เฟลิกซ์ ซานเชซ เฮดโค้ช กาตาร์ บอกว่าพอใจกับฟอร์มการเล่นลูกทีมถึงแม้จะตกรอบ เพราะเป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่การเข้ารอบต่อไปมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
คืนวันอังคารที่ผ่านมา ซานเชซ คุม กาตาร์ แพ้ เนเธอร์แลนด์ 2-0 ยุติเส้นทางของทีมเจ้าภาพไว้ที่รอบแบ่งกลุ่ม ด้วยสถิติปราชัย 3 นัดรวดจมอันดับบ๊วย เสีย 7 ประตูยิงได้แค่ลูกเดียว
นับเป็นครั้งที่สอง ในประวัติศาสตร์ 92 ปีของฟุตบอลโลก ที่ประเทศเจ้าภาพไม่สามารถผ่านการแข่งขันรอบแรกได้ โดยก่อนหน้านี้คือ แอฟริกาใต้ เมื่อปี 2010
นอกจากนี้ กาตาร์ ยังสร้างสถิติ เป็นเจ้าภาพชาติแรกในประวัติศาสตร์ที่แพ้สามเกมรวดในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเมื่อปี 2010 แอฟริกาใต้ ยังมีผลงานน่าประทับใจอยู่บ้างกับการพลิกล็อคชนะ ฝรั่งเศส และยันเสมอ เม็กซิโก
หลังจบเกมกับ “กังหันลมสีส้ม” ซานเชซ ให้สัมภาษณ์สื่อกล่าวถึงผลงานของพวกเขา
“ถ้าเราพูดถึงเรื่องสถิติ, ความเป็นจริงคือประเทศของเรามีผู้ได้รับใบอนุญาติด้านฟุตบอลแค่ 6,000 คนเท่านั้น ดังนั้นมีแนวโน้มที่เราจะเจอสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้ว”
“เราไม่เคยตั้งเป้าหมายถึงการเข้ารอบ 16 ทีม หรือรอบก่อนรองชนะเลิศ, เราแค่ต้องการเห็นว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง”
“เรารู้ว่าในเกมแรกกับ เอกวาดอร์ เราไม่ได้เล่นตามมาตรฐานของเรา และไม่ได้โชว์ฟอร์มดีเท่าที่เราต้องการ แต่สองเกมหลังจากนั้นเรามีเกมที่ดีกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่าง เซเนกัล และ เนเธอร์แลนด์”
“วันนี้เราเจอทีมที่ยอดเยี่ยม และอาจเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะเข้าไปถึงรอบลึกๆ ได้ในรายการนี้, มันเป็นเกมที่หนักสำหรับพวกเรา แต่ลูกทีมแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถลงเล่นในระดับที่สูงมากได้เป็นเวลานานหลายนาที”
“เราต้องอยู่กับความเป็นจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เราสามารถทำได้, เป้าหมายที่เราวางไว้ และความคาดหวังที่เราได้รับ”
“คุณสามารถพูดเรื่องสถิติได้ตามที่คุณต้องการ แต่เราจะประเมินทีมของเราเอง นั่นคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญ”
ซานเชซ เคยเป็นโค้ชชุดเยาวชนที่ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1996-2006 ก่อนจะข้ามทวีปมารับงานในกาตาร์ จนไต่เต้าได้คุมทีมชาติชุดใหญ่เมื่อปี 2017 และหลังจากนั้น 2 ปีพาทีมคว้า เอเชียน คัพ
กุนซือชาวสเปน ถูกถามเพิ่มเติมถึงอนาคตของเขากับตำแหน่งกุนซือ กาตาร์
“พูดตามตรงนะผมยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง… เราต้องกลับไปย้อนดูผลงานของเราในรายการนี้ก่อน เรายังไม่มีความคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องในอนาคต”