เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (พรีเมียร์ลีก) เปิดสนาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี (พรีเมียร์ลีก) ในศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 (นัดแรกเชลซีชนะ2-0) เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 12 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา เป็นลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์
เกมนี้ เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ มาเล่นในระบบ 5-3-2 นำทีมโดย ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม ลูคัส มูร่า ปีกจอมเลื้อย และ แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย มัตเตโอ โควาซิช กองกลางห้องเครื่อง เมสัน เม้าน์ท เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ โรเมลู ลูกากู ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 11
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ที่ได้ทักทายก่อน แถมเกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำเร็ว เป็นจังหวะ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ วางบอลจากยาวแดนหลังขึ้นมาให้กับ โรเมลู ลูกากู สปีดเข้าไปพักอกเอาบอลลงในเขตโทษ ก่อนจะอาศัยความแข็งแกร่งเบียดเอาชนะแนวรับเจ้าถิ่น ได้หลุดไปซัดจ่อ ๆ ทว่าเป็น ปิแอร์ลุยจิ โกลลินี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ทิ้งตัวใช้ขาป้องกันเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 18 GOAL!!!
ทีมเยือน ทัพสิงห์บลูส์ เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เมสัน เม้าน์ท บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ได้เทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ ระยะแค่ 6 หลา ส่งบอลพุ่งสวนตัวของ ปิแอร์ลุยจิ โกลลินี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่พยายามชกแต่ไม่โดน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 23
ทีมเยือน เชลซี บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ หวิดได้เพิ่มเมื่อ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย ลากตัดจากซ้ายเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยแต่เป็น ปิแอร์ลุยจิ โกลลินี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ผวาพุ่งปัด ช่วยไก่เดือยทองรอดพ้นจากเสียประตูไปได้หวุดหวิด
นาที 32
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ แมตต์ โดเฮอร์ตี้ เติมสูงสอดขึ้นมาทางฝั่งซ้าย เจ้าตัวปาดเข้ากลางไปให้กับ แฮร์รี่ เคน จับบอลแล้วหมุนตัวยิงเน้น ๆ ติดบล็อก บอลกระเด้งมาเข้าทาง ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก ได้บรรจงปั่นด้ายขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบกองหลัง กระดอนเฉียดเสา หลุดออกหลังไปชนิดได้เสียว
นาที 33
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้เป็นฝ่ายบุกต่อเนื่องบ้าง จังหวะนี้ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา โจวานี่ โล เซลโซ่ เปิดบอลโด่งเข้าไปลุ้นในเขตโทษ แล้วก็เป็น จาเฟ็ต ทาทังก้า โฉบมาโหม่งสะบัดเน้น ๆ ไปที่เสาไกล แฮร์รี่ เคน พยายามแหย่เท้ายิงสุดเหยียดแต่ไม่โดน สุดท้ายบอลผ่านหน้าปากประตู ถากเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแบบเสียววาบ
นาที 40 VAR!!!
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เกือบจะได้ลูกจุดโทษ เป็นจังหวะ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ไปทำฟาล์ว สไลด์เสียบใส่ ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก ไถลล้มลงไปในเขตโทษ ทีแรกผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ เป่าให้เป็นลูกจุดโทษ ก่อนจะขอไปเช็ค VAR แล้วกลับมาเปลี่ยนให้เป็นลูกฟรีนอกกรอบแทน ซึ่งภาพช้าจะเห็นว่า จังหวะทำฟาล์วตัวยังไม่ข้ามเส้น อันนี้ก็ 50-50 อยู่ที่กรรมการเลยว่าจะให้หรือไม่ให้ สกอร์ยังไม่เปลี่ยนแปลง เชลซี บุกนำ 1-0 !!!
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพสิงห์บลูส์ ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 64 เปอร์เซ็นต์ เป็นฝ่ายบุกกดดันใส่เจ้าถิ่น ทัพไก่เดือยทอง อยู่แทบจะฝั่งเดียว แถมยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0 เชลซี 1
นาที 56 VAR!!!
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เกือบจะได้ลูกจุดโทษอีกครั้ง จากจังหวะ แฮร์รี่ เคน ถอยเก็บบอลกลางสนาม ก่อนจะไหลเลียยดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ ลูคัส มูร่า รับบอลมาแล้วโดน เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน พุ่งออกเกี่ยวล้มลงไป ทีแรกผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ เป่ามอบจุดโทษให้ทันที ก่อนที่จะวิ่งไปเช็ค VAR สุดท้ายกลับลงมาแล้วเปลี่ยนคำตัดสินให้เล่นต่อไปไม่มีอะไร ซึ่งภาพช้าจะเห็นว่า นายทวารทีมเยือนสกัดโดนบอลก่อนจริง ๆ
นาที 60
เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมง เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เริ่มสร้างความกดดัน ทำเกมรุกบุกใส่ทีมเยือนได้มากขึ้น จังหวะนี้ เบน เดวิส ได้บอลหลุดขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะบรรจงครอสบอลโค้งเข้าไปที่กลางประตูให้ เอแมร์ซอน โรยัล ได้สอดมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ทว่าเป็น เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาปัดเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 63 VAR!!!
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วันนี้เจอ VAR อีกแล้วเป็นครั้งที่สาม จังหวะนี้ ตัดบอลได้จากความผิดพลาดของทีมเยือนแล้วสวนกลับเร็ว เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ออกบอลให้เพื่อนร่วมทีมไม่ดี ลูคัส มูร่า ฉกได้แล้วจ่ายฝาก แฮร์รี่ เคน ซัดในเขตโทษเน้น ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ทว่า VAR ชี้ชัดว่าล้ำหน้า เฮเก้อกันไปอีกครั้งสำหรับแฟน ๆ
นาที 75
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พยายามเปิดเกมรุก โหมบุกใส่ทีมเยือน เชลซี อย่างหนัก แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับอันแข็งแกร่งของทัพสิงห์บลูส์ได้ โอกาสจบเหน่ง ๆ แบบจะแจ้งของทั้งสองทีม แทบไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น สกอร์ยังเป็น สเปอร์ส 0 เชลซี 1 !!!
นาที 87
ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน เชลซี ยังคุมสถานการณ์เอาไว้ได้หมด ทว่ามีเหตุการณ์ที่ทำให้เกมต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะ เมื่อมีแฟนบอลเกิดปัญหาเรื่องสุขภาพบนอัศจรรย์ ไบรอัน กิล เห็นเหตุการณ์บางอย่างบนอัฒจรรย์ จึงรีบแจ้งกรรมการส่งทีมแพทย์ขึ้นไปดู สุดท้ายช่วยเอาไว้ได้ทัน ก่อนจะกลับมาเล่นกันต่อจนหมดเวลา
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เชลซี ที่บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! ผลรวมสองนัดเป็น เชลซี 3-0 สเปอร์ส ทัพสิงห์บลูส์ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยจะรอพบคู่ระหว่าง อาร์เซน่อล หรือ ลิเวอร์พูล ที่จะได้กันวันที่ 13 มกราคม 2565 ที่จะถึงนี้