เกมการแข่งขันระหว่างเจ้าถิ่นทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) เปิดสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของทีม เรอัล โซเซียดัด (สเปน) ในศึกฟุตบอล ยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง (เกมแรก แมนยู บุกไปชนะ โซเซียดัด มา 4-0) เกมนี้ เป็นเจ้าถิ่น ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน บุกใส่ทีมเยือนตลอดทั้งเกม แต่ก็ทำได้แค่หวาดเสียว ก่อนจะจบเกมแบบไร้สกอร์ 0-0 !!!
เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย บรูโน่ แฟร์นานเดส มิดฟิลด์ตัวบัญชาเกม และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าตัวจี๊ดชาวฝรั่งเศส ขณะที่ทางทีมเยือน เรอัล โซเซียดัด มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย อัดนาน ยานาไซ ปีกตัวจี๊ด และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าตัวความหวังของทีม
นาที 11
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ เอริก ไบยี่ ดันสูงขึ้นมาถึงกลางสนาม ก่อนจะหยอดบอลไปในเขตโทษให้ บรูโน่ แฟร์นานเดส วิ่งสอดทำลายกับดักล้ำหน้า หลุดเข้าไปยิงตามน้ำ แต่โดนบอลไม่ดีเท่าไหร่ อเล็กซ์ เรมิโร่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับได้สบาย
นาที 13
ทีมเยือน เรอัล โซเซียดัด พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดายสุดๆ เป็นจังหวะ อัดนาน ยานาไซ พาบอลขึ้นมาทางขวา ก่อนจะดีดบอลให้ อันโดนี่ โกโรซาเบล สอดทะลุเข้าไปเอาบอลในเขตโทษ แต่ถูก แดเนี่ยล เจมส์ ตามมาสกัดจากด้านหลังล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที มิเกล โอยาร์ซาบัล เป็นคนสังหาร แต่ดันยิงหลุดสามเหลี่ยมซ้ายมือออกไปอย่างหน้าตาเฉย
นาที 15
ทีมเยือน จ่ายบอลไปมาอยู่ที่หน้ากรอบเขตโทษของเจ้าถิ่น บอลออกมาทางซ้ายที่ มิเกล โอยาร์ซาบัล เจ้าตัวเงยหน้ามอง ก่อนจะปาดบอลไปให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่ตั้งป้อมรอยิงโล่งๆอยู่ที่เสาไกล แต่ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ กองหลังเจ้าถิ่นอ่านเกมทัน ตามมาแหย่สกัดไว้ได้หวุดหวิด
นาที 22
เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาทางกราบซ้าย อเล็กซ์ เตลเลส เติมขึ้นมา แล้วจ่ายยัดไปให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวบังบอลหันหลังให้ประตู ก่อนจะหาจังหวะพลิกตัวมายิงด้วยขวา บอลพุ่งเข้ากรอบแต่ อเล็กซ์ เรมิโร่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาทุบบอลทิ้งออกมาได้ทัน
นาที 24
เจ้าถิ่น เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เมสัน กรีนวู้ด แทงบอลทะลุช่องให้ เฟร็ด ใช้สปีดสอดเข้าไปในเขตโทษ แล้วแตะหลบนายทวารทีมเยือนที่ออกมาขวางได้นิดนึง ก่อนจะจ่ายย้อนมาให้ บรูโน่ แฟร์นานเดส ได้วิ่งเข้ามายิงเต็มๆ แต่บอลชนคานอย่างจัง อดได้ประตูขึ้นนำ อย่างน่าเสียดายสุดๆ
นาที 36
เจ้าถิ่น ครองบอลกันอยู่หน้ากรอบเขตโทษทีมเยือน บรูโน่ แฟร์นานเดส วางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ แดเนี่ยล เจมส์ วิ่งสอดมาโหม่งได้สวย แต่บอลไม่หนีตัว อเล็กซ์ เรมิโร่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เท่าไหร่ กระโดดปัดไว้ได้ทัน
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ที่ครองบอลได้เหนือกว่า และเปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือน อย่างต่อเนื่อง แต่จังหวะสุดท้ายยังเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0 !!!
นาที 48
เจ้าถิ่น แมนยู เกือบได้ประตูอีกครั้ง จากจังหวะ ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเยื้องๆไปทางซ้าย มาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งมาอัดด้วยขวา บอลข้ามกำแพงแล้วติดส่าย ทำให้ อเล็กซ์ เรมิโร่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน หลงทางไปแล้ว แต่บอลก็กระดอนหลุดเสาไกลขวามือออกไปนิดเดียวจริงๆ น่าเสียดายสุดๆสำหรับเจ้าถิ่น
นาที 50
ทีมเยือน มีโอกาสยิงประตูขึ้นนำบ้างเหมือนกัน เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกทางกราบซ้ายของสนาม อัดนาน ยานาไซ เปิดโค้งเข้าไปในเขตโทษ แนวรับเจ้าถิ่นโหม่งสกัดไม่ดีบอลไม่ไปไหน อันแดร์ บาร์เรเน็ทเซีย วิ่งมาซัดผิดเหลี่ยม แต่กลายเป็นดี บอลลอยมาเข้าทาง โมดิโบ ซาญ็อง กองหลังทีมเยือน ได้โหม่งเน้นๆ แต่บอลพุ่งไปชนคาน ออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 56
อักเซล ตวนเซเบ้ เติมสูงขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะแทงออกขวาให้ เมสัน กรีนวู้ด ได้โชว์พลิ้ว เลี้ยงหลบผู้เล่นทีมเยือน ทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตัดสินใจยิงยัดที่เสาแรกทันที แต่บอลก็ยังไปเข้าข้างตาข่าย ออกหลังไปเอง
นาที 63
เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย อเล็กซ์ เตลเลส เปิดบอลโค้งเข้ามาตรงกลาง อักเซล ตวนเซเบ้ วิ่งเบียดมาได้โขกเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินขอดู VAR ก่อนจะไม่ให้เป็นประตู เพราะ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ไปทำฟาล์ว จอน เบาติสต้า ก่อนจังหวะได้ประตู
นาที 67
อเล็กซ์ เตลเลส เติมขึ้นมาสูง ก่อนจะฝากไปให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ด้านพลิกตัวพาบอลไปเองถึงหน้าเขตโทษ แล้วยิงเร็วด้วยขวาทันที บอลพุ่งข้ามคานออกไปอย่างได้เสียว ภาพช้าให้ดูเหมือนจะโดนปลายมือของ อเล็กซ์ เรมิโร่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน แต่กรรมการไม่ให้เป็นเตะมุม
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอกับทีมเยือน เรอัล โซเซียดัด ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 !!! ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 4-0 ที่ยิงตุนไว้แล้วในนัดแรก เข้าไปพบกับ เอซี มิลาน ทีมดังจากอิตาลี