เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เปิดสนาม เปิดสนาม เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว, กรุงมาดริด ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทัพตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด ในศึกฟุตบอล ลาลีกา สเปน นัดที่ 17 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย คาร์ลอส คาเซมิโร่ กองกลางห้องเครื่อง วินิซิอุส จูเนียร์ ตัวจี๊ดริมเส้นความเร็วสูง และ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย โกเก้ กองกลางห้องเครื่องตัวคุมจังหวะเกม ยานนิค แฟร์เรร่า การ์ราสโก้ ปีกจอมลากเลื้อย และ อองตวน กรีซมันน์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
นาที 4
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ มาเตอุส กุนญ่า ชิงเหลี่ยมเบียดเอาชนะแย่งจาก ดานี่ การ์บาฆาล หลุดมาถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวแต่งเข้าเหลี่ยม ก่อนจะได้ช่องซัดด้วยขวานอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรง เหินข้ามคานออกไป
นาที 11
เจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ได้ทักทายบ้าง จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย โทนี่ โครส บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาแรกให้ แล้วเป็น เอแดร์ มิลิเตา โฉบมาโหม่งเช็ดเน้น ๆ เปลี่ยนทาง ส่งบอลพุ่งผ่านหน้าปากประตู ถากเสาสอง หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 16 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ประสานงานต่อบอลกันขึันมาจากกลางสนาม แล้วเป็น มาร์โก อาเซนซิโอ้ แทงทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ วินิซิอุส จูเนียร์ วิ่งสอดมาเก็บบอล ก่อนจะยกเข้ากลางให้ คาริม เบนเซม่า ได้เอี้ยวตัวตวัดยิงวอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ สวนตัวผ่านมือ ยาน โอบลัค ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 25
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ยังเป็นฝ่ายครองบอล บุกขึ้นมาได้จบอีกครั้ง จังหวะนีั เอแดร์ มิลิเตา เติมสูงขึ้นมารับบอล ก่อนจะได้เหลี่ยม สบโอกาสขอลองซัดไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ยังไม่เข้าเป้า เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไป ไม่ได้ลุ้นอะไรมาก
นาที 30
เวลาดำเนินมาครบครึ่งชั่วโมง รูปเกมค่อนข้างน่าอึดอัดตัด มีจังหวะตัดฟาล์วกันบ่อยครั้ง โอกาสพาบอลเข้าไปยังพื้นที่อันตรายมีน้อยด้วยกันทั้งคู่ ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ได้ลองซัดไกลอยู่ครั้งนึงจาก โกเก้ เจ้าตัวตั้งป้อมหวดด้วยขวาเน้น ๆ บอลไต่หลังเท้า ปลิ้นลอยหลุดออกหลังไปไกล
นาที 35
ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น อองตวน กรีซมันน์ รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวน เกือบเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยังโชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดปลายมือเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 39
ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด หวิดได้บวกสกอร์เพิ่ม จากจังหวะ เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่ เก็บบอลได้แล้วแทงบอลเร็วทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายต่อให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้วิ่งสอดหลุดเข้ามาซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ มุมแคบยัดไปที่เสาแรกติดเซฟของ ยาน โอบลัค ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาตบทิ้งออกมาได้ทัน
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 67 เปอร์เซ็นต์ ทัพราชันชุดขาว เป็นฝ่ายคุมเกม คุมสถานการณ์ โหมบุกใส่ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด อยู่แทบจะฝั่งเดียว ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ เรอัลมาดริด 1 แอตมาดริด 0 !!!
นาที 46
เริ่มครึ่งหลังมา ทั้งสองฝั่งมีการแก้เกมกันในทันที โดยเจ้าถิ่น ราชันชุดขาว มีการเปลี่ยนตัวถอดเอา คาริม เบนเซม่า กองหน้าตัวความหวังที่ร่างกายไม่ค่อยสมบูรณ์ออกไปพัก แล้วจัดการส่ง ลูก้า โยวิช ลงสนามมาเล่นแทนในตำแหน่งเดียวกัน ขณะที่ฝั่งทีมเยือน ทัพตราหมี เปลี่ยนถึงสองคน โดยถอดเอา อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าตัวเก่ง และ ยานนิค การ์ราสโก้ ปีกตัวจี๊ด ที่โชว์ฟอร์มไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ออกไปนั่งดูเพื่อนเล่น ก่อนจะส่ง เจา เฟลิกซ์ และ โธมัส เลอมาร์ ลงไปเล่นแทน
นาที 49
ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ได้โอกาสลุ้นจบสกอร์ทักทายก่อน จากจังหวะที่ โธมัส เลอมาร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเบียดเข้าไปที่กลางประตูให้ อังเคล กอร์เรอา จับบอลแล้วไหลย้อนคืนหลังตั้งให้ เจา เฟลิกซ์ วิ่งมากดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเข้ากรอบ แต่ทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เซฟเอาไว้ได้ทันอย่างไม่ยากเย็น
นาที 51
ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด น่าจะได้ประตูตีเสมออีกครั้ง เป็นจังหวะที่ เจา เฟลิกซ์ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ มาเตอุส กุนญ่า วิ่งสอดปาดหน้า เอแดร์ มิลิเตา หลุดเข้าไปตะบันหักข้อยัดไปเสาแรกเน้น ๆ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือของ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยังยืนปิดมุมได้ดี เซฟเอาไว้ได้เหมือนเดิม
นาที 57 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ลูก้า โยวิช พลิกบอลได้ตรงกลางสนามขึ้นมาได้สวย เจ้าตัวไหลออกไปทางฝั่งซ้ายให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้ติดเครื่องเลี้ยงจี้เข้าหาเขตโทษ ก่อนจะแทงเลียดขวางสนามเข้าไปที่หน้าประตูให้ มาร์โก อาเซนซิโอ้ สอดมาทิ้งตัวแปด้วยซ้ายเน้น ๆ ผ่านบล็อก พุ่งเลียดเสียบเสาไกลเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 61
ทีมเยือน ทัพตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด พยายามตั้งเกมเพื่อทวงประตูคืนอย่างหนัก จังหวะนี้ โธมัส เลอมาร์ เก็บบอลได้บริเวณริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะบรรจงครอสบอลโด่ง โค้งลึกไปที่เสาไกลให้ มาริโอ เอร์โมโซ่ ได้สอดมากระโดดเทคตัวโถมมาโขกย้อนศรเหน่ง ๆ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าผิดหวังสด ๆ
นาที 76
ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด บุกขึ้นมาได้ลุ้นอีกระลอก จังหวะนี้ ได้ลูกฟรีคิกระยะกำลังดี หน้าเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางฝั่งขวา โธมัส เลอมาร์ รับหน้าที่ เล่นลูกลักไก่หลอกยิง วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย เกือบจะเสียบเสาไกลซ้ายมือเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าต้องชม ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยังไม่เหม่อ ปัดทิ้งออกมาได้ทันหวุดหวิด
นาที 90+2
ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด เกือบได้ประตูตีไข่แตก เป็นจังหวะ เอ็คตอร์ เอร์เรร่า ได้บอลหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะครอสไปที่เสาแรกให้ เจา เฟลิกซ์ วิ่งโฉบมาตวัดยิงด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดไปอัดเข้าหน้าของ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น อย่างจัง ทำเอานายด่านทีมชาติเบลเยี่ยมถึงกับมึน ผู้ตัดสินต้องให้แพทย์มาดูอาการ สุดท้ายเล่นต่อไหว ไม่มีอะไร
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 !!! เก็บชัยชนะ 10 นัดรวด ติดต่อกันในทุกรายการ นำโด่งเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนต่อไป โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับกาดิซ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2564 ส่วนทางด้านแอตเลติโก้ มาดริด รั้งอันดับที่ 4 ของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนเซบีย่า ในคืนวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้