เกมการแข่งขัน ระหว่าง ทัพปีศาจแดงแห่งยุโรป ทีมชาติ เบลเยี่ยม กับ ทีมชาติ เบลารุส ในศึกฟุตบอลฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม อี โดยเล่นกันที่สนาม เซ็นทรัล สเตเดี้ยม, คาซาน เยคาเตรินเบิร์ก ประเทศรัสเซีย (สนามกลาง) เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 8 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ทีมชาติ เบลเยี่ยม ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ปราการหลังตัวเก๋า ยูริ ตีเลอมันส์ มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ เลอันโดร ทรอสซาร์ กองหน้าริมเส้นตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมชาติ เบลารุส ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ จอร์จี้ คอนดราติเยฟ มาเล่นในระบบ 4-5-1 นำทีมโดย วิตาลี่ ลิซาโควิช กองกลางห้องเครื่อง วลาดิสลาฟ คลิโมวิช ปีกตัวจี๊ด และ มักซิม สกาวิช กองหน้าตัวความหวังของทีม
นาที 3
เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่ง เบลเยี่ยม ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ โดดี้ ลุ๊คบาคิโอ้ ได้บอลหลุดมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะครอสเลียดมาที่หน้าเสาแรกให้ มิชี่ บาตซูอายี่ ได้วิ่งสอดมาแปด้วยขวาเน้น ๆ จังหวะเดียว ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกติดเซฟของ เซอร์เก เชอร์นิค ผู้รักษาประตูเบลารุส ที่ยืนคุมเสาอยู่ ทิ้งตัวรับเอาไว้ได้ทัน
นาที 15
ช่วงต้นเกม เป็นทางฝั่ง เบลเยี่ยม ที่ครองบอลบุกอยู่ฝ่ายเดียวตามคาด จังหวะนี้ เลอันโดร ทรอสซาร์ ครองบอลอยู่บริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวลากตัดเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
นาที 18
เบลารุส ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ได้ทุ่มทางซ้ายแล้วเคาะไปเคาะมา บอลสุดท้ายมาเข้าทาง วลาดิสลาฟ คลิโมวิช เจ้าตัวตวัดบอลแทงตามช่องให้ นิโกลาย โซโลตอฟ หลุดเข้าไปถึงหน้าเสาซ้ายมือ ก่อนจะซัดเลียดด้วยซ้ายยัดมุมแคบไปที่เสาแรกติดเซฟของ โคเอน คาสตีลส์ ผู้รักษาประตูเบลเยี่ยม ที่ยืนคุมเสาอยู่ รับเอาไว้ได้ทัน
นาที 20
เบลเยี่ยม เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส เปิดบอลโด่งจากทางกราบขวาเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็นกองหลังเบลารุส ที่โหม่งสกัดไม่ดี บอลลอยมาตกที่หน้าเสาขวามือเข้าทาง มิชี่ บาตซูอายี่ ได้ดูดบอลลง ก่อนจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ เล่นทาง บอลพุ่งกระดอนพื้นผ่านหน้าปากประตู เฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 30
เบลเยี่ยม ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเบลารุส จังหวะนี้ ตีโมธี คาสตาญเย่ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกรอบด้านซ้าย ก่อนจะครอสโด่งมาที่เสาแรกให้ มิชี่ บาตซูอายี่ ได้วิ่งโฉบมาโหม่งสะบัดเน้น ๆ แต่โดนบางไปหน่อย บอลหลุดกรอบออกไปไกล ออกอีกฝั่งอย่างน่าเสียดาย
นาที 31
เบลเยี่ยม น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เตะมุมแล้วโดนสกัดลอยออกมาที่หัวกระโหลกเข้าทาง แดดริค โบยาต้า ได้วิ่งมาตะบันเต็มข้อด้วยขวา บอลพุ่งแรงเป็นจรวดไปชนคานอย่างจัง กระเด้งลงพื้นลอยออกมาที่หน้าประตูเข้าทางปืนของ มิชี่ บาตซูอายี่ พุ่งโหม่งตอร์ปิโด ซ้ำเข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตู เพราะเจ้าตัวอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า
นาที 33 GOAL!!!
เบลเยี่ยม มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะ เลอันโดร ทรอสซาร์ แทงบอลยัดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส ได้พยายามจะพลิ้วหนีตัวประกบแต่โดนขวาง บอลผ่านคนไม่ผ่านกระฉอกไปที่หน้าเสาแรกขวามือเข้าทาง เดนนิส ปราท วิ่งสอดมาซัดหักข้อด้วยขวาไม่จับ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นผ่านมือ เซอร์เก เชอร์นิค ผู้รักษาประตูเบลารุส เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 34
เบลารุส ได้เตะมุมทางฝั่งขวา วิตาลี่ ลิซาโควิช เปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่กลางประตู แล้วเป็น อาร์ตยอม บีคอฟ วิ่งสอดมาโหม่งสะบัดเน้น ๆ ทว่าดันพุ่งไปตรงตัวของ โคเอน คาสตีลส์ ผู้รักษาประตูเบลเยี่ยม รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 42
เบลเยี่ยม ลุยมาอีกระลอก จังหวะนี้ ยูริ ตีเลอมันส์ เติมขึ้นมารับบอลที่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวานอกกรอบ ทว่าบอลเบาแถมตรงตัวของ เซอร์เก เชอร์นิค ผู้รักษาประตูเบลารุส รับไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมชาติ เบลเยี่ยม ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ปูพรมเดินเกมรุก ขึงเกมบุกเข้าใส่ทีมชาติ เบลารุส อยู่แทบจะฝั่งเดียว จนมาได้ประตูออกนำไปก่อนแล้ว 1-0 !!!
นาที 51
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมชาติ เบลเยี่ยม ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ โดดี้ ลุ๊คบาคิโอ้ ลาพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะโยกหาช่องแล้วจัดการซัดเองด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรง แต่ก็ยังเหินข้ามคานออกไปไกล
นาที 66
เบลเยี่ยม บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส บรรจงหยอดบอลเข้าไปยังพื้นที่ว่างหน้าเสาแรกขวามือให้ มิชี่ บาตซูอายี่ ได้วิ่งสอดขึ้นไปชาร์จ ทว่าถึงช้าไปหน่อย สกิดโดนบอลแค่นิดเดียว ก่อนจะกระดอนเข้ามือ เซอร์เก เชอร์นิค ผู้รักษาประตูเบลารุส รับสบาย
นาที 68
เบลเยี่ยม ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้เป็น มิชี่ บาตซูอายี่ เจ้าเก่า ได้บอลที่หน้ากรอบเขตโทษ เจ้าตัวแต่งหาช่อง ก่อนจะล็อคเข้าเหลี่ยมเท้าซ้ายแล้วซัดเร็วนอกกรอบ พุ่งเบาแถมไม่หนีมือเท่าไหร่ เซอร์เก เชอร์นิค ผู้รักษาประตูเบลารุส ยังรับไว้ได้สบายอีกครั้งหนึ่ง
นาที 78
เบลารุส นาน ๆ จะได้ตอบโต้ขึ้นมาที จังหวะนี้สวนกลับเร็วมาถึงหน้าเขตโทษที่ อาร์ตยอม บีคอฟ เจ้าตัวไม่พูดพร่ำทำเพลง พลิกมาปั่นด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งสวยแต่น้ำหนักล้นไปมาก เหินข้ามคานออกไป แบบไม่ได้ลุ้นอะไร
นาที 85
เบลเยี่ยม เกือบได้ประตูหนีห่างในช่วงท้ายเกม เป็นจังหวะได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น เอแด็น อาซาร์ รับอาสา วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง บอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่าจะเสียบเสาแรกซ้ายมืออยู่แล้ว แต่เป็น เซอร์เก เชอร์นิค ผู้รักษาประตูเบลารุส โชว์ซูเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดได้ทันหวุดหวิด
นาที 90+1
เบลเยี่ยม ได้ลุ้นส่งท้ายของเกม เป็นจังหวะ เอแด็น อาซาร์ ลากพาบอลจี้ขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะป้ายบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ตีโมธี คาสตาญเย่ ได้วิ่งมาวางเท้าปั่นด้วยขวาเน้น ๆ โล่ง ๆ เหินเฉียดคานไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมชาติ เบลเยี่ยม ที่เฉือนเอาชนะทีมชาติ เบลารุส ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! รั้งที่ 1 ของตารางคะแนนต่อไป โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับ เอสโตเนีย ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ส่วนทางด้านเบลารุส อยู่อันดับที่ 4 ของตาราง นัดต่อไปต้องออกไปเยือน เอสโตเนีย เช่นกัน ในวันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2564 ก่อนหน้าหนึ่งเดือน