ราล์ฟ รังนิค เชื่อว่าการคว้านักเตะใหม่เพียงแค่ 3-4 คนในช่วงซัมเมอร์นี้จะไม่เพียงพอสำหรับการสร้างทีมใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และจำเป็นต้องเติมขุมกำลังในแทบทุกตำแหน่ง
พวกเขาห่างหายจากการคว้าแชมป์ติดมือมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว โดยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็เสี่ยงต่อการจบในอันดับต่ำกว่าท็อปโฟร์และพลาดตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า
รังนิค จะหมดหน้าที่คุมทีมชั่วคราวในช่วงซัมเมอร์และค่อยขยับขึ้นไปรับตำแหน่งที่ปรึกษา ส่วนคนที่จะมาสานงานกุนซือนั้นคาดหมายว่าจะเป็น เอริค เทน ฮาก
ถึงอย่างนั้นไม่ว่าใครจะเข้ามาคุมทีมต่อ รังนิค ก็คิดว่าการเปลี่ยนแปลงทีมเพียงแค่ 3-4 คนนั้นจะไม่เพียงพอ
“นักเตะต้องทุ่มเทสุดตัวไม่ว่าผู้จัดการทีมคนถัดไปจะเป็นใคร และถ้ามีการประกาศกุนซือใหม่ใน 1-3 สัปดาห์ข้างหน้า, ผมก็ไม่คิดว่าจะส่งผลถึงสถานการณ์ของเราในเวลานี้” รังนิค ให้สัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ต
“แต่แน่นอน, เป็นเรื่องสำคัญที่จะทราบว่าใครเป็นกุนซือคนถัดไป เพราะการจะเริ่มกระบวนการเสริมทัพ, การตามหานักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้นั้นจะเมคเซนส์ต่อเมื่อคุณทราบว่าใครจะมาเป็นผู้จัดการทีมและเขาอยากเล่นด้วยแผนไหน”
“อาจมีนักเตะบางรายเป็นที่สนใจสำหรับสโมสรแบบ ยูไนเต็ด ซึ่งไม่ต้องขึ้นอยู่กับแผนการเล่น, ไม่ต้องขึ้นอยู่กับสไตล์ฟุตบอลและไม่ต้องคอยกุนซือใหม่ และผมได้แนะนำนักเตะเหล่านั้นให้บอร์ดบริหารแล้ว”
“แต่รวมๆแล้ว ถ้าคุณดูขนาดของทีมที่จำเป็นต้องสร้างขึ้นมาใหม่, คือดึงนักเตะใหม่มา 3-4 คนนี่ไม่พอหรอก จะมีนักเตะใหม่เยอะกว่านั้น, ต้องจำไว้ด้วยว่ามีนักเตะกี่คนที่จะไม่อยู่กับทีมต่อเพราะสัญญากำลังจะหมด”
นักเตะอย่าง เอดิสัน คาวานี่, ปอล ป็อกบา, ฆวน มาต้า และ เจสซี่ ลินการ์ด กำลังจะหมดสัญญาลงในช่วงซัมเมอร์ ส่วนในรายของ เมมันย่า มาติช ยืนยันแล้วว่าจะโบกมือลาทีมสิ้นฤดูกาล
นักเตะบางคนก็จะโดนตั้งคำถามเรื่องอนาคตด้วยเหมือนกันเช่น มาร์คัส แรชฟอร์ด, ดีน เฮนเดอร์สัน และ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค
รังนิค ยังยอมรับด้วยว่ามีเพียงแค่ตำแหน่งผู้รักษาประตูเท่านั้นที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่จำเป็นต้องหานักเตะใหม่ แต่ที่เหลือต้องได้รับการเสริมทัพ
“ใช่ ผมคิดว่านอกเหนือจากตำแหน่งผู้รักษาประตูแล้วเราต้องทำให้แน่ใจว่าเราเสริมทัพเพิ่มในทุกส่วน”
“ดึงนักเตะที่จะช่วยให้ทีมดีขึ้นจริงๆเข้ามา ย้ำอีกครั้งนะ, มันเป็นเรื่องของโปรไฟล์ นักเตะแบบไหนที่เราต้องการเพื่อจะเล่นฟุตบอลในแบบที่เราต้องการ”