เกมการแข่งขันระหว่างเจ้าถิ่นทีมชาติ บอสเนีย เปิดสนาม สตาดิโอน เกอร์บาวิซ่า, ซาราเยโว ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติ ฝรั่งเศส ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ดี
เกมนี้ ไม่ใช่เกมที่ง่ายอย่างที่คิดไว้สำหรับทีมเยือน ฝรั่งเศส เมื่อเป็นฝ่ายครองเกมบุกใส่เจ้าถิ่น บอสเนีย จนเหนื่อย แต่บอลตรงกรอบจริงๆแค่ไม่กี่ครั้ง ต้องชมแนวรับเจ้าถิ่นด้วย ที่วันนี้ช่วยกันดีเหลือเกิน ท้ายที่สุด อองตวน กรีซมันน์ รับบทฮีโร่ โขกประตูโทน ประตูเดียวของเกม ช่วยให้ตราไก่ ฝรั่งเศส บุกมาเฉือนชนะไปได้ 1-0 !!!
เกมนี้ เจ้าถิ่น บอสเนีย มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย มิราเล็ม ปานิช มิดฟิลด์จากบาร์เซโลน่าคอยคุมจังหวะเกม และ เอดิน เชโก้ กองหน้าดาวซัลโวจากโรม่า คอยยืนค้ำในแดนหน้า ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ฝรั่งเศส มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย พอล ป็อกบา มิดฟิลด์ห้องเครื่องจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้าตัวจี๊ดจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง
นาที 10
เปิดเกมมา โอกาสลุ้นประตูครั้งแรก เป็นของทีมเยือน ฝรั่งเศส เป็นจังหวะ คิงสลี่ย์ โคมัน ได้บอลขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนจะลากตัดเข้ากลางมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ แล้วยิงเลียดด้วยซ้ายหักข้อนอกกรอบ บอลพุ่งแรง เฉียดเสาแรกขวามือ ออกไปนิดเดียว
นาที 15
ทีมเยือน บุกต่อเนื่องขึ้นมาทางซ้าย คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กระชากผ่านผู้เล่นเจ้าถิ่น มาถึงกรอบเขตโทษ ครอสเข้ากลางไปให้ คิงสลี่ย์ โคมัน ได้โฉบมาโขกเน้นๆตรงกลางประตู บอลน้ำหนักได้ แต่ทิศทางไม่หนีมือเท่าไหร่ อิบราฮิม เซฮิช ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เขยิบมารับไว้ได้ทัน
นาที 17
ทีมเยือน ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง อองตวน กรีซมันน์ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายติดกำแพง บอลกระดอนไปหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย โตมาร์ เลอมาร์ วิ่งมาใส่ทันที บอลก็ยังเหินข้ามคานออกไปอีก
นาที 24
เจ้าถิ่น บอสเนีย ได้ลุ้นครั้งแรกของเกม เป็นจังหวะ ราเด้ ครูนิช ไหลบอลมาที่หน้ากรอบเขตโทษให้ ดาร์โก โตโดโรวิช ได้กดด้วยซ้ายเต็มๆ บอลพุ่งแรง และกำลังจะเสียบมุม แต่ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกแรงพุ่งปัดออกมาได้ทัน
นาที 26
เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย มิราเล็ม ปานิช เปิดบอลโค้งมาที่กลางประตู อาเนล อาห์เหม็ดฮ็อดซิช ได้สอดมาโขกจ่อๆระยะเผาขน แต่ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ปัดออกไปได้หวุดหวิด
นาที 27
ทีมเยือน สวนขึ้นมาทางกราบขวา อองตวน กรีซมันน์ โยนบอลโค้งไปที่กลางประตู อาเดรียง ราบิโอต์ ได้โขกเต็มๆ แต่บอลก็ยังเหินข้ามคานออกไป
นาที 31
คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ โชว์พลิ้วเลี้ยงจี้เข้าหากองหลัง เข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะสับขาหลอก แล้วกระชากไปยิงยัดที่เสาแรกขวามือ บอลเข้าข้างหน้าต่าง แบบได้ลุ้น
นาที 35
ผ่านมาครึ่งชม ทีมเยือน บี้หนักขึงเกมรุกอยู่ฝ่ายเดียว ที่หน้ากรอบเขตโทษเจ้าถิ่น แต่ยังเจาะเข้าถึงพื้นที่สุดท้ายไม่ได้ ด้านเกมรับของเจ้าถิ่น ก็เล่นได้เหนียวแน่น ตามสกัดไว้ได้ตลอด
นาที 44
ทีมเยือน ได้ลุ้นก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เป็นจังหวะ อองตวน กรีซมันน์ ครอสบอลจากซ้าย มาที่จุดนัดพบ ราฟาเอล วาราน สลัดหนีตัวประกบได้ขึ้นมาโขกคนเดียวเน้นๆ แต่โดนไม่ดี บอลหลุดกรอบออกไปเอง อย่างน่าเสียดายสุดๆ
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน ฝรั่งเศส ที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นอยู่ตลอด แต่จังหวะเข้าไปในพื้นที่สุดท้าย ยังทำได้ไม่ดีพอ สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 54
ทีมเยือน ฝรั่งเศส ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย อองตวน กรีซมันน์ เปิดบอลเข้ามาตรงกลาง แนวรับเจ้าถิ่นเคลียร์ไม่ดีเท่าไหร่ บอลมาถึง เพรสแนล คิมเพมเบ้ หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะดีดด้วยซ้ายทันที แต่บอลหลุดกรอบออกไปไกล
นาที 60 GOAL!!!
ทีมเยือน ฝรั่งเศส ได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 !!! เป็นจังหวะ อาเดรียง ราบิโอต์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้าย มีเวลาได้เงยหน้ามอง แล้วบรรจงครอสไปในเขตโทษให้ อองตวน กรีซมันน์ โขกที่เสาแรกเน้นๆ บอลเข้าประตูไป ไม่เหลือ
นาที 64
ทีมเยือน ได้เตะมุมด้านซ้าย บอลถูกโยนโด่งมาที่กลางประตู โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ได้ขึ้นโขกสะบัดเต็มๆ แต่บอลหลุดกรอบเสาไกลขวามือไปนิดเดียว ถือว่าได้ลุ้นสุดๆ
นาที 70
ทีมเยือน ได้ฟรีคิกทางฝั่งขวา เบนฌาแม็ง ปาวาร์ เปิดโค้งเข้ามาตรงกลาง ราฟาเอล วาราน ได้เบียดขึ้นโขกเต็มๆ บอลก็ยังหลุดกรอบออกไปอีก
นาที 75
ทีมเยือน ครองบอลอยู่หน้ากรอบเขตโทษของเจ้าถิ่น พอล ป็อกบา แตะหนีผู้เล่นเจ้าถิ่นมาถึงหัวกระโหลก ก่อนจะลองใส่ด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งแรง แต่ตรงตัว อิบราฮิม เซฮิช ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นรับไว้ได้สบาย
นาที 77
ทีมเยือน บุกขึ้นมาทางซ้าย คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เลี้ยงพาบอลขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะกระชากไปที่หน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา แล้วปั่นด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งโค้งเฉียดเสาไกลขวามือไปนิดเดียว อิบราฮิม เซฮิช ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ได้แต่ยืนมองตาปริบๆ
นาที 81
เจ้าถิ่น ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตตรงกลาง มิราเล็ม ปานิช วิ่งมาปั่นเน้นๆ แต่บอลก็ยังติดกำแพง กระเด้งออกมา
นาที 86
เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาตรงกลาง เอดิน เซโก้ เก็บบอลได้ ก่อนจะไหลให้ ราเด้ ครูนิช วิ่งมาซัดนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไป
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน ฝรั่งเศส ที่บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น บอสเนีย ไปได้ 1-0 !!! รั้งจ่าฝูงของกลุ่มอยู่ในขณะนี้ ด้าน บอสเนีย อยู่อันดับที่ 4 ของตารางคะแนน และทั้งสองทีมจะต้องเจอกันอีกในนัดต่อไป โดยจะเป็นถิ่นของฝรั่งเศสบ้าง