ดิอาสทำสองประตู และ ซาลาห์ทำประตูให้ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 เก็บคลีนชีตเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน และเก็บ 9 แต้มในการเจอกับปีศาจแดง ซึ่งเท่ากับที่จ่าฝูงแมนฯ ซิตี้ทำได้
บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ที่ 3 ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน เป็นการดวลระหว่างเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ “ปีศาจแดง” และการมาเยือนของคู่แข่งตลอดกาล ลิเวอร์พูล ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
มานูเอล อูการ์เต นักเตะคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาทักทายแฟนบอลที่บ้านก่อนเกมแมตช์นี้ ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ลงทะเบียนลงเล่นเกมก็ตาม ลิเวอร์พูลทำประตูในครึ่งแรกเมื่อไรอัน กราเฟนเบิร์กสกัดบอลกลางสนามจ่ายให้หลุยส์ ดิอาซทางเขตโทษด้านซ้าย ส่งให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่เสาไกลแล้วยิงข้ามเส้นประตู แต่ VAR ปฏิเสธเพราะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีส่วนในการเล่นล้ำหน้า
อย่างไรก็ตาม 30 นาทีต่อมา ในนาทีที่ 35 คาเซมิโร่จ่ายบอลเข้าหน้าประตู กาเซมี่โร่ ดึงบอลขึ้นหน้าส่งให้ซาลาห์ส่งบอลไปเสาไกลที่ทั้งสองบุกเข้ามาให้ หงส์แดงเป็นผู้นำ ท้ายที่สุด ดิอาซก็พลิกบอลและมุ่งหน้ากลับบ้าน ทำให้สกอร์เป็น 1-0
ปีศาจแดงพยายามแย่งบอลกลับมาโดยได้โอกาสจากนูแซร์ มาซราอุย แต่อลิสสัน เบ็คเกอร์เซฟไว้ได้ อย่างไรก็ตามในนาทีที่ 42 คาเซมิโร่ก็เจอสถานการณ์เดิมอีกครั้ง คราวนี้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ขโมยบอลและส่งให้ซาลาห์ แล้วจ่ายให้ดิอาส ดิแอซยิงเสาใกล้จากเขตโทษให้ขึ้นนำ 2-0 จบครึ่งแรก
ในครึ่งหลัง โค้ช เอริค เทน ฮาก ถอด กาเซมีโร่ ออก และนำโทบี้ คอลลีเยอร์ รุ่นเยาว์เข้ามา
นาทีที่ 52 ปีศาจแดง น่าได้ประตูตีไข่แตกโดย โจชัว เซิร์กซี โหม่ง แต่บอลไม่ห่างตัว อลีสซง ถูกเซฟออกมาได้
นาทีที่ 56 ปีศาจแดงเสียบอลกลางสนามอีกครั้ง หลังจากที่ ค็อบบี้ เมนู โดนกดดันจนเสียบอล โดมินิค โซโบซไล ก็หยิบขึ้นมาจ่ายบอลไปทางขวา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงเข้าเสาใกล้ให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 3-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามอย่างหนัก นาทีที่ 64 แรชฟอร์ด ตักบอลขึ้นเสาไกลให้ โจชัว เซิร์กซี พุ่งไปข้างหน้าแต่หลุดเสาไกลออกไปแบบได้ลุ้น
จบเกมด้วยการที่ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-0 พวกเขาชนะสามเกมติดต่อกันและได้รับเก้าแต้ม เท่ากับแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่อยู่อันดับต้นๆ ของตาราง แต่พวกเขาตามหลังผลต่างประตูได้เสียและยังคงอยู่ในอันดับที่สอง ในขณะเดียวกันปีศาจแดงอยู่อันดับที่ 14 หลังจากพ่ายแพ้ติดต่อกันสองครั้ง
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : อ็องเดร โอนาน่า – นูสแซร์ มาซราวี, มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ (แฮร์รี่ แม็กไกวร์ น.69), ลีซานโดร มาร์ตีเนซ, ดีโอโก้ ดาโลต์ – กาเซมีโร่ (โทบี้ คอลลีเยอร์ น.46), ค็อบบี้ เมนู – อเลฮานโดร การ์นาโช่ (อาหมัด ดิยัลโล่ น.69), บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – โจชัว เซิร์กซี (คริสเตียน เอริคเซ่น น.86)
ลิเวอร์พูล : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (คอเนอร์ แบรดลี่ย์ น.76) , อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คอสตาส ซิมิกาส น.83) – อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ตค – โมฮาเหม็ด ซาลาหฺ์, โดมินิค โซโบซไล, ลุยส์ ดีอ๊าซ (โคดี้ กัคโป น.66) – ดีโอโก้ โชต้า (ดาร์วิน นูนเญซ น.76)
อัพเดทข่าวสารฟุตบอล แวดวงลูกหนัง สดใหม่ทุกวันได้ทาง “@589cahfy”