เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหมีขาว รัสเซีย เปิดสนาม เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม, เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติ ไซปรัส ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอช นัดที่ 9 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น รัสเซีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ วาเลรี่ คาร์ปิน มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เพลย์เมกเกอร์ตัวปั้นเกม อเล็กเซ มิรานชุค ตัวทำเกมริมเส้น และ เฟดอร์ สโมลอฟ กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ไซปรัส ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ นิคอส คอสเตโนกลู มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย กรีกอริส คาสตานอส กองกลางห้องเครื่อง นิโกลัส ยอนนู ตัวทำเกมริมเส้น และ โฟติออส ปาปูลิส กองหน้าตัวความหวังของทีม
นาที 4 GOAL!!!
เปิดฉากมา เป็นเจ้าถิ่น ทัพหมีขาว รัสเซีย ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่เป็น 1-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ อเล็กเซ มิรานชุค ไหลบอลตัดหลังแนวรับให้ อเล็กเซ ซูตอร์มิน เติมสูงวิ่งสอดไปเอาบอลที่สุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียดไปที่หน้าเสาไกลให้ เฟดอร์ สโมลอฟ วิ่งมาแปด้วยซ้ายไม่จับติดบล็อกกระเด้งกลับมาที่เจ้าตัว คราวนี้เลือกจ่ายสั้น ๆ ถวายพานมาที่หน้าปากประตูโล่ง ๆ ให้ อเล็กซานเดอร์ เอโรคิน ซัดจ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 18
เจ้าถิ่น รัสเซีย บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ทำชิ่งกับเพื่อนขึ้นมาถึงกึ่งกลางสนาม เจ้าตัวแทงเลียดมาที่หน้าเขตโทษด้านขวาให้ อเล็กซานเดอร์ เอโรคิน ที่หันหลังให้ประตู ได้จับบอลแล้วพลิกตัวมาซัดหักข้อด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดหนีมือ เดมีทรีส เดเมทริอู ผู้รักษาประตูทีมเยือน เฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
นาที 27
เจ้าถิ่น รัสเซีย บุกขึ้นมาอีกระลอกทางกราบซ้าย จังหวะนี้ เซอร์จี้ เตเรคอฟ ดันสูงลากพาบอลขึ้นมาเอง เจ้าตัวฝากต่อให้ เฟดอร์ สโมลอฟ ค่อย ๆ ลากจี้ตัดเข้ากลางมาถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะตัดสินใจวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบบล็อก เปลี่ยนทางเสียบหน้าต่างข้างตาข่ายเสาแรกซ้ายมือ ลอยหลุดออกหลังไปแบบได้เสียว
นาที 29
ทีมเยือน ไซปรัส ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว โฟติออส ปาปูลิส กระชากขึ้นมาเองแล้วจ่ายมาที่หัวกระโหลกให้ ปิเอรอส โซติริอู ครองบอลดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะไหลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาตั้งคืนให้ โฟติออส ปาปูลิส เจ้าเก่าที่วิ่งตามขึ้นมา กำลังจะได้ง้างเท้ายิงอยู่แล้ว ทว่าต้องชม อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ตามมาทิ้งตัวสไลด์ดักบอลได้ทันหวุดหวิด
นาที 38
เจ้าถิ่น รัสเซีย ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ครองบอลอยู่ทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจ้าตัวดึงจังหวะแทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ เซอร์จี้ เตเรคอฟ วิ่งสอดไปเอาบอล หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดเลียดเข้ากลางให้ อเล็กซานเดอร์ เยโรคิน วิ่งมาแปด้วยซ้ายติดบล็อก นิโกลัส ยอนนู เข้าขวางทางปืนเอาไว้ได้ทัน ทว่าบอลไม่ไปไหน เยโรคิน เกี่ยวแล้วซ้ำอีกที คราวนี้บอลเบาแถมไปตรงตัวของ เดมีทรีส เดเมทริอู ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับสบาย
นาที 41
เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น รัสเซีย ยังโหมบุกอย่างหนัก จังหวะนี้ อเล็กเซ มิรานชุค ลากตัดจากราบขวามาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะก้มหน้าสับไกด้วยซ้ายเต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแต่ดันไม่หนีตัวเท่าไหร่ เดมีทรีส เดเมทริอู ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาปัดลงพื้นแล้วคว้าเอาไว้ได้ทัน
นาที 45
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ทีมเยือน ไซปรัส เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา นิโกลัส โยนนู บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยมาที่หน้าเสาแรก แล้วเป็น คอนสแตนตินอส โซติริอู สลัดตัวประกบ วิ่งโฉบมาโขกเหน่ง ๆ ไม่กี่หลา ทว่าเป็น มัตเว ซาโฟนอฟ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยังยืนตำแหน่งได้ดี ผวาปัดออกหลังไปได้ทันหวุดหวิด
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางเจ้าถิ่น รัสเซีย ที่ได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่ต้นเกม หลังจากนั้นก็เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทัพหมีขาวปูพรมขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน ไซปรัส อยู่แทบจะฝั่งเดียวแต่ยังยิงหนีห่างไม่ได้ สกอร์ตอนนี้ รัสเซีย 1 ไซปรัส 0 !!!
นาที 46
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น รัสเซีย ที่เกือบได้ประตูหนีห่างอย่างรวดเร็ว จากจังหวะ อเล็กเซ มิรานชุค ลากขึ้นมาถึงกึ่งกลางสนาม ก่อนจะจิ้มบอลแทงทะลุช่องเข้าไปที่กลางเขตโทษฝั่งขวาดื้อ ๆ ให้ เฟดอร์ สโมลอฟ วิ่งสอดหลุดเดี่ยวไปซัดตามน้ำสวนตัว เดมีทรีส เดเมทริอู ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ทว่าไลน์แมนดันยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้า เฮเก้อกันไปสำหรับทัพหมีขาว
นาที 51
ทีมเยือน ไซปรัส ตอบโต้ขึ้นมาได้ลุ้นเหมือนกัน จากจังหวะ นิโกลัส ยอนนู ปาดจากกราบซ้ายมาที่หน้าเขตโทษให้ กรีกอริส คาสตานอส ได้แต่งเข้าขวา ก่อนจะก้มหน้าอัดเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวหนีมือ มัตเว ซาโฟนอฟ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กระดอนพื้นเฉียดเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น
นาที 55 GOAL!!!
เจ้าถิ่น รัสเซีย มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว อังเดร มอสโตวอย ทำชิ่งกับเพื่อนแล้วกระชากขึ้นมาเองถึงกลางสนาม เจ้าตัวแทงบอลขึ้นหน้าต่อให้ อเล็กเซ มิรานชุค วิ่งสอดชิงจังหวะแตะบอลหนี คอนสแตนตินอส ไลฟิส กองหลังตัวสุดท้ายของทีมเยือน ได้กระชากหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะไหลสั้น ๆ มาที่หน้าเสาซ้ายมือถวายพานให้ เฟดอร์ สโมลอฟ ได้ง้างเท้าล็อคหลอก เดมีทรีส เดเมทริอู ผู้รักษาประตูทีมเยือน จนหลังหัก ตามด้วยซัดนิ่ม ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเหนือชั้น
นาที 56 GOAL!!!
เจ้าถิ่น รัสเซีย มาได้ประตูเพิ่มอย่างรวดเร็วเป็น 3-0 !!! จากจังหวะวางบอลยาวสวนกลับเร็ว กองหลังทีมเยือนสกัดไม่ดีมาเข้าทาง เฟดอร์ สโมลอฟ แตะย้อนคืนให้ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ที่หน้าเขตโทษ เบิ้ลบอลจังหวะเดียวไหลตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อังเดร มอสโตวอย ได้โชว์ความพลิ้ว แตะบอลลอดหว่างขาของ คอนสแตนตินอส โซติริอู ตามด้วยคลึงหลบ อันเดรียส คาโร่ อีกหนึ่งที ก่อนจะได้ล่อเป้า แปด้วยขวาโล่ง ๆ เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเหนือชั้น
นาที 61
เจ้าถิ่น รัสเซีย เกือบได้ประตูเพิ่ม เป็นจังหวะ โรมัน ซ็อบนิน ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา เก็บตกกระชากขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะครอสบอลพุ่งโค้งระดับหัวเข่า อ้อมแนวรับเข้าไปที่กลางประตูให้ อเล็กซานเดอร์ เยโรคิน วิ่งสอดมากระโดดแปด้วยขวาเน้น ๆ โล่ง ๆ ไม่จับ ทว่าบอลดันพุ่งไปตรงตัวของ เดมีทรีส เดเมทริอู ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาเซฟเอาไว้ได้อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 62 GOAL!!!
เจ้าถิ่น รัสเซีย มาได้ประตูเพิ่มเป็น 4-0 !!! จากจังหวะ เปิดบอลจากทางฝั่งขวาเลยมาถึง ซอร์จี้ เตเรคอฟ ในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกหาช่องแล้วไหลย้อนเข้ากลางให้ อเล็กซานเดอร์ เยโรคิน วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ไปที่เสาไกลขวามือติดบล็อกของ คอนสแตนตินอส โซติริอู ที่ยืนคุมเส้นอยู่ หวดเคลียร์ลอยโด่งขึ้นฟ้าตกลงมาใส่คาน กระเด้งมาที่หน้าประตูเข้าทาง อเล็กไซ ซูตอร์มิน ได้โขกโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 76
เจ้าถิ่น รัสเซีย น่าจะได้บวกสกอร์เพิ่มแบบสุด ๆ จังหวะนี้ ต่อบอลทำชิ่งกันไปมาหน้าเขตโทษมาถึง อเล็กซ์เซ โรนอฟ ในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตักเข้าไปที่หน้าประตูให้ อันตอน ซาโบล็อตนี่ ได้โหม่งเช็ดจ่อ ๆ ระยะเผาขน ทว่าเจ้าตัวดันสะบัดส่งบอลไปตรงตัวของ เดมีทรีส เดเมทริอู ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาคว้าเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด อย่างน่าเสียดาย
นาที 78
เจ้าถิ่น รัสเซีย บุกขึ้นมาทางกราบซ้าย จังหวะนี้เป็นคู่หูคู่เดิม อเล็กซ์เซ โรนอฟ แทงทะลุช่องตัดหลังแนวรับเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อันตอน ซาโบล็อตนี่ วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปเอาบอล ก่อนจะก้มหน้าซัดเลียดหักข้อด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลผ่านหน้าปากประตู กลิ้งเฉียดเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวชนิดได้ลุ้น
นาที 81 GOAL!!!
เจ้าถิ่น รัสเซีย มาได้ประตูเพิ่มเป็น 5-0 !!! จากจังหวะ กองหลังทีมเยือนสกัดไม่ดีมาเข้าทาง อเล็กซ์เซ โรนอฟ ไหลจากซ้ายมาที่หัวกระโหลกให้ อันตอน ซาโบล็อตนี่ พลิกบอลลากหนีตัวประกบเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนเจ้าตัวจะได้ช่อง ซัดเลียดหักข้อด้วยขวาเล่นทางเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแหวกบล็อก กระดอนพื้นหนีมือ เดมีทรีส เดเมทริอู ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบหน้าต่างเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 87 GOAL!!!
เจ้าถิ่น รัสเซีย มาได้ประตูปิดกล่องครึ่งโหลเป็น 6-0 !!! จากจังหวะ อันตอน ซาโบล็อตนี่ กระดกบอลข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ อเล็กซานเดอร์ เยโรคิน วิ่งสอดไปกระโดดสลับขายิงด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นสวนตัวผ่านมือ เดมีทรีส เดเมทริอู ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบหน้าต่างเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น รัสเซีย เปิดบ้านไล่ถล่มเอาชนะทีมเยือน ไซปรัส ไปได้ด้วยสกอร์ 6-0 !!! รั้งจ่าฝูงของกลุ่มอยู่เหมือนเดิม โดยนัดต่อไปจะต้องไปเยือนโครเอเชีย ในคืนวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านไซปรัส อยู่บ๊วยของกลุ่มเช่นเดิม นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนสโลเวเนีย ในวันเวลาเดียวกัน