เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน เปิดสนาม ซาน ซิโร่, เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ต้อนรับการมาเยือนของทีม สเปเซีย ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดที่ 22 เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เอซี มิลาน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย ติเอมูเอ้ บากาโยโก้ มิดฟิลด์ห้องเครื่องพันธุ์แกร่ง บราฮิม ดิอาซ เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้ว และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน สเปเซีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ติอาโก้ ม็อตต้า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ซิโมเน่ บาสโตนี่ กองกลางห้องเครื่อง เอ็มมานูเอล กียาซี่ ตัวจี๊ดริมเส้น และ เรย์ มาไน กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 10
เปิดฉากมา ช่วงแรกของเกม เป็นทางฝั่งทีมเยือน สเปเซีย ที่ทำการบ้านมาดี เล่นเกมโซนเพลส ขยันวิ่งไล่กดดันเจ้าถิ่น เอซี มิลาน ได้อย่างขยันขันแข็งถึงหน้าปากประตู ทำเอาทัพปีศาจแดงดำไปไม่เป็นเหมือนกัน โอกาสบุกขึ้นมาถึงพื้นที่สุดท้ายของคูแข่งแล้วได้จบแบบเหน่ง ๆ ยังไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น
นาที 16
เจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน ได้ลุ้นทักทายก่อน แถมเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะเริ่มที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ถ่ายบอลเปลี่ยนแกนออกไปทางริมกรองฝั่งซ้ายให้ ราฟาเอล เลเอา ได้โชว์ความพลิ้ว ลากหลบแนวรับทีมเยือน กระชากทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะได้จังหวะซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปโดน อิวาน โปรเวเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ทิ้งตัวใช้ขาป้องกันเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด บอลกระดอนหลุดโคนเสาไกลออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
นาที 20
เจ้าถิ่น เอซี มิลาน มีโอกาสบุกขึ้นมาได้ลุ้นอีก 2 หนติด ๆ กัน เป็นจังหวะ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส ติดเครื่อง พาบอลแหวกดงแนวรับสเปเซียทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะซัดเร็วไปติดบล็อกเต็ม ๆ บอลกระดอนมาเข้าทางปืนของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซ้ำเน้น ๆ เหินข้ามคานออกไปอีก
นาที 23
เจ้าถิ่น เอซี มิลาน เครื่องเริ่มร้อน ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือนตามคาด จังหวะนี้ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส ลากจี้ขึ้นมาไหลนิ่ม ๆ ฝากโล่ง ๆ ต่อให้ ราฟาเอล เลเอา ได้ขอลองวางเท้าซัดนอกกรอบเน้น ๆ เต็มแรง ส่งบอลเหินข้ามคาน พุ่งหลุดออกหลังไปแบบเสียของอีกครั้งหนึ่ง
นาที 27
เจ้าถิ่น เอซี มิลาน ได้ลุ้นประตูขึ้นนำอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส ดีดทะลุตามช่องเข้าไปในเขตโทษให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้วิ่งสอดหลุดเข้าไปอาศัยความแข็งแกร่ง เบียดชิงเหลี่ยมเอาชนะ มาร์ติน เอร์ลิช ก่อนที่สุดท้ายจะได้ซัดเน้น ๆ น้ำหนักใช้ได้ แต่ทิศทางยังไม่มุมเท่าไหร่ อิวาน โปรเวเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาทิ้งตัวใช้ขาป้องกันเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 30
ทีมเยือน สเปเซีย เกือบสร้างเซอร์ไพรส์ยิงประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เอ็มมานูเอล กียาซี่ บรรจงชิพบอลโด่งข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อาร์คาดิอุซ เรซ่า วิ่งสอดทะลุเข้าไปจับบอลลง ก่อนจะสบโอกาสยิงเร็วตามน้ำเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปถูก ไมค์ เมนญอง ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ปักหลักป้องกันเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 35
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เจ้าถิ่น เอซี มิลาน พยายามอย่างหนัก ขึ้น ทว่ายังเจาะแนวรับคู่แข่งไม่เข้า ถือว่าทางฝั่งทีมเยือน สเปเซีย เตรียมตัวมารับมือกับทีมรองจ่าฝูงได้ดี ทำเอาซุปเปอร์สตาร์ของทัพปีศาจแดงดำ ถึงกับแผลงฤทธิ์กันยังไม่ออกเลยทีเดียว
นาที 40
เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น เอซี มิลาน ยังคงได้บุกอยู่ฝั่งเดียวอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส รับบอลมาที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวโยกหาเหลี่ยม ก่อนจะสบโอกาส ขอลองวางเท้าปั่นไซด์โป้งเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย เลี้ยวอ้อมแผงหลังทีมเยือนไปได้แล้ว ทว่าเป็น อิวาน โปรเวเดล ผู้รักษาประตูสเปเซีย ยังไม่พลาดง่าย ๆ พุ่งไปปัดเต็มมือเอาไว้ได้สำเร็จ
นาที 45 จุดโทษ!!!
เจ้าถิ่น เอซี มิลาน พลาดโอกาสทองฝังเพชรที่จะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะความผิดพลาดของ อิวาน โปรเวเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ไปทำบอลลั่นโดน ราฟาเอล เลเอา ปรี่มาแย่งไปได้ ก่อนจะมาโดนนายด่านสเปเซียเตะสกัดร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน มาร์โค แซร์ร่า ตัดสินใจวิ่งไปเช็ค VAR เพื่อความชัวร์ทันที สุดท้ายกลับลงมาแล้วเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของทัพปีศาจแดงดำ แล้วก็เป็น เตโอ แอร์กน็องเดซ รับหน้าที่สังหาร เจ้าตัวซัดพลาดหลุดกรอบออกไปเองแบบน่าผิดหวังสุด ๆ
นาที 45+1 GOAL!!!
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เจ้าถิ่น เอซี มิลาน มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ราเด้ ครูนิช ไปเบียดแย่งบอลมาได้ในแดนตัวเอง เจ้าตัวเงยหน้ามองแล้วรีบวางยาวไปที่หน้ากรอบเขตโทษ ทว่าเป็น ดิมิตริออส นิโคลาอู หวดสกัดบอลแปก ๆ ผิดเหลี่ยมเลยไปเข้าทาง ราฟาเอล เลเอา ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้าที่กลางประตู ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะกระดกบอลข้ามตัวของ อิวาน โปรเวเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดงดำ ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นฝ่ายปูพรม ขึงเกมรุก บุกใส่คู่แข่งอยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ เอซี มิลาน 1 สเปเซีย 0 !!!
นาที 56
เริ่มครึ่งหลังมา ยังคงเป็นเจ้าถิ่น เอซี มิลาน ที่ยังได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส จ่ายยัดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้แต่งบอลหาจังหวะหนึ่งที ก่อนจะวางเท้าปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดกรอบไปออกอีกฝั่งแบบได้เสียว
นาที 57
เจ้าถิ่น เอซี มิลาน บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ราฟาเอล เลเอา สับขาหลอกแล้วกระชากพาบอลพลิ้วขึ้นมาเองถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย เจ้าตัวตวัดเลียดไปที่หน้าเสาแรก แล้วเป็น เล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส โฉบมาได้วางเท้าซัดเน้น ๆ ทว่าเป็น อิวาน โปรเวเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปฏิกิริยายังไว ยื่นขาไปเซฟออกหลังเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 59
ทีมเยือน สเปเซีย ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ เควิน อกูเดโล่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา เลี้ยงหาช่องทางริมกรอบฝั่งขวา ก่อนจะล็อคกลับมาจ่ายทะลุช่องหักข้อไปที่หน้าเสาแรกขวามือให้ เกลแว็ง อาเมียง เติมสูงวิ่งสอดมาพลิกตัวซัดเน้น ๆ ไปตรงตัวของ ไมค์ เมนญอง ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนปิดมุมคุมเสารออยู่แล้ว เซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 63
ทีมเยือน สเปเซีย บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ อาร์คาดิอุซ เรซ่า ได้บอลหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะบรรจงครอสเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น มาร์ติน เอร์ลิช โฉบมาโขกสะบัดเหน่ง ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลา ทว่าเจ้าตัวกดไม่ลง ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 64 GOAL!!!
ทีมเยือน สเปเซีย มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ ซิโมเน่ บาสโตนี่ แทงบอลทะลุช่องไปทางริมกรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ ดานิเอเล่ แวร์เด้ วิ่งสอดขึ้นมาจับหนึ่งที ก่อนจะครอสเลียดถวายพานเข้าไปที่หน้าประตูโล่ง ๆ ให้ เควิน อกูเดโล่ โฉบมาชาร์จ แปเน้น ๆ ด้วยขวาจ่อ ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 69
เจ้าถิ่น เอซี มิลาน บุกขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย จังหวะนี้ ราฟาเอล เลเอา กระชากขึ้นมาถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะครอสโด่งเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น จูเนียร์ เมสซิอัส ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา สอดมาเทคตัวขึ้นโขกเน้น ๆ ส่งบอลแรง เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล
นาที 83
ทีมเยือน สเปเซีย ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ ดานิเอเล่ แวร์เด้ แทงทะลุช่องไปทางริมกรอบฝั่งขวาให้ เอ็มมานูเอล กียาซี่ สอดไปครอสเลียดไปที่หน้าเสาแรกให้ วิคตอร์ โคบาเลนโก้ แข้งสำรองที่เพิ่งลงมา ได้โฉบมาสาวเท้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปตรงตัวของ ไมค์ เมนญอง ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนคุมเสารออยู่แล้ว ปัดกระฉอกก่อนจะตามมาคว้าเอาไว้ได้ทัน
นาที 90
ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น เอซี มิลาน โหมบุกอย่างหนัก จังหวะนี้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เก็บบอลได้ในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวอาศัยความแข็งแกร่งบังบอล ก่อนที่สุดท้ายจะได้พลิกตัวยิงเน้น ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลา ทว่าทิศทางและน้ำหนักยังไม่ดีพอ บอลพุ่งไปตรงตัวของ อิวาน โปรเวเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
นาที 90+2
เจ้าถิ่น เอซี มิลาน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ราเด้ ครูนิช โฉบขึ้นมารับบอลที่หน้าหัวกระโหลก เจ้าตัวง้างเท้ากำลังจะแทงบอลแต่โดนผู้เล่นทีมเยือนจิ้มสกัดบอลผิดเหลี่ยม กลายเป็นแทงทะลุช่องให้ จูเนียร์ เมสซิอัส หลุดเดี่ยวเข้าไปปั่นเน้น ๆ ด้วยซ้ายเข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินไม่ให้ประตู ผู้เล่นมิลานไม่พอใจกันใหญ่ สุดท้ายเช็ค VAR ยืนยันคำเดิม ซึ่งภาพช้าจะเห็นว่า มีการตัดฟาล์วกันซะก่อน เฮเก้อกันไปสำหรับแฟน ๆ
นาที 90+4
จังหวะต่อเนื่อง เจ้าถิ่น เอซี มิลาน ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย บริเวณหน้าหัวกระโหลกตรงกลาง แล้วเป็น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าทิศทางไม่หนีตัวเท่าไหร่ อิวาน โปรเวเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาปัดทิ้งออกหลังได้ทัน เสียเป็นเตะมุม
นาที 90+5
จังหวะต่อเนื่อง เจ้าถิ่น เอซี มิลาน เกือบได้ประตูชัย เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เตโอ แอร์กน็องเดซ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่หน้าเสาแรก แล้วเป็น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช โฉบตัดหน้าตัวประกบ สอดมาเทคตัวขึ้นโขกสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปตรงตัวของ อิวาน โปรเวเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาปัดไปชนคานอย่างจัง บอลกระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 90+6 GOAL!!!
ทีมเยือน สเปเซีย สร้างเซอร์ไพรส์ มาได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำเป็น 2-1 !!! จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเกือบโดนแล้วหวดยาวสวนกลับเร็ว บอลขึ้นหน้ามาถึง เควิน อกูเดโล่ ชิงเหลี่ยมจิ้มบอลต่อให้ วิคตอร์ โควาเลนโก้ ได้ลากจี้มาถึงหน้ากรอบฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดอ้อมแนวรับเจ้าถิ่นข้ามฟากไปในเขตโทษฝั่งขวาโล่ง ๆ ให้ เอ็มมานูเอล กียาซี่ สปีดหลุดเดี่ยวสอดตามมาจับบอล จังหวะสุดท้ายเจ้าตัวซัดด้วยขวาสวนตัวของ ไมค์ เมนญอง ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ง่าย ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน สเปเซีย สร้างเซอร์ไพรส์ บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น เอซี มิลาน ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! เขยิบขึ้นมารั้งอันดับที่ 14 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับซามพ์โดเรีย ในคืนวันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านมิลาน รั้งอันดับที่ 2 ของตารางอยู่เหมือนเดิม นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับยูเวนตุส ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา