เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น นาโปลี เปิดสนาม สตาดิโอ ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า, เมืองเนเปิ้ลส์ ประเทศอิตาลี ต้อนรับการมาเยือนของทีม เวโรน่า ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดที่ 12 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น นาโปลี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย อ็องเดร ซามโบ อ็องกีสซ่า กองกลางห้องเครื่องพันธุ์แกร่ง ลอเรนโซ่ อินซินเย่ กองหน้ากึ่งปีกตัวทำเกมริมเส้น วิคเตอร์ โอซิมเฮน ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เวโรน่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อิกอร์ ทูดอร์ มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย มิเกล เวโลโซ่ มิดฟิลด์ห้องเครื่องตัวคุมจังหวะเกม จานลูก้า คาปรารี่ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ โจวานนี่ ซิเมโอเน่ กองหน้าตัวความหวังของทีม
นาที 9
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น นาโปลี ที่ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือนทันที ได้ทักทายก่อนจากจังหวะ มาริโอ รุย ดันสูงขึ้นมารับบอลทางมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะตักมาที่หน้าเสาแรกให้ ปิเอโตร ซิลินสกี้ โฉบมาตวัดแปด้วยซ้าย แต่โดนไม่ค่อยดี บอลไม่ตรงกรอบ ปลิ้นมาทางเสาไกลเข้าทาง วิคเตอร์ โอซิมเฮน ได้ซ้ำอีกทีก็ติดบล็อกออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 12
ทีมเยือน เวโรน่า ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ อาเดรียง ตามิซี่ จ่ายยัดมาที่กึ่งกลางสนามให้ อันโตนิน บารัค พลิกบอลแล้วลากจี้มาถึงหน้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะไหลนิ่ม ๆ ต่อมาที่หัวกระโหลกให้ จานลูก้า คาปรารี่ ได้แต่งหนึ่งที แล้วกดเลียดด้วยขวาเน้น ๆ ยังไม่มุมเท่าไหร่ ดาบิด ออสปิน่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทิ้งตัวปัดออกมาเข้าทาง นิโคโล่ คาเซเล่ วิ่งมาซ้ำก็เหินข้ามคาน หลุดกรอบออกไปอีก
นาที 13 GOAL!!!
ทีมเยือน เวโรน่า มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะ อันโตนิน บารัค พาบอลพลิ้วขึ้นมาเองทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวโยกหลอก มาริโอ รุย หลุดมาถึงสุดเส้นหลังได้สวย ตามด้วยลากจี้ไต่เส้นเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะจ่ายเลียดยัดมาที่หน้าเสาแรกให้ โจวานนี่ ซิเมโอเน่ ชิงเหลี่ยมเอาชนะ อาเมียร์ ราห์มานี่ โฉบมาทิ้งตัวดีดเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลเปลี่ยนทางกระดอนผ่านมือ ดาบิด ออสปิน่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 15
เจ้าถิ่น นาโปลี ตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ วิคเตอร์ โอซิมเฮน พาบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวไหลตามช่องให้ มัตเตโอ โปลิตาโน่ วิ่งสอดไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะตวัดแฉลบมาที่หน้าเสาแรกเข้าทาง ปิเอโตร ซิลินสกี้ จับแล้วพลิกจ่ายเข้ากลางให้ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ได้ตั้งป้อมปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ ส่งบอลเหินข้ามคานออกไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 18 GOAL!!!
เจ้าถิ่น นาโปลี มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบในแนวลึก เปิดยัดแล้วโดนโหม่งสกัดออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง อาเมียร์ ราห์มานี่ ถอยมาโหม่งเสยเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาต่อให้ ฟาเบียน รูอิซ ไหลทะลุช่องตัดหลังแนวรับมาที่หน้าเสาแรกให้ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ได้วิ่งสอดไปตวัดยิงเลียดมุมแคบด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ ส่งบอลพุ่งลอดหว่างขาของ ลอเรนโซ่ มอนติโป ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 27
เจ้าถิ่น นาโปลี บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ลากจี้ขึ้นมาเองทางกราบซ้าย ก่อนจะโยกตัดเข้ากลางแล้วบรรจงหยอดโด่งลึกไปที่เสาไกลให้ มัตเตโอ โปลิตาโน่ วิ่งสอดตัดหลัง นิโคโล่ คาเซเล่ โฉบมาโขกเหน่ง ๆ มุมแคบโดน ลอเรนโซ่ มอนติโป ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่วิ่งมาคุมเสาปิดมุมได้ไว ผวาปัดทิ้งออกหลังไปได้ทันเฉียดฉิว เสียเป็นลูกเตะมุม
นาที 32
ทีมเยือน เวโรน่า ต่อบอลทำชิ่งขึ้นมาทางกราบซ้ายได้สวย จังหวะนี้บอลมาถึง จานลูก้า คาปรารี่ แทงทะลุช่องเร็วให้ โจวานนี่ ซิเมโอเน่ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะดีดเลียดไหลย้อนถวายพานเข้ากลางมาที่บริเวณหน้าจุดโทษตั้งให้ อันโตนิน บารัค วิ่งมากดด้วยขวาเน้น ๆ แบบไร้ตัวประกบ ทว่าต้องชม อาเมียร์ ราห์มานี่ อ่านเกมขาด ทิ้งตัวสไลด์บล็อกบอล ป้องกันเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว ดาบิด ออสปิน่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น คว้าต่อเข้าซองเอาไว้ได้สบาย
นาที 42
เจ้าถิ่น นาโปลี น่าจะได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ แทงบอลขนานริมเส้นฝั่งขวาขึ้นมาให้ มัตเตโอ โปลิตาโน่ พลิกบอลหลอกแนวรับทีมเยือน ลากหลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาได้สวย ก่อนจะจ่ายยัดมาที่หน้าเสาแรกให้ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ที่ยืนหันหลังให้ประตูอยู่ ได้จับด้วยขวาแล้วกลับตัวตวัดยิงด้วยซ้ายอย่างเหนือชั้น ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ลอเรนโซ่ มอนติโป ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปชนเสาไกลซ้ายมืออย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน เวโรน่า ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น นาโปลี ที่ครองบอลพับสนามบุกเข้าใส่อยู่ฝั่งเดียว ตามตีเสมอได้สำเร็จ สกอร์ตอนนี้ เจ๊ากันอยู่ที่ 1-1 !!!
นาที 58
เปิดฉากครึ่งหลังมา ทีมเยือน เวโรน่า ได้ทักทายก่อน จากจังหวะต่อบอลกันขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ จานลูก้า คาปรารี่ เห็นช่องแล้วแต่งหนึ่งที ก่อนจะขอลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกกองหลังนาโปลีเต็ม ๆ กระเด้งออกมา ยังไม่ได้ลุ้นอะไรมาก
นาที 62
เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม เจ้าถิ่น นาโปลี ครองบอลบุกได้มากกว่าก็จริง ทว่ายังเจาะแนวรับทีมเยือน เวโรน่า เข้าไปยิงเน้น ๆ ไม่ได้เลย ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือหัวเหม่งของทัพอัซซูร่า แก้เกมด้วยการถอด มัตเตโอ โปลิตาโน่ กับ ปิเอโตร ซิลินสกี้ ออกไปพัก แล้วจัดการส่ง เอลีฟ เอลมาส และ เออร์วิ่ง ลาซาโน่ สองแนวรุกตัวจี๊ด ลงมาช่วยสร้างสรรค์เกมบุกแทน
นาที 65
เจ้าถิ่น นาโปลี ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ วิคเตอร์ โอซิมเฮน พลิกบอลลากขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ เจ้าตัวไหลมาที่หน้าเขตโทษด้านขวาต่อให้ เออร์วิ่ง ลาซาโน่ ได้โยกหนีตัวประกบตัดเข้ากลาง ก่อนจะพยายามปั่นเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ ทว่าโดนใต้ลูกมากไปหน่อย บอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล
นาที 67
ทีมเยือน เวโรน่า พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เป็นจังหวะ เดวิเด้ ฟาราโอนี่ เบิ้ลบอลโด่งจังหวะเดียวทิ้งยาวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ โจวานนี่ ซิเมโอเน่ ได้สปีดมาบังบอลดึงจังหวะรอเพื่อน เจ้าตัวเหลือบมองแล้วดีดสั้น ๆ ย้อนเข้ากลางไหลถวายพานมาให้ อันโตนิน บารัค ที่วิ่งสอดตามขึ้นมา ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะเอี้ยวตัวแปด้วยซ้ายโล่ง ๆ บริเวณจุดโทษ ทว่าโดนไม่ดีเท่าไหร่ บอลเบาแถมตรงตัวของ ดาบิด ออสปิน่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทิ้งตัวรับเอาไว้ได้สบาย อย่างน่าเสียดายของสุด ๆ
นาที 75
ทีมเยือน เวโรน่า ที่เกมเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด เน้นการเพลสซิ่งบวกลูกเข้าบอลหนักถึงลูกถึงคน ถึงตอนนี้ใบเหลืองปลิวว่อน อิกอร์ ทูดอร์ กุนซืออดีตกองหลังชื่อดัง ถอดเอา โจวานนี่ ซิเมโอเน่ กับ อันโตนิน บารัค สองตัวเก่งออกไปพัก ก่อนจะจัดการส่ง เควิน ลาซัคน่า และ ดาเนี่ยล เบทซ่า ลงมาเติมความสดแทน
นาที 85
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น นาโปลี ยังคงเจาะไม่เข้า ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ทิ้งไพ่สองใบสุดท้ายด้วยการถอดเอา อ็องเดร ซามโบ อ็องกีสซ่า มิดฟิลด์ตัวรับ และ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ศูนย์หน้าตัวเก่ง ออกไปพัก ก่อนจะจัดการส่ง ดรีส เมอร์เท่นส์ กองหน้าตัวจบสกอร์ และ อดัมส์ อูวนาส ตัวรุกอีกคน ลงมาเล่นแทน
นาที 88 ใบแดง!!!
ทีมเยือน เวโรน่า ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะ ดาเนี่ยล เบทซ่า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาไม่นาน ไปทำฟาล์วตัดเกมใส่ เอลีฟ เอลมาส ผู้ตัดสินไม่รอช้า วิ่งมาแจกใบเหลืองใบที่สอง กลายเป็นใบแดง ไล่เจ้าตัวออกจากสนามไป
นาที 90+1
เจ้าถิ่น นาโปลี เกือบได้ประตูชัย เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้าหัวกระโหลก เยื้อง ๆ ไปทางซ้ายเล็กน้อย แล้วเป็น ดรีส เมอร์เท่นส์ รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ อ้อมกำแพง บอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ลอเรนโซ่ มอนติโป ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปชนเสาไกลขวามืออย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 90+3 ใบแดง!!!
สถานการณ์ของ ทีมเยือน เวโรน่า ต้องย่ำแย่ขึ้นไปอีก เมื่อต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่เก้าคน จากจังหวะ นิโคล่า คลาลินิซ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาไม่นาน ไปเล่นนอกเกมฟาดแขนใส่หน้าของ มาริโอ รุย จนล้มลงไปนอนกับพื้น ผู้ตัดสินวิ่งมาแจกใบเหลืองใบที่สอง กลายเป็นใบแดง ไล่ตะเพิดศูนย์หน้าทีมชาติโครเอเชียรายนี้ ออกจากสนามไปทันที
หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น นาโปลี เปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับทีมเยือน เวโรน่า ไปด้วยสกอร์ 1-1 !!! ไร้พ่าย 8 นัดติดรวมทุกรายการ ยังคงรั้งจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนอินเตอร์ มิลาน ในคืนวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ส่วนทางด้านเวโรน่า อยู่อันดับที่ 10 ของตารางคะแนน นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเอ็มโปลี ในคืนวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้