสาแรกให้ เอแด็น อาซาร์ ได้โฉบมาโหม่งเช็ดบาง ๆ ตั้งให้ คาริม เบนเซม่า ได้วางเท้าซัดด้วยซ้ายที่เสาสอง แต่บอลก็ปลิ้นหลังเท้าหลุดกรอบไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 25
เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ มาร์เซโล่ ตักบอลยาวขึ้นหน้า เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เอแด็น อาซาร์ โฉบสอดเข้ายิงเร็วที่เสาแรก แต่ เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาปัดข้ามคานไว้ได้หวุดหวิด ได้เป็นลูกเตะมุมสำหรับเจ้าถิ่น
นาที 26
จังหวะต่อเนื่อง เจ้าถิ่น ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เล่นสั้นมาให้ที่ มาร์โก อาเซนซิโอ ได้ตั้งป้อมโยนโยนโค้งไปที่หน้าปากประตู แล้วเป็น เอแดร์ มิลิเตา ได้ขึ้นโขกเน้น ๆ บอลกำลังจะเสียบใต้คานอยู่แล้วแต่ เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังผวาปัดทิ้งไว้ได้ทัน
นาที 29
เจ้าถิ่น นวดขึ้นมาเรื่อย ๆ คราวนี้บี้ขึ้นมาทางขวา อันโตนิโอ บลังโก้ ครอสโด่งโค้งเขามากลางเขตโทษให้ เอแดร์ มิลิเตา ได้โถมมาโหม่งกดลงพื้นเน้น ๆ แต่บอลดันไปตรงตัวของ เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเข้าซองไว้ได้สบาย
นาที 33
เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาตรง มาร์โก อาเซนซิโอ้ กระชากขึ้นมาตรงกลาง ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย คลึงบอลหลบตัวประกบ แล้วยิงเร็วด้วยซ้าย ยัดไปที่เสาแรกทันที แต่น่าเสียดาย บอลพุ่งเข้าหน้าต่าง ออกหลังไปเอง แบบน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 45
ทีมเยือน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ มานู ซาเชซ ครอสบอลจากทางกราบซ้ายเข้าไปในเขตโทษให้ เอเซกิเอล อาวิล่า ได้ทิ้งตัวโหม่ง บอลกระดอนพื้นเข้าประตูไปไม่เหลือ แต่ผู้ตัดสิน ย้อนมาเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้า รอดไปสำหรับเจ้าถิ่น
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่ครองบอลบุกใส่อยู่แทบจะฝั่งเดียว รูปเกมก็เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่จังหวะสุดท้าย ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 54
เริ่มครึ่งหลังมา เป็นทีมเยือน โอซาซูน่า ได้ลุ้นก่อนเลย เป็นจังหวะ รูเบน การ์เซีย พาบอลขึ้นมาตรงกลาง ก่อนจะจ่ายไปหน้ากรอบเขตโทษด้านขวาให้ โฆน มอนกาโยล่า ได้ช่องวางเท้ายิงด้วยขวานอกกรอบ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น แต่ไม่หนีตัวเท่าไหร่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น คว้าไว้ได้ทัน
นาที 57
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ได้ลุ้นประตูเหมือนกัน เป็นจังหวะได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง มาร์โก อาเซนซิโอ หยอดเข้าไปในเขตโทษ เอแดร์ มิลิเตา วิ่งสอดหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปทิ้งตัวซัดด้วยขวา บอลหลุดกรอบเหินข้ามคานออกไป อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 67
เจ้าถิ่น โหมบุกหนัก ขึงเกมรุกอยู่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะ โรดริโก้ โอเอส ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา กระชากหนีตัวประกบ แล้วลองตะบันด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษด้านขวา บอลพุ่งแรงและเลียด ผ่านมือของ เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปแล้ว แต่เฉียดเสาไกลซ้ายมือ ออกหลังไปนิดเดียว
นาที 76 GOAL!!!
หลังจากบดอยู่นาน เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 !!! เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย อิสโก้ เปิดบอลโด่งโค้งไปที่เสาสองให้ เอแดร์ มิลิเตา โฉบมาโหม่งเต็ม ๆ ผ่านมือ เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบสามเหลี่ยมมุมแคบ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม
นาที 80 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาได้ประตูหนีห่างอย่างรวดเร็วเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ คาริม เบนเซม่า พลิกบอลหนีตัวประกบจากตรงกลางสนามมาได้สวย ก่อนจะกระชากเลี้ยงจี้ขึ้นมาเองถึงหน้ากรอบเขตโทษ แล้วแทงบอลทะลุช่องให้ คาเซมิโร่ หลุดเข้าไปในตรงกลางเขตโทษ เจ้าตัวจับบอลลั่น กลายเป็นดี ทำให้ เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียจังหวะ บอลไหลผ่านนายทวาร เข้าประตูไปแบบงง ๆ
นาที 84
เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูที่สาม เป็นจังหวะ มิเกล กูเตียร์เรซ ตัวสำรอง กระชากขึ้นมาทางซ้าย ถึงสุดเส้นหลัง แล้วครอสย้อนหลังไปที่หน้ากรอบเขตโทษให้ คาริม เบนเซม่า ได้พักอกหนึ่งจังหวะ แล้วเอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ บอลพุ่งแรงและตรงกรอบ แต่ไม่มุมพอ เซร์คิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาไปปัดไว้ได้ทัน
นาที 87
เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาตรงกลาง โรดริโก้ โกเอส ลากจี้ขึ้นมา ก่อนจะไหลให้ อิสโก้ ในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวโยกหลอกตัวประกบเข้าขวา ก่อนจะซัดด้วยขวาไปที่เสาไกลซ้ายมือ บอลพุ่งแรงและเลียด เฉียดเสาไกล ออกไปนิดเดียว
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน โอซาซูน่า ไปได้ 2-0 !!! รั้งรองจ่าฝูงอยู่เหมือนเดิม แต่ตามหลังจ่าฝูง แอต มาดริด อยู่แค่ 2 คะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับทีมเซบีย่า ส่วนทางด้าน โอซาซูน่า อยู่อันดับที่ 11 ของตารางคะแนน นัดต่อไปต้องออกไปเยือนทีมแอธเบติก บิลเบา