มาร์คัส แรชฟอร์ด แนวรุกตัวจี๊ดของทีมชาติอังกฤษ บอกว่าช่วงเวลาแบบการยิงสองประตูใส่ เวลส์ คือเหตุผลที่ตนเล่นฟุตบอล พร้อมเปิดเผยเบื้องหลังท่าดีใจ ว่าเขาอุทิศผลงานให้แก่เพื่อนที่เพิ่งเสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็ง
คืนวันอังคารที่ผ่านมา แรชฟอร์ด ลงเล่น 75 นาทีพร้อมทำคนเดียวสองประตู จากจังหวะฟรีคิกสุดสวยและลากตัดยิงในกรอบเขตโทษ ช่วยให้ “สิงโตคำราม” ถล่ม เวลส์ 3-0
นอกจากจะมีส่วนสำคัญให้ อังกฤษ ได้ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่บอลโลก 2006 แล้ว แข้งวัย 25 ปี ยังได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมทช์ อย่างเป็นทางการจากฟีฟ่าอีกด้วย
ดาวเตะจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมกับ BBC เปิดเผยความรูุ้สึก
“ผมรู้สึกยอดเยี่ยมไปเลย, เราค่อนข้างผิดหวังกับผลการแข่งขันนัดเจอ สหรัฐฯ เพราะเราคิดว่าสามารถเล่นได้ดีกว่านั้นอีกเยอะ และเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องโชว์ฟอร์มให้ดีในนัดนี้”
“เกมนี้เราเล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งแรก, เราใช้โอกาสจบสกอร์และปิดเกมนี้ได้ตั้งแต่ช่วงต้น.
“ผมลองยิงฟรีคิกไปครั้งนึงช่วงครึ่งแรก แต่ลูกที่ผมยิงช่วงครึ่งหลังอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า จากนั้นผมแค่พยายามใจเย็นและทำในสิ่งที่เคยซ้อมมา”
“ช่วงพักครึ่ง ผู้จัดการทีมบอกว่าเราเล่นดีแล้ว แต่ต้องยิงเข้ากรอบให้มากขึ้น – ผมคิดว่าครึ่งแรกเราทำแบบนั้นได้แค่สองหรือสามครั้ง, เราต้องการให้ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้ามทำงานหนักขึ้น”
“เราต้องเข้าไปอยู่ในพื้นที่อันตราย ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่เราทำได้แล้วในช่วงครึ่งแรก และช่วงครึ่งหลังเราก็จบสกอร์ได้จากจังหวะเหล่านั้น”
“ช่วงเวลาแบบนี้ คือเหตุผลที่ผมเล่นฟุตบอล, นั่นเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่และดีที่สุด”
“ผมมีความสุขที่เราได้เข้ารอบต่อไป เพราะผมมีความทะเยอทะยานอย่างมหาศาลสำหรับทีมนี้ และผมคิดว่าเราสามารถเล่นได้ดีกว่าวันนี้อีก”
หลังจากทำยิงได้ แรชฟอร์ด ฉลองประตูด้วยการชี้นิ้วขึ้นฟ้า ซึ่งเขาก็เปิดเผยเหตุผลเบื้องหลังว่า
“เมื่อไม่กี่วันก่อนผมเสียเพื่อนคนนึงไป, เขาต่อสู้กับโรคมะเร็งอย่างยาวนาน และผมดีใจที่ได้ยิงประตูเพื่อเขา”
“เขาคือคนที่ให้การสนับสนุน และเป็นเพื่อนที่ดีของผมมาตลอด เขาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตผม”
รอบต่อไป ทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะลงเล่นพบกับ เซเนกัล รองแชมป์จากกลุ่มเอ คืนวันอาทิตย์นี้