เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น เรอัล เบติส เปิดสนาม เอสตาดิโอ เบนิโต้ วียามารีน ต้อนรับการมาเยือนของทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มานูเอล เปเยกรีนี่ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย อันเดรส กวาร์ดาโด้ กองกลางห้องเครื่อง เซร์คิโอ กานาเลส เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ ฆวนมี่ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 เช่นกัน นำทีมโดย เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ มิดฟิลด์ห้องเครื่อง วินิซิอุส จูเนียร์ ตัวจี๊ดริมเส้น และ คาริม เบนเซม่า ศูนย์หน้าจอมถล่มประตูของทีม
นาที 5
เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ที่ได้ทักทายก่อน และน่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ วินิซิอุส จูเนียร์ ทำชิ่งกับเพื่อน ได้พาบอลกระชากแหวกกองหลังเจ้าถิ่น ทะลุเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนตบเลียดหักเข้ากลางให้ คาริม เบนเซม่า ได้สอดมาแปด้วยขวาเน้น ๆ หน้ากรอบ 6 หลา พุ่งกระดอนเฉียดเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อถือ
นาที 7
ทีมเยือน เรอัล มาดริด บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ อิสโก้ บรรจงเปิดฟรีคิก บอลลอยโด่งเข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่สุดท้ายจะตกมาเข้าทาง เอแดร์ มิลิเตา มีโอกาสได้ตวัดยิงเร็วด้วยซ้าย พุ่งเข้ากรอบแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ รุย ซิลวา ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้ทัน
นาที 11
เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ตอบโต้ขึ้นมาได้ลุ้นบ้าง เป็นจังหวะได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางฝั่งขวา แล้วเป็น นาบิล เฟคีร์ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง บอลพุ่งแรงโค้งสวยมุดลง ทำท่าจะเบียดเสาอรกขวามือเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดปลายมือเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 21
เจ้าถิ่น เรอัล เบติส เกมรุกเริ่มเข้าที่เข้าทางขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ได้บุกขึ้นมาได้จบอีกครั้ง เมื่อ เซร์คิโอ กานาเลส สอดมาเก็บตกบอลเอาไว้ได้บริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวครองบอลดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะจ่ายย้อนมาที่หน้าหัวกระโหลกตั้งให้ กีโด้ โรดริเกซ วิ่งมาวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ แหวกทะลุบล็อกไปที่หน้าประตู แต่เป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี เซฟเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
นาที 24
เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ ไอตอร์ รุยบาล ได้บอลทางกราบขวา ก่อนจะแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้ นาบิล เฟคีร์ ได้สปีดโฉบไปเอาบอลแล้วโดนสะกิดทิ้งตัวร่วงลงไป เจ้าตัวฟ้องจะเอาจุดโทษให้ได้ สุดท้ายโชคไม่ดี ผู้ตัดสินมองว่าเจตนาพุ่งล้มชัดเจน ควักใบเหลืองไปให้แทน
นาที 31
เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ นาบิล เฟคีร์ รับบอลมาจาก อันเดรียส กวาร์ดาโด้ ที่บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ เจ้าตัวแต่งบอลหาช่องเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะซัดเร็วเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรง เหินข้ามคานออกไปไกล แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 36
เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ยังขึงเกมรุกได้อย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ มาร์ติน มอนโตน่า เติมเกมรุก สอดขึ้นมารับบอลทางกราบขวา เจ้าตัวลากตัดเข้าในมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยซ้ายหักข้อเน้น ๆ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น เฉียดเสาแรกขวามือ หลุดออกหลังไปแบบได้เสียว
นาที 37
เรอัล มาดริด ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาตรงกลาง จังหวะนี้ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ลากพาบอลขึ้นมาเอง ก่อนจะแทงบอลตามช่องไปที่บริเวณกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ ดาเนี่ยล การ์บาฆาล ที่เติมเกมสูงวิ่งสอดขึ้นมา ได้ตักบอลเข้าไปในเขตโทษ แต่บอลดันเปลี่ยนทิศกลายเป็นดี ลอยโด่งทำท่าจะย้อยเสียบใต้คานเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่า รุย ซิลวา ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยังไม่ยอมง่าย ๆ ผวาไปทิ้งออกหลังได้ทันเฉียดฉิว
นาที 40
เจ้าถิ่น เรอัล เบติส ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็วได้เหมือนกัน จังหวะนี้ เซร์คิโอ กานาเลส ทิ้งยาวขึ้นหน้าไปที่หน้ากรอบเขตโทษด้านขวาให้ ฆวนมี่ ได้พักอกเอาบอลลง ก่อนจะโยกแต่งหาช่อง แล้วกดเร็วด้วยขวาเต็มข้อ พุ่งแรงตรงกรอบไปถูก ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดทิ้งออกมาที่กลางประตู ยังดีไม่มีใครซ้ำได้ทัน
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน เรอัล มาดริด ที่ครองบอลได้มากกว่า รูปเกมก็ดูดีกว่าในช่วงต้นเกม ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นาน เกมกลับตาลปัตรมาเป็นฝ่ายเจ้าถิ่น เรอัล เบติส ที่โหมบุกเข้าใส่ทีมเยือนอยู่แทบจะฝั่งเดียว อย่างไรก็ดี ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 47
เริ่มเกมครึ่งหลังมาปุ๊ป เป็นทางฝั่งทีมเยือน เรอัล มาดริด ที่เดินหน้าบุกใส่เจ้าถิ่นทันที จังหวะนี้ มิเกล กูเตียร์เรซ ดันเกมสูง หลุดขึ้นมารับบอลบริเวณกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะเปิดเข้าไปที่กลางประตูให้ คาริม เบนเซม่า ได้เกี่ยวบอลลง แต่งหาช่องแล้วยิงเร็วด้วยขวา เหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 50
ทีมเยือน เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ แกเร็ธ เบล ได้บอลหลุดมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงครอสบอลไปยังหน้าเสาแรกให้ คาริม เบนเซม่า ได้โฉบมาโขกสะบัดเน้น ๆ ทำท่าจะเสียบใต้เข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น รุย ซิลวา ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาปัดทิ้งช่วยทีมเอาไว้ได้ทัน
นาที 53
ทีมเยือน ราชันชุดขาว พยายามเร่งเครื่อง โหมบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก จังหวะนี้เกือบขึ้นนำ เมื่อ คาร์ลอส คาเซมิโร่ บรรจงตักบอลโด่งข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษให้ คาริม เบนเซม่า ได้วิ่งสอดมาโขกเหน่ง ๆ คนเดียว ส่งบอลเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ทว่า ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน เฮเก้อกันไปสำหรับทีมเยือน
นาที 61 GOAL!!!
ทีมเยือน เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 !!! เป็นจังหวะการเล่นบอลเร็ว ประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม เริ่มที่ วินิซิอุส จูเนียร์ ฉีกตัวเองมารับบอล กระชากต่อไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะล็อกกลับมาไหลคืนหลังให้ คาริม เบนเซม่า บรรจงเปิดบอลลึกไปที่หน้าเสาไกลขวามือถวายพานให้ ดาเนี่ยล การ์บาฆาล ที่วิ่งสอดเติมเกมขึ้นมา ได้ทิ้งตัววอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งแรงย้อนศร เสียบหน้าต่างเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 68
หลังจากเสียประตู เจ้าถิ่น เรอัล เบติส พยายามบุกเอาประตูคืนอย่างหนัก จังหวะนี้ นาบิล เฟคีร์ ไหลบอลตามช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ มาร์ติน มอนโตน่า ที่เติมเกมสูงขึ้นมา ได้ตั้งแต่งหาเหลี่ยม ก่อนจะซัดเร็วด้วยซ้ายยัดไปที่เสาแรก พุ่งเลียดระดอนพื้นไปตรงตัวของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาอยู่แล้ว รับเอาไว้ได้ทัน
นาที 69
เจ้าถิ่น เรอัล เบติส เดินหน้าลุยขึ้นมาอีกครั้ง จังหวะนี้ ไอตอร์ รุยบาล กระชากจากกลางสนาม พาบอลขึ้นมาเองถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะเห็นช่อง ขอลองวางเท้าอัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังยืนตำแหน่งดี เขยิบมารับไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง
นาที 73
ทีมเยือน เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ มาร์โก อเซนซิโอ้ ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม ก่อนจะพาบอลสวนกลับขึ้นมาเองด้วยความเร็วถึงหน้าเขตโทษ โดยมีเพื่อนวิ่งขนาบเติมมาช่วยซ้ายขวา แต่สุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจซัดเองด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น เฉียดเสาขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว ถึงกระนั้นเพื่อน ๆ บ่นอุบกันใหญ่
นาที 74
เจ้าถิ่น เรอัล เบติส พยายามบุกอย่างหนัก แต่ทำยังไงก็ยังเจาะเกมรับทีมเยือนไม่เข้า จังหวะนี้ วิคเตอร์ คามาราซา ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา โชว์ความใจร้อน ลองส่องไกลด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ ระยะไกลกว่า 30 หลา บอลพุ่งแรงและติดส่าย แต่สุดท้ายก็ลอยหลุดกรอบออกไปอยู่ดี
นาที 90
ทีมเยือน เรอัล มาดริด ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ คาริม เบนเซม่า ไหลมาทางกราบซ้ายให้ เอแด็น อาซาร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้ติดเครื่อง พาบอลเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะโยกหนีตัวประกบ แล้วซัดเร็วด้วยซ้ายข้างถนัดยัดมุมแคบไปที่เสาแรก แต่ก็ยังติดเซฟของ รุย ซิลวา ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนปิดมุมเอาไว้อยู่แล้ว ปัดทิ้งได้ทันควัน
นาที 90+7
เจ้าถิ่น เรอัล เบติส เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ คริสเตียน เตโย่ ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดไปที่เสาสองขวามือให้ มาร์ติน มอนโตน่า ที่วิ่งสอดเติมขึ้นมา ได้ตะบันเต็มข้อด้วยขวาเน้น ๆ บอลพุ่งแรงเป็นจรวด ทำท่าจะเสียบเสาเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่า ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังผวามาปัดทิ้งเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เรอัล มาดริด บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! เขยิบขึ้นมารั้งจ่าฝูงของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเซลต้า บีโก้ ในวันเสาร์ที่ 11 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเรอัล เบติส รั้งอันดับที่ 14 ของตาราง นัดต่อไปต้องออกไปเยือนกรานาด้า ในช่วงดึกของวันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน ถัดมาหนึ่งวัน