ฟาบริซ มูอัมบ้า เปิดเผยว่าเขาพร้อมให้คำแนะนำแก่ อีน็อค เอ็มเวปู หลังมิดฟิลด์วัย 24 ปี ต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควร เนื่องจากตรวจพบโรคหัวใจจากกรรมพันธุ์
มูอัมบ้า เคยหัวใจวายระหว่างการแข่งขันกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในปี 2012 และหัวใจหยุดเต้นไปเกินชั่วโมง เขาต้องการ CPR และใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ ก่อนแขวนสตั๊ดตามคำแนะนำของแพทย์
มูอัมบ้า ซึ่งยังคงทำงานในวงการฟุตบอลในบทบาทต่าง ๆ ได้ติดต่อ เอ็มเวปู หลังจากที่อดีตแข้งไบรท์ตันตัดสินใจแขวนเกือก ภายหลังทราบว่าอาจเสี่ยงต่อการหัวใจหยุดเต้นหากฝืนเล่นต่อไป
เอ็มเวปู ซึ่งเล่น 27 นัดให้ ไบรท์ตัน หลังย้ายมาจาก ซัลซ์บวร์ก ด้วยสนนราคา 18 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ 2021 มีอาการป่วยระหว่างพักเบรคทีมชาติที่ผ่านมา
เขาต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในประเทศมาลีก่อนจะกลับอังกฤษเพื่อตรวจหาอาการเพิ่มเติมและเจอความผิดปกติ
ผลการวินิจฉัยของทีมแพทย์ระบุว่า เอ็มเวปู ป่วยเป็นโรคหัวใจที่มาจากกรรมพันธุ์ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคหัวใจวายร้ายแรงหากเขายังฝืนเล่นต่อ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแขวนสตั๊ดในเวลาต่อมา
มูอัมบ้า ซึ่งตอนนี้อายุ 34 ปีได้ติดต่อ เอ็มเวปู หลังทราบข่าวเพื่อเสนอตัวให้คำแนะนำ เขาได้บอกกับ The Mirror เกี่ยวกับความท้าทายที่ เอ็มเวปู อาจเผชิญหลังแขวนสตั๊ดและเสนอวิธีแก้ปัญหา
“ด้วยสถานการณ์ของอีน็อค ผมคิดว่าเขาต้องใช้เวลาในการปรับตัว” มูอัมบ้า กล่าว “เขาต้องการการซัพพอร์ตมากที่สุด เพราะเขาต้องเจอกับสถานการณ์จากที่จะได้เล่นฟุตบอลในวันนี้ และแต่กลับถูกแจ้งว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้เล่นฟุตบอลอีกต่อไป เพราะสุขภาพของคุณคือสิ่งสำคัญที่สุด”
“ผมเคยบอกไปหลายครั้งว่าผมพร้อมเสมอถ้าเขาอยากพูด, ผมแฮปปี้ที่ได้คุยกับเขา และผมหวังว่าไบรท์ตันจะให้เขาอยู่กับสโมสรต่อไปเพราะเขายังเด็กอยู่ และยังมีสิ่งที่มอบให้กับฟุตบอลได้อีกมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการซัพพอร์ตที่เขาจะได้รับจากวงการฟุตบอล”
“ผมมั่นใจว่า เอฟเอ, พีเอฟเอ, ไบรท์ตัน, พรีเมียร์ลีก จะหาทางแก้ไขหรือช่วยหาอะไรให้เขาทำหลังแขวนสตั๊ด เขาอายุยังน้อย, ยังมีเวลาอีกหลายปี, และคุณแค่หวังว่าเขาจะได้รับการซัพพอร์ตที่ดีรอบ ๆ ตัว”
มูอัมบ้า ยังพูดถึงประสบการณ์และเปรียบเทียบความรู้สึกของเขากับสิ่งที่ เอ็มเวปู อาจพบเจอในอนาคตหลังแขวนสตั๊ด
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับผมแล้ว มันเป็นแบบนี้มากกว่า ‘ใช้เวลาให้เต็มที่แล้วเมื่อนายพร้อม, โทรหาเราและเราจะมอบสิ่งนั้นสิ่งนี้ให้นาย”
“ไม่ใช่ทุกคนที่มีโอกาสแบบนั้นได้ แต่เนื่องจาก (เอ็มเวปู) อยู่ในพรีเมียร์ลีก ผมคิดว่าเขาควรเปิดรับทุกโอกาสที่เข้ามา, ติดต่อกับสโมสรต่าง ๆ, หาว่ามีคอร์สที่ต้องเรียนหรือไม่”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเมื่อคุณหยุดเล่นฟุตบอล ปัญหาคือคุณไม่มีกิจวัตรประจำวัน”
“เมื่อคุณไม่มีกิจวัตรประจำวันก็จะแบบ ‘ฉันจะทำไงกับตัวเองดี?’ และผมหวังว่าเขาจะหากิจวัตรประจำวันเจอ และเมื่อเจอแล้วเขาจะค่อย ๆ หาวิธีที่ดีขึ้นในการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดอย่างแน่นอน”
“การซัพพอร์ตจากครอบครัว, สโมสรของเขา และวงการฟุตบอล, จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้การเปลี่ยนแปลงของเขาเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด ถ้าเขาอยากพูดและติดต่อ, ผมยิ่งกว่าแฮปปี้ที่จะได้พูดคุยเพื่อแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย”