เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพสาลิกาดง นิวคาสเซิ่ล เปิดสนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค, เมืองนิวคาสเซิ่ล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 18 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น นิวคาสเซิ่ล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว มาเล่นในระบบ 4-5-1 นำทีมโดย โจ วิลล็อค กองกลางห้องเครื่อง มิเกล อัลมิร่อน ตัวลากเลื้อยริมเส้น และ คัลลั่ม วิลสัน ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ ริยาด มาห์เรซ ปีกจอมพลิ้ว และ กาเบรียล เชซุส กองหน้าตัวความหวังของทีม
นาที 5 GOAL!!!
เปิดฉากมาได้แค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มาได้ประตูออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ต่อเนื่องจากลูกเตะมุม โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ บรรจงหยอดบอลแถวสอง ลอยโด่งข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ ชูเอา คันเซโล่ วิ่งสอดไปถึงบอลที่สุดเส้นหลัง ก่อนจะกระดกไปที่หน้าประตู แล้วเป็นแนวรับเจ้าถิ่นที่ไม่ยอมโหม่งสกัด ปล่อยให้บอลตกพื้นกะจะให้กับ มาร์ติน ดูบราฟก้า นายทวารเพื่อนร่วมทีมรับช่วงต่อ สุดท้ายกั๊กกันเอง บอลกระเด้งมาเข้าทาง รูเบน ดิอาซ ได้โหม่งโล่ง ๆ จ่อ ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 11
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบ บริเวณสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ บรรจงหยอดโด่งข้ามแนวรับ ลอยลึกข้ามฟากเข้าไปยังเขตโทษฝั่งขวาให้ ชูเอา คันเซโล่ สอดมาพักอกเอาบอลลง ก่อนจะฮาล์ฟวอลเลย์มุมแคบด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนปิดมุมอยู่พอดี รับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย
นาที 12
เจ้าถิ่น ทัพสาลิกาดง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้เกือบตีเสมอทันควัน เมื่อ มิเกล อัลมิร่อน พลิ้วหลุดขึ้นมาทางเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวครอสเข้าไปที่กลางประตูโดน แบร์นาร์โด้ ซิลวา โหม่งสกัดไม่ขาดออกมา แล้วเป็น ริยาด มาห์เรซ โขกเคลียร์ต่อไม่ดี กลายเป็นส่งบอลมาที่หน้าหัวกระโหลกให้กับ โชลินตอน แต่งบอลลงหนึ่งจังหวะ ก่อนจะตามมาวางเท้าซัดนอกกรอบด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเลียด กระดอนพื้นเฉียดโคนเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
นาที 17
เจ้าถิ่น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ใช้ลูกขยันเข้าสู้ ดันกันขึ้นมาไล่เพลสซิ่งจนทำให้ อิซัค เฮย์เด้น แซะบอลมาจาก เควิน เดอ บรอยน์ ได้ในเขตโทษ บอลทะลักมาเข้าทางปืนของ ไรอัน เฟรเซอร์ สบโอกาสซัดเน้น ๆ ผ่านมือ เอแดร์ซอน โมราเอส นายทวารทีมเยือน ไปได้แล้วแต่ยังมีแนวรับเรือใบตามมาสกัดทิ้งก่อนข้ามเส้นประตูได้ทัน ทว่าผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน เป่าจับฟาล์วตั้งแต่จังหวะแรก ถ้าเข้าก็ต้องมาเช็ค VAR กันอีกที
นาที 23
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พยายามตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่อีกระลอก จังหวะนี้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จ่ายให้กับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา วิ่งสอดมารับบอล เจ้าตัวพลิ้วทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะล็อคหาช่องแล้วไหลย้อนมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบแบบไม่จับ ส่งบอลลอยโด่ง เหินข้ามคานออกไปไกล ชนิดไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
นาที 27 GOAL!!!
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะความยอดเยี่ยมของ ชูเอา คันเซโล่ ที่ลากบอลจี้แหวกขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ เจ้าตัวโยกหลอก อิซัค เฮย์เด้น จนหลังหักมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะแต่งหนึ่งทีทะลุมาถึงหัวกระโหลก ตามมาด้วยการตะบันเต็มข้อเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดหนีมือ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างเหนือชั้น ฉลองเกมที่ 100 กับทัพเรือใบ ให้กับตัวเองอย่างงดงาม
นาที 30
เจ้าถิ่น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษกันใหญ่ จากจังหวะ บอลยาวเข้าเขตโทษ แล้วเป็น ไรอัน เฟรเซอร์ พยายามสปีดไปเล่นบอลโดยมี ชูเอา คันเซโล่ คอยบังทางอยู่ ทว่าเป็น เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน คิดยังไงไม่รู้ วิ่งออกมากวาดเอามิดฟิลด์คู่แข่งร่วงลงไป ช็อตนี้ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน ยังใจแข็งไม่ได้ว่าอะไร แถมให้เล่นต่อไปไม่ยอมเช็ค VAR อีกตะหาก
นาที 43
เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้ลุ้นนาน ๆ ที จังหวะนี้ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ไรอัน เฟรเซอร์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น อิซัค เฮย์เด้น ได้เทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเหน่ง ๆ คนเดียว แต่บอลผิดเหลี่ยมไปหน่อย พุ่งถากเสาสองขวามือ หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 45+1
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นประตูส่งท้าย จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จ่ายให้กับ เควิน เดอ บรอยน์ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ กาเบรียล เชซุส ได้วิ่งสอดหลุดไปวางเท้าสับไกด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ถึง 68 เปอร์เซ็นต์ ทัพเรือใบเป็นฝ่ายพับสนามขึงเกมรุก บุกใส่เจ้าถิ่น ทัพสาลิกาดง อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูออกนำไปก่อนแล้วเบาะ ๆ สองลูก สกอร์ตอนนี้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 !!!
นาที 52
เปิดฉากครึ่งหลังมา ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูเพิ่มทันที จากจังหวะเริ่มที่ ริยาด มาห์เรซ ไหลสั้น ๆ กลับหลังให้ ชูเอา คันเซโล่ วิ่งมาครอสโด่งจากกราบขวาไปยังเสาไกลให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา สอดมาโหม่งตั้ง ชงถวายพานเข้าไปที่กลางประตูต่อให้กับ กาเบรียล เชซุส ที่ยืนกางมุ้งรออยู่โล่ง ๆ ได้โหม่งเน้น ๆ ระยะไม่กี่หลา ทว่าเป็น มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาปัดข้ามคานออกไปได้ทันหวุดหวิด
นาที 57
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดินหน้าบุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ฝากบอลออกไปที่ริมเส้นฝั่งซ้ายให้กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ค่อย ๆ พาบอลลากจี้ตัดเข้าใน ก่อนจะเห็นช่อง สบโอกาสขอลองปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยไปยังเสาไกลขวามือ แต่เป็น มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยังยืนตำแหน่งได้ดี พุ่งไปปัดทิ้งเอาไว้ทันเฉียดฉิว
นาที 60
เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมง ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ติดเครื่องพาบอลพลิ้วหนีคู่แข่งจากกลางสนาม ควบมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะเลือกจ่าย ไหลนิ่ม ๆ เข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ ชูเอา คันเซโล่ วิ่งสอดเติมมา จบด้วยการซัดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลลอยโด่ง เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล
นาที 64 GOAL!!!
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เติมสูงขึ้นมารับบอลที่หน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวมีพื้นที่มีเวลาเงยหน้ามอง ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปยังพื้นที่ว่างหน้าเสาไกลถวายพานให้ ริยาด มาห์เรซ ได้วิ่งสอดไปที่จุดนัดพบ หลุดเดี่ยวมาวางเท้าตวัดยิงวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งเสียบเสาขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม ทีแรกผู้ช่วยยกธงว่าล้ำหน้า สุดท้ายผู้ตัดสินเช็ค VAR กลับลงมายืนยันให้เป็นสกอร์ เรียบร้อยโรงเรียนจีน ประตูนี้กลายเป็นลูกที่ 50 ของปีกทีมชาติแอลจีเรีย ที่ยิงให้กับทัพเรือใบสีฟ้าอีกด้วย
นาที 68
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โหมบุกใส่เจ้าถิ่นอย่างหนึ่งหน่วงไม่มีพัก จังหวะนี้ ต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พยายามลากจี้เข้าไปในเขตโทษ เลือกจ่ายออกขวามาให้กับ ริยาด มาห์เรซ ได้ครอสกลับเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น รูเบน ดิอาส ได้โหม่งเช็ดเน้น ๆ ส่งบอลผิดเหลี่ยมหลุดเสาไกลออกไปเองอย่างน่าเสียดาย เพื่อนร่วมทีมเข้าชาร์จไม่ทันอีกตะหาก
นาที 81
เจ้าถิ่น ทัพสาลิกาดง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยังไม่ถอดใจ พยายามตั้งเกมบุกตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ต่อเนื่องจากลูกตั้งเตะ แล้วเป็น ไรอัน เฟรเซอร์ เก็บบอลได้ทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่หน้าประตูให้ คัลลั่ม วิลสัน ได้สอดมาโหม่งเหน่ง ๆ ไม่กี่หลา ทว่าเป็น เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาปัดทิ้งออกหลังไปได้ทันหวุดหวิด
นาที 83
เจ้าถิ่น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ คัลลั่ม วิลสัน พักบอลดึงจังหวะรอเพื่อนแล้วจ่ายให้ เจฟฟ์ เฮนดริก วิ่งมารับบอลแล้วแปะต่อมาที่หน้าเขตโทษให้กับ อัลล็อง แซงต์ มักซิแม็ง ขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ทิศทางยังไม่เข้าเป้า ลอยเหินข้ามคานออกไป ทำได้แค่หวาดเสียว
นาที 86 GOAL!!!
ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 4-0 !!! จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร บอลวางยาวมาให้กับ กาเบรียล เชซุส ริมกรอบด้านซ้าย เจ้าตัวโชว์ความพลิ้ว กระชากหนี จาค็อบ เมอร์ฟี่ ทะลุเข้าไปที่สุดเส้นหลังในเขตโทษดื้อ ๆ ก่อนจะปาดเลียดถวายพานไปที่หน้าประตูให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง วิ่งสอดมาชาร์จเน้น ๆ ได้แปโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย ไม่เหลือซาก
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาไล่ถล่มเอาชนะเจ้าถิ่น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 !!! คว้าชัย 8 นัดรวดในลีก รั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนอยู่ในขณะนี้ แถมยังทำลายสถิติใหม่ เป็นทีมแรกบนลีกสูงสุดที่กวาดชัยชนะได้ 34 เกมภายในปีปฏิทินเดียว ลบสถิติเดิมที่ ลิเวอร์พูล เคยทำไว้ในปี 1982 โดยนัดต่อไปทัพเรือใบจะเปิดบ้านพบกับเลสเตอร์ ซิตี้ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด รั้งรองบ๊วยของตารางเช่นเดิม นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในคืนวันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม ถัดมาหนึ่งวัน