“เรอัล มาดริด” สิบตัว บุกมาเฉือนเอาชนะ “เอลเช่” ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 !!! ผ่านเข้าสู่รอบ โกปา เดล เรย์

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น เอลเช่ เปิดสนาม เอสตาดิโอ มานูเอล มาร์ติเนซ บาเลโร่ ต้อนรับการมาเยือนของทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ในศึกฟุตบอล โกปา เดล เรย์ รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เอลเช่ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ฟรานซิสโก้ มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย ราอูล กูตี กองกลางห้องเครื่อง ฟีเดล ชาเวส ปีกตัวจี๊ด และ กุยโด้ คาร์ริโญ่ กองหน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย โทนี่ โครส มิดฟิลด์ห้องเครื่อง วินิซิอุส จูเนียร์ กองหน้ากึ่งปีกความเร็วสูง และ ลูก้า โยวิช ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 10

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เอลเช่ ที่ได้ทักทายก่อน แถมเกือบขึ้นนำเร็ว จากจังหวะที่ โฆซาน ได้บอลหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะตบเลียดเข้าไปที่กลางประตูให้ กุยโด้ คาร์ริโญ่ สอดมาทิ้งตัวชาร์จจ่อ ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลา ส่งบอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง สุดท้ายกระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 12

ทีมเยือน ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ได้ทักทายบ้าง จังหวะนี้ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า กระชากพาบอลขึ้นมาเองจากกลางสนามถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจ ขอลองวางเท้าส่องไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ทิศทางยังไม่เข้าเป้า หลุดเสาออกไปไกลไม่ได้ลุ้น

นาที 20

เจ้าถิ่น เอลเช่ หวิดได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เกราร์ด กุมเบา บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูเข้าหัวของ กุยโด้ คาร์ริโญ่ ได้ตั้งป้อมยืนโขกเหน่ง ๆ เล่นทาง ส่งบอลเฉียดเสาแรกซ้ายมือ ลอยหลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 21

ทีมเยือน เรอัล มาดริด ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ลูคัส บาซเกซ ดันสูงพาบอลขึ้นมาเองทางกราบขวา เจ้าตัวจ่ายหักเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษให้ โทนี่ โครส ได้วิ่งมาบรรจงวางเท้าปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบแบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งถากเสาแรกขวามือ ลอยหลุดออกหลังไปไกลพอสมควร 

นาที 26

เจ้าถิ่น เอลเช่ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ โฮอาน โมฮิก้า ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น กุยโด้ คาร์ริโญ่ เจ้าเก่า ได้เทคตัวขึ้นโขกกดลงพื้นเหน่ง ๆ ส่งบอลพุ่งเข้ากรอบ ทว่าเป็น อันเดรย์ ลูนิน ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังผวาล้มตัวปัดทิ้งเอาไว้ได้ทัน

นาที 38

ทีมเยือน เรอัล มาดริด ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาทางฝั่งซ้าย จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ โชว์ความพลิ้ว ลากเลื้อยล็อคหลบแนวรับเจ้าถิ่นทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะโยกตัดเข้าในไปถึงกลางประตู ต่อด้วยล้มตัวตวัดยิงด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไป ตกม้าตายตอนจบอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 40

ทีมเยือน เรอัล มาดริด บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ คนเดิม พาบอลขึ้นมาเองทางซ้ายอีกแล้ว เจ้าตัวไหลเข้ากลางต่อมาที่หน้าเขตโทษให้กับ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ได้จับหนึ่งที ก่อนจะก้มหน้สบรรจงสับไกด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปตรง

ตัวของ อาเซล แวร์เนอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 43

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน เรอัล มาดริด ที่ยังคงเป็นฝ่ายบุกขึ้นมาได้ลุ้นส่งท้าย จังหวะนี้ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ตัดบอลได้ตรงกลางสนามแล้วสวนกลับเร็ว เจ้าตัวกระชากเร็วจี๋ขึ้นมาเองถึงบริเวณหัวกระโหลก ก่อนจะตัดสินใจตะบันด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าทิศทางกันพุ่งไปตรงตัวของ อาเซล แวร์เนอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบายอีกครั้งหนึ่ง

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสนุกสูสี เป็นทีมเยือน ทัพราชันชุดขาว ที่ครองบอลบุกได้มากกว่าตามคาด ทว่าจังหวะจบในพื้นที่อันตรายยังทำได้ไม่เฉียบคมพอ สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ที่ เอลเช่ 0 เรอัล มาดริด 0 !!!

นาที 53

เปิดฉากครึ่งหลังมา ทีมเยือน เรอัล มาดริด เดินหน้าบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นทันที จังหวะนี้ นาโช่ เฟอร์นาเดส ดันสูงขึ้นมารับบอลบริเวณกลางสนาม เจ้าตัวเหลือบไปเห็นนายทวารเอลเช่ออกมาไกลจากกรอบ 6 หลา ก่อนจะตัดสินใจเล่นลูกลักไก่ วางเท้าส่องไกลยิงยาวเน้น ๆ ทว่าทิศทางไม่ตรงเป้า สุดท้ายเป็น อาเซล แวร์เนอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ตามไปคว้าเอาไว้ได้สบาย

นาที 57

ทีมเยือน เรอัล มาดริด ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ มาร์เซโล่ ดันสูงขึ้นมารับบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจ้าตัวลากตัดเข้ากลางมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย เลี้ยวถากเสาไกล ลอยหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียว ชนิดได้เสียว

นาที 68

เจ้าถิ่น เอลเช่ ได้ลูกฟรีคิกระยะได้ลุ้น ประมาณ 30 หลา บริเวณริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา แล้วเป็น เกราร์ด กุมเบา รับหน้าที่ เล่นลูกลูกไก่หลอกยิง วิ่งมาบรรจงเปิดบอลกึ่งยิงกึ่งผ่านด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดกรอบออกหลังไปไกล 

นาที 77

ทีมเยือน เรอัล มาดริด หวิดได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ลูคัส บาซเกซ ได้บอลหลุดมาทางริมกรอบฝั่งขวา เจ้าตัวโดนขวางเลือกไหลย้อนมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้กับ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ปรี่มาวางเท้ากดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวด ทำท่ากำลังจะเสียบเสาแรกขวามือเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น อาเซล แวร์เนอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปฏิกิริยายังไว ผวาพุ่งไปปัดออกมาได้ทันเฉียดฉิว

นาที 82

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม ทีมเยือน เรอัล มาดริด บุกขึ้นมาได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะ โรดริโก้ ได้บอลบริเวณหัวกระโหลก ก่อนจะแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ วินิซิอุส จูเนียร์ วิ่งสอดหลุดเข้าไปเอี้ยวตัววางเท้าแปด้วยขวาเน้น ๆ มุมแคบ ส่งบอลพุ่งไปติดเซฟของ อาเซล แวร์เนอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยินปิดมุมรออยู่แล้ว ป้องกันเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น

นาที 96

เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ เจ้าถิ่น เอลเช่ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย บริเวณหัวกระโหลกตรงกลาง แล้วเป็น เกราร์ด กุมเบา รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่าจะเสียบเสาไกลขวามือเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น อันเดรย์ ลูนิน นายทวารทีมเยือน ผวาพุ่งไปปัดทิ้งเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 102 ใบแดง!!!

ทีมเยือน เรอัล มาดริด ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะที่ โดนสวนกลับเร็ว โฆเซ่ อันโตนิโอ โมเรนเต้ กำลังจะได้หลุดเข้ากรอบเขตโทษ ทว่าเป็น มาร์เซโล่ ที่อยู่ในตำแหน่งกองหลังคนสุดท้าย วิ่งตามไปเข้าสกัดตัดฟาล์วจากทางด้านหลัง ผู้ตัดสินไม่รอช้า วิ่งมาแจกใบแดงโดยตรง ไล่ตะเพิดแบ็คจอมบุกรายนี้ออกจากสนามไปทันที 

นาที 103 GOAL!!!

จังหวะต่อเนื่อง เจ้าถิ่น เอลเช่ มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย บริเวณหัวกระโหลก เยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น  

กอนซาโล่ แวร์ดู รับหน้าที่ วิ่งมาปั่นด้วยขวาติดกำแพง บอลกระดอนกลับมาเข้าทางเจ้าตัว คราวนี้วิ่งมาฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบกองหลัง เปลี่ยนทางกระดอนพื้นเสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 109 GOAL!!!

ทีมเยือน เรอัล มาดริด มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ บอลทางริมกรอบฝั่งซ้าย หักเลียดเข้ามาที่บริเวณหน้าจุดโทษให้ ดานี่ เซบาญอส ได้บรรจงตวัดยิงเลียดด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปที่หน้าปากประตูเข้าทาง อิสโก้ สะกิดบอลเปลี่ยนทางโล่ง ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 110

ทีมเยือน เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูพลิกแซงขึ้นไปนำ เป็นจังหวะ ลูก้า โมดริช พาบอลเลาะเส้นขึ้นมาเองทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวครอสมาที่หน้าเสาแรกขวามือให้ วินิซิอุส จูเนียร์ สอดมาซัดเน้น ๆ ไม่กี่หลา ส่งบอลพุ่งแรงไปถูก อาเซล แวร์เนอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่พุ่งมาปิดมุมได้ไว เซฟเอาไว้ได้ทัน

นาที 116 GOAL!!!

ทีมเยือน เรอัล มาดริด มาได้ประตูชัยเป็น 2-1 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ดาบิด อลาบา วางบอลยาวจากกลางสนามไปที่หน้ากรอบอย่างสวยให้ เอแด็ง อาซาร์ ได้ทำลายกับดักล้ำหน้า วิ่งสอดหลุดเดี่ยวไปแตะหลบ อาเซล แวร์เนอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดยิงด้วยซ้ายโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน เรอัล มาดริด บุกมาแซงเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น เอลเช่ ไปได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษด้วยสกอร์ 2-1 !!! ผ่านเข้ารอบต่อไปของฟุตบอล โกปา เดล เรย์ ได้สำเร็จ โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนแอธเลติก บิลเบา ในคืนวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้