เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูลเปิดสนาม แอนฟิลด์, เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนทัพสาลิกาดง “นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด” ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดที่ 17 เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ติอาโก้ อัลคันทาร่า มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกกึ่งกองหน้าตัวจี๊ด และ ซาดิโอ มาเน่ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน นิวคาสเซิ่ล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย ไอแซ็ค เฮย์เดน กองกลางห้องเครื่อง จอนโจ้ เชลวี่ย์ เพลย์เมกเกอร์เท้าหนัก และ อัลล็อง แซงต์ มักซิแม็ง ศูนย์ตัวความหวังของทีม
นาที 6
เปิดฉากมา เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ตอกส้นจ่ายบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ ดีโอโก้ โชต้า สอดมาหาช่องตวัดด้วยซ้ายยัดมุมแคบไปที่เสาแรกติดเซฟของ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ป้องกันเอาไว้ได้ทัน
นาที 7 GOAL!!!
ทีมเยือน ทัพสาลิกาดง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ สวนกลับเร็วขึ้นมาทางซ้าย แล้วเป็น ไรอัน เฟรเซอร์ เปิดบอลเข้าเขตโทษแล้วโดน ติอาโก้ อัลกันตาร่า สกัดไม่ดีออกมาที่หน้าเขตโทษมาเข้าทาง จอนโจ เชลวี่ย์ ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงอัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย เสียบหน้าต่างเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม ชนิดที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทำได้แค่หันมอง
นาที 9
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา เจ้าตัวเปิดบอลดีดไซค์ก้อยเข้าไปที่กรอบ 6 หลา แล้วเป็น ซาดิโอ มาเน่ สอดมาจับบอลลง ก่อนจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ ผ่านมือ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปชนเสาอย่างจังกระเด้งออกมา ทว่ามีธงล้ำหน้ายกตามขึ้นมา ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี
นาที 14
ทีมเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นครึ่งแรก เมื่อ จามาล ลูอิส มีอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงเล่นต่อไม่ไหว เจ้าตัวโดนถอดออกไปให้แพทย์ดูแลต่อ ก่อนจะเป็น แมตต์ ริตชี่ ที่ลงสนามมาประจำการแทน
นาที 16
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยมาที่เสาแรก แล้วเป็น อิบราฮิม่า โกนาเต้ สลัดหนีตัวประกบมาได้สวย ก่อนจะกระโดดเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ คนเดียว แต่สะบัดโดนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บอลหลุดเสาไกลออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 19
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ดีโอโก้ โชต้า เก็บตกบอลได้บริเวณกลางสนาม เจ้าตัวลากพาบอลจี้ขึ้นทาเองถึงหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะขอลองก้มหน้ากดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวถากเสาแรก เข้าหน้าข้างตาข่าย หลุดออกหลังไป ชนิดได้ลุ้นเลยทีเดียว
นาที 21 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ ไอแซ็ค เฮย์เดน นอนเจ็บอยู่แต่เกมไม่ยอมหยุด แล้วก็เป็น ซาดิโอ มาเน่ ได้บอลหลุดขึ้นมาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะครอสไปที่เสาไกลให้ ดีโอโก้ โชต้า สอดมาโขกเหน่ง ๆ ไปติดเซฟของ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน กระเด้งกลับมาเข้าทางปืนของศูนย์หน้าทีมชาติโปรตุเกสอีกรอบ คราวนี้เจ้าตัวซ้ำเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือ
นาที 24
ทีมเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เป็นจังหวะความผิดพลาดของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า อีกแล้วที่จ่ายเสียโดน อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง ฉกสวนลากหลุดขึ้นมาเอง ก่อนจะได้ช่องซัดหักข้อด้วยขวาเน้น ๆ ติดปลายมือของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่โชว์ซุปเปอร์เซฟ ล้มตัวป้องกันเอาไว้ได้ทันนิดเดียว ไม่งั้นใส่สกอร์รอได้เลย
นาที 25 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำเป็น 2-1 !!! จากจังหวะความผิดพลาดของ จอนโจ เชลวี่ย์ จ่ายบอลคืนหลังไม่ดูให้ดีโดน ซาดิโอ มาเน่ วิ่งโฉบมาเกี่ยวไว้ได้ในเขตโทษ ก่อนจะยิงเร็วไปติดขาของ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน กระดอนมาเข้าทางปืนของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ตามซ้ำโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 35
ก่อนหมดครึ่งแรก 15 นาที เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ อเล็กซ์ อ๊อกเลด แชมเบอร์เลน วางบอลข้ามแนวรับทีมเยือนอย่างสวยออกขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้แต่งบอลทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะพยายามยิงด้วยขวาข้างไม่ถนัด ส่งบอลพุ่งผ่านหน้าของ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวชนิดได้เสียว
นาที 45
ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ครองบอลโหมบุกใส่ทีมเยือนอยู่ฝ่ายเดียว จังหวะนี้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้บอลแถวสองหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น โฌแอล มาติป พยายามถอยมาโหม่ง โดนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่งบอลเบาลอยย้อยเข้ามือ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้สบาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่ทำช็อค บุกมายิงขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มเกม หลังจากนั้นก็เป็นทางเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล กลายเป็นฝ่ายครองบอลพับสนามบุกอยู่ฝั่งเดียว ยิงสองลูกรวดพลิกแซงขึ้นนำได้สำเร็จ สกอร์ตอนนี้ ลิเวอร์พูล 2 นิวคาสเซิ่ล 1 !!!
นาที 55
เริ่มครึ่งหลังมา เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ออกหมัดก่อนเลยทันที จังหวะนี้ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบตรงกลาง แล้วก็เป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน บรรจงหยอดบอลเข้าไปที่กรอบ 6 หลาถึง ซาดิโอ มาเน่ สอดมาโขกตามน้ำ เปลี่ยนทางบอลไปติดมือของ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ลอยตัวไปคว้าเอาไว้ได้ทัน
นาที 56
ทีมเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาได้ลุ้นประตูตีเสมอ จากจังหวะสวนกลับเร็ว เจคอบ เมอร์ฟี่ ขยับมารับบอลลากหนี ติอาโก้ อัลกันตาร่า จากด้านขวาตัดเข้ากลางมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะได้ช่องบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทว่าบอลโค้งน้อยไปแค่นิดเดียว ถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 63
ทีมเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เกือบได้ลูกจุดโทษ เป็นจังหวะสวนกลับเร็ว เจคอบ เมอร์ฟี่ หลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะเปิดเลียดเข้าไปในเขตโทษให้กับ ไรอัน เฟรเซอร์ กำลังจะได้หลุดโล่ง ๆ แต่โดน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตามมาแซะแหย่ขาสกัดล้มลงไป ทว่า ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ยังคงนิ่ง ไม่ได้ว่าอะไร ผู้เล่นสาลิกาพยายามโวยวายกันใหญ่แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
นาที 70
ทีมเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาได้ลุ้นจากฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษระยะ 25 หลา เยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น จอนโจ เชลวี่ย์ รับอาสา ขยับเข้ามาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เฉียดเสาแรกซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
นาที 72
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ โฌแอล มาติป ดันสูงจ่ายยัดให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ พลิกบอลหลุดทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนที่เจ้าตัวจะสบโอกาส วางเท้าปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ กะจะให้เข้าทางเสาไกลซ้ายมือ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ยังโค้งไม่พอ ลอยหลุดออกหลังไปไกล
นาที 79
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ติอาโก้ อัลกันตาร่า เก็บแถวสองได้แล้วจ่ายสั้น ๆ ต่อมาให้ เกอิต้า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้แต่งหาช่องหนึ่งที ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยขวานอกกรอบกว่า 30 หลา ส่งบอลพุ่งแรงน้ำหนักกำลังดี แต่ทิศทางยังไม่เข้าเป้า หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าผิดหวัง
นาที 81
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ดีโอโก้ โชต้า ดีดบอลให้ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวหักย้อนศรแฉลบ ไอแซ็ค เฮย์เดน สกัดไม่ดีบอลกลับมาเข้าทาง โชต้า เจ้าเก่า วิ่งเข้ามาซัดเร็วก็ยังไปติดบล็อกของแนวรับทีมเยือน ตามมาขวางทางปืน ช่วยทีมป้องกันเอาไว้ได้ทัน
นาที 85
ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ยังคงขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ เกอิต้า พยายามจะจ่ายบอลทะลุช่องให้ ดีโอโก้ โชต้า แต่โดนสกัดเอาไว้ได้ ทว่าบอลกระเด้งกลับมาเข้าทางเจ้าตัวอีกครั้ง คราวนี้ดาวเตะกีนี ตัดสินใจลองยิงไกลนอกกรอบกว่า 35 หลาซะเลย แต่เป็น มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังยืนตำแหน่งได้ดี เขยิบไปคว้าเอาไว้ได้หนึบเลย
นาที 87 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูปิดเกมเป็น 3-1 !!! จากจังหวะ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จ่ายสั้น ๆ ไหลมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้เติมมาแต่งบอลหนึ่งที ก่อนจะก้มหน้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดแถมติดส่าย มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดไม่พ้น บอลเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 !!! รั้งอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะออกไปเยือนท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านนิวคาสเซิ่ล รั้งรองบ๊วยของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในคืนเดียวกันแต่คนละเวลา