เกมการแข่งขันระหว่างเจ้าถิ่นเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ไบรท์ตัน เป็นเจ้าถิ่นที่ครองบอลเหนือกว่าตามสไตล์ เฉือนเอาชนะทีมเยือนไปได้ตามคาด
เกมนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาในระบบ 4-3-3 ทีมยังขาดศูนย์หน้าตัวเก่งชาวอาร์เจนติน่า กุน อเกวโร่ ที่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลองแผนดึง เควิน เดอ บรอยน์ มาเล่นหน้าเป้าแทนที่ได้อย่างไม่มีปัญหา ขณะที่ทีมเยือน ไบรท์ตัน มาในระบบ 3-4-3 ขาดศูนย์ตัวเก่งอย่าง แดนนี่ เวลเบ็ค ที่บาดเจ็บชวดช่วยทีม
นาที 13
เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลตรงมุมเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะจ่ายเข้ากลางมาให้ อิลคาย กุนโดกัน ทำชิ่ง1-2กัน ก่อนเจ้าตัวจะหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงมุมแคบที่เสาแรก แต่ โรแบร์โต้ ซานเชซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมาปิดมุมไว้ได้ทันอย่างฉิวเฉียด
นาที 18
ทีมเยือน ตัดบอลได้สวนกลับเร็วทันที แม็คอัลลิสเตอร์ ได้บอลตรงกลางสนาม ก่อนจ่ายทะลุช่องให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ หลุดไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย โยกหลอก จอห์น สโตนส์ ก่อนปั่นด้วยขวา บอลหลุดเสาไปชนิดได้ลุ้น
นาที 25
แมนซิตี้ ครองบอลอยู่กลางสนาม ก่อนที่ เควิน เดอ บรอยน์ จะตักบอลข้ามแนวรับไปในเขตโทษฝั่งขวา ริยาด มาห์เรซ วิ่งสอดขึ้นมารับบอล ก่อนเลี้ยงจี้เข้าหาประตู ยิงยัดเสาแรกเลย แต่บอลเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
นาที 29
เจ้าถิ่น ได้ฟรีคิกสองจังหวะในกรอบเขตโทษของไบรท์ตัน เควิน เดอ บรอยน์ ได้ปั่นเต็มๆ แต่แนวรับทีมเยือน ยังช่วยขวางไว้ได้ทัน
นาที 39
เจ้าถิ่น น่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆ เอแดร์ซอน ผู้รักษาประตูแมนซิตี้ กระโดดคว้าบอลได้จากจังหวะเสียเตะมุม ก่อนไหลเร็วให้ เควิน เดอ บรอยน์ ลากบอลจากแดนหลังขึ้นมากลางสนาม ก่อนจ่ายให้ ฟิล โฟเด้น ทางขวา เจ้าตัวเลี้ยงตัดเข้ากลางติดกองหลังนิดนึง ก่อนที่ เควิน เดอ บรอยน์ จะตามมาเก็บตก ได้ซัดเต็มๆที่ในเขตโทษฝั่งขวา แต่ผู้รักษาประตูทีมเยือนยังซุปเปอร์เซฟ
นาที 43 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ได้ประตูขึ้นนำ1-0 !!! เป็นจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลอยู่ตรงกลางสนาม ก่อนแทงบอลเข้ากรอบเขตทางซ้ายให้ ฟิล โฟเด้น เจ้าตัวเลี้ยงตัดเข้ามาตรงกลาง ก่อนยิงหักข้อบอลพุ่งเลียด เบียดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม
หมดเวลาครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ ไบรท์ตัน 1-0 !!! เป็นเจ้าถิ่นที่ครองบอลมากกว่า มีโอกาสจบสกอร์อยู่หลายครั้ง แต่ยังทำได้ไม่สำเร็จ
นาที 55
ไบรท์ตัน ได้ลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ปั่นโค้งเข้ากลางประตู กองหลังแมนซิตี้ เคลียร์กันไม่ดี บอลลอยมาเข้าทาง ดาวี่ พร็อพเพอร์ ได้วอลเลย์เต็มๆนอกกรอบเขตโทษ แต่ เอแดร์ซอน รับไว้ได้สบาย
นาที 57
เจ้าถิ่น ครองบอลอยู่ในแดนหลังของตัวเอง ก่อนที่ จอห์น สโตนส์ จะโยนบอลโด่งข้ามแนวรับ และเป็น ริยาด มาห์เรซ หลุดกับดักล้ำหน้า ได้ไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตูในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะ มาห์เรซ จะแปเล่นทางไปเสาสอง บอลหลุดกรอบไปเอง แบบน่าเขกกระโหลกสุดๆ
นาที 58
มาห์เรซ เลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษตรงกลาง ก่อนจ่ายออกซ้ายให้ กุนโดกัน แปเน้นๆไปทางเสาไกล แต่ผู้รักษาประตูไบรท์ตัน ปัดไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ แบร์นาโด้ ซิลวา ได้ซ้ำอีกที บอลก็ไปชนเสา ออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 59
ไบรท์ตัน ต่อบอลกันขึ้นมา เป็น แม็คอัลลิสเตอร์ ลองซัดไกลบริเวณหัวกระโหลก บอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว
นาที 64
ชูเอา คานเซโล่ แบ็คขวาจอมบุกของเจ้าถิ่น กระชากขึ้นมาสุดเส้นทางขวา ก่อนล็อกหลบกองหลังเข้ากลางดื้อๆ เลี้ยงจี้เข้าหาประตู ก่อนซัดด้วยซ้ายเต็มๆ ผู้รักษาประตูทีมเยือนยังยืนตำแหน่งดีรับไว้ได้ เกือบไปแล้ว!!!
นาที 65
เควิน เดอ บรอยน์ ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม ก่อนเลี้ยงจี้ขึ้นมา ส่งบอลออกขวา มาห์เรซ ทำชิ่ง1-2 กลับมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ทะลุไปบริเวณหัวกระโหลก ก่อนซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเลียดไปเสาไกล แต่ผู้รักษาประตูทีมเยือน ล้มตัวเซฟไว้ได้
นาที 90
กองหลังทีมเยือนไบรท์ตันพลาดคืนหลังกันไม่ได้ เป็น เควิน เดอ บรอยน์ ขยันไล่ฉกบอลได้ ก่อนโดนผู้รักษาประตูทีมเยือนทำฟาล์ว แมนซิตี้ ได้จุดโทษ แต่ ราฮีม สเตอร์ริ่ง สังหารจุดโทษพลาดอย่างน่าเสียดาย สกอร์ยังเท่าเดิม 1-0 !!!
หมดเวลาการแข่งขัน จบเกม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ไบรท์ตัน ไปได้ 1-0!!! ขยับรั้งอันดับ 3 ของตาราง เพิ่มสถิติไร้พ่าย 14 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ และเก็บคลีนชีตได้ถึง 11 นัดเลยทีเดียว
ติดตามบทความ วิเคราะห์บอล พรีวิวหลังเกม ข่าวสารฟุตบอล และ ไฮไลท์ฟุตบอล ได้อีกเพียบที่นี่