เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เปิดสนาม โมลินิวซ์ กราวนด์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดที่ 18 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น วูล์ฟแฮมป์ตัน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ บรูโน่ ลาจ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย รูเบน เนเวส มิดฟิลด์ห้องเครื่อง ชูเอา มูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ ราอูล ฮิเมเนซ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย เอ็นโดโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ตัวรับพลังไดนาโม เมสัน เม้าน์ท เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ คริสเตียน พูลิซิซ กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 1
เริ่มเกมมาได้แค่ 30 วินาที เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ที่ได้ทักทายก่อน แถมเกือบนำไว จากจังหวะ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ บรรจงวางบอลยาวข้ามแนวรับให้ รีซ เจมส์ วิ่งสอดเข้าไปจิ้มจ่อ ๆ ในเขตโทษติดเซฟของ โชเซ่ ซา ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ออกแรงผวาป้องกันเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่จะไลน์แมนจะยกธงล้ำหน้าตามหลังขึ้นมา ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี
นาที 4
เจ้าถิ่น ทัพหมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ได้ทักทายบ้าง แถมเกือบได้ประตูนำไวเหมือนกัน จากจังหวะ ราอูล ฮิเมเนซ กระชากบอลสวนกลับเร็วแหวกขึ้นมาตรงกลางแล้วโดนเบียดสกัด บอลทะลักมาที่หน้าหัวกระโหลกเข้าทาง ดาเนี่ยล โพเดนซ์ แต่งเข้าขวาหนึ่งที ก่อนจะตวัดส่องไกลเต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบแนวรับเชลซี เปลี่ยนทางกระดอนออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุม
นาที 10
ช่วงต้นเกม เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่ครองบอลเดินเกมรุกได้ดีกว่านิด ๆ ทว่าเกมรับของทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ยังคงเหนียวแน่นเหมือนเคย สกัดกั้น ป้องกันเอาไว้ได้หมดทุกกระบวนท่า
นาที 15
เจ้าถิ่น วูล์ฟแฮมป์ตัน วันนี้มาดุจริง ๆ เกมรุกวูบวาบไหลลื่นแบบสุด ๆ จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว ถ่ายออกมาทางริมกรอบฝั่งซ้ายให้ แฟร์นันโด มาร์ชาล บรรจงครอสเลียดไปที่หน้าปากประตู แล้วเป็น ราอูล ฮิเมเนซ พุ่งมาชาร์จไม่ทัน ช้าไปแค่นิดเดียวเท่านั้น บอลเลยไปเสาไกลเข้าทางปืนของ ดาเนี่ยล โพเดนซ์ ซัดเน้น ๆ เข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินเป่าให้ศูนย์หน้าชาวเม็กซิโกล้ำหน้าไปแล้วในจังหวะแรก เฮเก้อกันไปสำหรับแฟน ๆ หมาป่า
นาที 25
เกมดำเนินมาเกินครึ่งทางของครึ่งแรก ทีมเยือน เชลซี ยกระดับเกมขึ้นมาได้ดีกว่าช่วงแรกเยอะ ครองบอลพยายามปั่นเกมบุกใส่เจ้าถิ่น วูล์ฟแฮมป์ตัน อย่างต่อเนื่อง ทว่าภาพรวมยังถือว่าสูสี ยังไม่มีฝ่ายไหนเพลี้ยงพล้ำ
นาที 29
ทีมเยือน เชลซี พยายามหาจังหวะต่อบอลขึ้นมาทำเกมรุก จังหวะนี้ รีซ เจมส์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนจ่ายหักเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษต่อให้ เมสัน เม้าน์ท ได้โอกาสขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ จากนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งไปติดแนวรับเจ้าถิ่น สุดท้ายกระดอนหลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 35
เกมต้องหยุดชะงักไปพักใหญ่ ๆ เมื่อ ราอูล ฮิเมเนซ ศูนย์หน้าที่เคยบาดเจ็บหนักหายไปเป็นปี มีจังหวะปะทะเข้ากับ ติอาโก้ ซิลวา และ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ล้มลงไปนอนกองทั้งสามคน แพทย์ต้องวิ่งมาดูอาการกันยกใหญ่ สุดท้ายไม่มีอะไร ลุกขึ้นมาเล่นต่อไปได้ทั้งหมด แฟนสิงห์บลูส์ถึงกับใจหายเหมือนกัน ทีมยิ่งมีตัวรับบาดเจ็บเยอะอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
นาที 41
เจ้าถิ่น วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ดาเนี่ยล โพเดนซ์ กระชากมาเปิดทางริมเส้นฝั่งขวา บอลลอยโด่งเลยไปที่เสาไกลเข้าทาง เลอันเดร์ เดนดองเคอร์ สลัดหนีตัวประกบ วิ่งสอดมาเทคตัวขึ้นโขกคนเดียวโล่ง ๆ ทว่าบอลดันเบาแถมไปตรงตัวของ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทิ้งตัวรับเข้าซองเอาไว้ได้สบายไม่มีกระฉอก น่าเสียดายสุด ๆ จังหวะนี้
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเล่นกันได้อย่างสูสี รูปเกมของทั้งคู่ยังถือว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ โอกาสครองบอลบุกพอ ๆ กัน จังหวะจบสกอร์ในพื้นที่อันตราย ยังไม่ค่อยมีให้แฟน ๆ ได้เห็นมากนัก สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์เสมอกันอยู่ที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน 0 เชลซี 0
นาที 46
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทาง โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือของทางฝั่งเชลซี ที่ปรับหมากแก้เกมก่อนทันที จังหวะนี้ ถอดเปลี่ยนเอา เทรโวห์ ชาโลบาห์ กองหลังดาวรุ่งที่วันนี้สวมบทบาทเป็นมิดฟิลด์ตัวรับออกไปพัก ก่อนจะจัดการส่ง ซาอูล ญีเกซ ตัวรุกที่ยืมาจากแอตมาดริด ลงสนามมาคุมแดนกลางแทน
นาที 60
เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม รูปเกมของทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ดูดีขึ้นกว่าเดิมชัดเจน เครื่องเริ่มร้อน ครองบอลขึงเกมรุกได้ต่อเนื่อง ทว่าเกมส่วนใหญ่จะสู้กันอยู่ตรงกลางสนาม ทั้งสองทีมแทบไม่มีฝั่งใดที่มีจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้งเลย ทั้งคู่ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 70
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เกมยังคู่คี่สูสีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โอกาสได้ลุ้นแบบจะแจ้งแทบไม่มีให้เห็น ทั้งคู่เน้นหนักไปที่การครองบอลเป็นหลัก ต่างฝ่ายต่างเจาะเกมรับคู่แข่งไม่เข้า ทำเอาแฟน ๆ แทบจะหลับปุ๋ยคาสนามกันเลยทีเดียว
นาที 74
ทีมเยือน เชลซี ได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวา แล้วเป็น รีซ เจมส์ รับหน้าที่ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปในกรอบเขตโทษ โดนกองหลังเจ้าถิ่นโหม่งสกัดเคลียร์ออกมาเข้าทาง เมสัน เม้าน์ท ที่หน้าเขตโทษ ได้โอกาสหวดเน้น ๆ สวนกลับเข้าไป แต่ก็ยังไปติดบล็อกกองหลังวูล์ฟส์ กระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุมแทน
นาที 78
เรียกได้ว่าเป็นโอกาสดีที่สุดในเกมนี้ของทางฝั่งทีมเยือน เชลซี เลยก็ว่าได้ เมื่อ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พักบอลหาโอกาส เลือกไหลออกมาทางกราบซ้ายต่อให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ได้แทงทะลุช่องไปให้กับ คริสเตียน พูลิซิช ได้แตะบอลหนีแนวรับ หลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะวางเท้ากดมุมแคบเน้น ๆ ส่งบอลไปถูก โชเซ่ ซา ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่โชว์ซุปเปอร์เซฟ พุ่งออกมาปิดมุมได้ไว ปัดออกหลังไปได้ทันหวุดหวิด
นาที 84
ทีมเยือน เชลซี ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ติอาโก้ ซิลวา บรรจงวางบอลยาวข้ามแนวรับจากแดนตัวเองให้กับ เมสัน เม้าน์ท วิ่งสอดเอาชนะกับดักล้ำหน้าหลุดมาที่ริมกรอบ ก่อนจะตบเลียดเข้าไปที่กลางประตูให้ คริสเตียน พูลิซิช โฉบมาซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกกองหลังวูล์ฟส์เต็ม ๆ กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 89
ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน เชลซี ได้ลุ้นประตูชัยเฮือกสุดท้าย จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เมสัน เม้าน์ท รับหน้าที่ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ได้สลัดหนีตัวประกบ โฉบมาเทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ แต่กดไม่ลง บอลเหินข้ามคาน ลอยโด่ง หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย