เกมการแข่งขัน ระหว่าง ทีมชาติ อียิปต์ กับทีมชาติ สเปน ในศึกฟุตบอล โอลิมปิก 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรกของกลุ่ม ซี โดยเล่นกันที่สนาม ซัปโปโร โดม, เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น (สนามกลาง) เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ทีมชาติ อียิปต์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ชอว์กี้ การีบ มาเล่นในระบบ 5-4-1 นำทีมโดย รามาดาน โซบี้ เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม ทาเฮอร์ โมฮาเหม็ด ปีกตัวจี๊ด และ อาห์เหม็ด ยาสเซอร์ รายยาน ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมชาติ สเปน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ดานี่ เซบาญอส เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้ว ดานี่ โอลโม่ ตัวทำเกมริมเส้น และ มิเกล โอยาร์ซาบัล ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 5
เกมทำท่าจะเข้มข้นตั้งแต่ต้นเกม เมื่อมีจังหวะกระทบกระทั่งกัน เกิดจาก อาบู เอล โฟตูห์ นักเตะอียิปต์ ไปเข้าบอลช้าย่ำเข้าใส่ข้อเท้าของ ออสการ์ มินเกซ่า อย่างน่าเกลียด จนเจ้าตัวล้มลงไปนอนเจ็บอยู่พักใหญ่ ผู้ตัดสิน อาดาม มาคาดเมห์ จากจอร์แดน ไม่รอช้า ควักใบเหลืองให้กับ โฟตูห์ อย่างรวดเร็ว
นาที 17
ทีมชาติ สเปน ได้มีโอกาสลุ้นครั้งแรก เป็นจังหวะ ดานี่ เซบาญอส แทงบอลตามช่องออกมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาให้ ออสการ์ มินเกซ่า ที่เติมเกมรุก ดันสูงขึ้นมารับบอล ก่อนจะปาดเลียดเข้ากลางให้ มาร์โก อเซนซิโอ้ ได้จับหนึ่งที แล้วยิงเร็วด้วยขวา แต่บอลปลิ้นหลุดกรอบเสาไกลซ้ายมือ ออกหลังไปนิดเดียว
นาที 22
ทีมชาติ อียิปต์ แทบจะควานหาบอลไม่เจอ จังหวะนี้ ได้สวนกลับขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ บอลสุดท้ายมาที่ อิหม่าม อาชูร์ ได้ตั้งป้อมวางเท้าซัดไกลด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเบาแถมไปตรงตัวของ อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูสเปน รับไว้ได้สบาย
นาที 23
ผ่านมาได้ครึ่งทางของครึ่งแรก ทีมชาติ สเปน ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อ ออสการ์ มินเกซ่า มีอาการบาดเจ็บ ฝืนเล่นต่อไม่ไหว หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ กุนซือกระทิงดุ จำใจต้องถอดเจ้าตัวออกไปพักข้างสนาม แล้วส่ง เฆซุส บาเยโฆ่ ลงมาเล่นแทนในตำแหน่งเดียวกัน
นาที 26
ทีมชาติ สเปน มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง ระยะประมาณ 25 หลา แล้วเป็น มาร์โก อเซนซิโอ้ รับหน้าที่ วิ่งมาปั่นด้วยขวาเน้น ๆ บอลข้ามกำแพงไปแล้ว แต่ยังไม่มุมพอ โมฮาเหม็ด เอล เชนาวี่ ผู้รักษาประตูอียิปต์ พุ่งไปเซฟไว้ได้ทัน
นาที 27
ทีมชาติ สเปน น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ดานี่ เซบาญอส กระชากพาบอลมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะแต่งหาช่อง ได้เหลี่ยมแล้วปั่นด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งไปชนเสาอย่างจัง บอลกระเด้งกลับออกมาเข้าทางเจ้าตัวอีกครั้ง คราวนี้ ฮาล์ฟวอลเลย์ซ้ำกลับเข้าไป แต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกไปนิดเดียว แบบได้ลุ้น
นาที 44
เกมต้องหยุดไปพักใหญ่ ๆ เมื่อ อาดาม มาคาดเมห์ ผู้ตัดสินจากจอร์แดน ได้รับสัญญาณ VAR จากข้างสนาม ก่อนจะเดินไปเช็คอยู่นานสองนาน สุดท้ายเดินกลับลงมาแจกใบเหลืองให้กับ ทาเฮอร์ โมฮาเหม็ด เป็นจังหวะที่เจ้าตัวไปย่ำใส่ข้อเท้าของ ดานี่ เซบาญอส ถือว่ายังโชคดีที่ได้แค่ใบเหลือง เพราะกรรมการมองว่าไม่ได้เจตนา
นาที 45+1
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ทีมชาติ สเปน โชคร้ายต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอีกหนึ่ง เมื่อจังหวะต่อเนื่อง ที่ก่อนหน้านี้ ดานี่ เซบาญอส โดน ทาเฮอร์ โมฮาเหม็ด ย่ำใส่ข้อเท้า สุดท้ายเจ้าตัว ทนเล่นต่อไม่ไหว ขอเปลี่ยนตัวออก โดยเปลี่ยน ฆอน มอนกาโยล่า ลงมาเล่นแทนที่ในตำแหน่งเดียวกัน
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมชาติ สเปน ที่ครองบอลได้เยอะกว่าอย่างชัดเจน ปูพรมเปิดเกมรุก บุกใส่ทีมชาติ อียิปต์ อยู่ฝั่งเดียว แต่จังหวะสุดท้าย ยังเจาะแนวรับทัพฟาโรห์ เข้าไปยิงประตูเน้น ๆ ไม่ได้ สกอร์ตอนนี้ อียิปต์ 0 สเปน 0 !!!
นาที 50
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมชาติ สเปน ที่ได้ลุ้นทันที เป็นจัฟงหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย เปดรี้ เปิดโค้งมาที่เสาแรกให้ เฆซุส บาเยโฆ่ ได้โฉบมาไขว้ส่งไปที่กลางประตูเข้าทาง มิเกล เมริโน่ ได้จับบอล แล้วพลิกตัวไปซัดด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลเบาและไม่หนีมือเท่าไหร่ โมฮาเหม็ด เอล เชนาวี่ ผู้รักษาประตูอียิปต์ เขยิบมารับไว้ได้ทัน
นาที 65
เป็นทีมชาติ สเปน ที่ครองบอลได้มากกว่าตามสไตล์ แต่จังหวะนี้ ทีมชาติ อียิปต์ ตัดบอลได้แล้วสวยกลับเร็วขึ้นมาบ้าง รามาดาน โซบี้ กระชากพาบอลขึ้นมาเองทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะดึงจังหวะรอเพื่อน แล้วไหลบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ มาห์มูด ฮัมดี้ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้แต่งหาช่อง แล้วซัดไกลด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกไป แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 69
ทีมชาติ สเปน ทำยังไงก็เจาะแนวรับทีมชาติ อียิปต์ ไม่เข้าซักที กุนซืออย่าง หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ นั่งไม่ติด จัดการเปลี่ยนแผน ถอดผู้เล่นออกถึงสามคน เริ่มที่ มิเกล เมริโน่, มาร์โก อาเซนซิโอ้, มิเกล โอยาร์ซาบัล แล้วส่ง การ์ลอส โซแลร์, ราฟา มีร์ และ คาร์ลอส โซเลอร์ ลงสนามมาสร้างสรรค์เกมรุกแทน
นาที 79
ทีมชาติ สเปน ได้ฟรีคิกระยะได้ลุ้น หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น ราฟา มีร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา รับอาสา ซอยเท้าวิ่งมาปั่นด้วยขวาเน้น ๆ บอลพุ่งไปแฉลบกำแพง กระดอนออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุมแทน
นาที 88
ทีมชาติ สเปน น่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ฆวน มิรันด้า ทำชิ่งกับเพื่อน หลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปในเขตโทษให้ ราฟา มีร์ ได้เทคตัวขึ้นโหม่งเต็ม ๆ คนเดียว แต่บอลดันพุ่งไปตรงตัวของ โมฮาเหม็ด เอล เชนาวี่ ผู้รักษาประตูอียิปต์ รับเข้าซองไว้ได้สบาย
นาที 90+1
ทีมชาติ สเปน บุกอย่างหรัก ต่อบอลขึงเกมรุกกันไปมาที่หน้ากรอบเขตโทษของอียิปต์ จังหวะนี้ คาร์ลอส โซเลอร์ ตัวสำรอง แต่งบอลหาช่อง ก่อนจะได้เหลี่ยม แล้วได้ซัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลยังพุ่งไปติดเซฟของ โมฮาเหม็ด เอล เชนาวี่ ผู้รักษาประตูอียิปต์ กระฉอกออกมา อาห์เหม็ด เฮกาซี่ ผู้เล่นอียิปต์ หวดทิ้งยอมเสียเตะมุม
นาที 90+3
ก่อนหมดเวลา ทีมชาติ สเปน พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ฆอน มอนกาโยล่า เปิดบอลยาวจากกลางสนามเข้าไปวัดดวงในเขตโทษ แล้วเป็น อาห์เหม็ด เฮกาซี่ เคลียร์บอลไม่ขาด กระดอนไปเข้าทาง เฆซุส บาเยโฆ่ ได้โฉบมาสไลด์ชาร์จที่เสาไกลซ้ายมือ แต่โดนไม่ดี บอลปลิ้นหลุดกรอบ ออกหลังไปนิดเดียว แบบน่าเสียดายสุด ๆ
