เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 13 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย จอร์จินโญ่ กองกลางห้องเครื่อง ฮาคิม ซีเย็ค เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชั่วคราวอย่าง ไมเคิ่ล คาร์ริค มาเล่นในระบบ 4-3-1-2 นำทีมโดย บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม เจดอน ซานโช่ ปีกตัวจี๊ด และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
นาที 3
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เชลซี ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย แทงยัดตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ฮาคิม ซีเย็ค พลิกหนี เอริก ไบยี่ มายิงด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เปลี่ยนทางไปตรงตัวของ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย ไม่มีปัญหา
นาที 4
เจ้าถิ่น เชลซี น่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ติอาโก้ ซิลวา วางบอลยาวออกซ้ายให้ มาร์กอส อลอนโซ่ โขกชงเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายต่อให้ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย สอดมาเกี่ยวหนี วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ หลุดขึ้นมาได้สวย ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจ เอี้ยวตัวกดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดเซฟของ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูทีมเยือน เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น จังหวะนี้เล่นเอา ติโม แวร์เนอร์ ที่กางมุ้งรออยู่โล่ง ๆ ถึงกับบ่นว่าไม่ยอมส่งมาให้ พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 17
เจ้าถิ่น ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ลากจี้ขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนตวัดไหลย้อนมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ ฮาคิม ซีเย็ค วิ่งมาบรรจงตวัดยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลลอยโด่ง เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล
นาที 20
ทีมเยือน ทัพปีศาจ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอบโต้ขึ้นมาได้โอกาสลุ้นแบบจะแจ้งเป็นครั้งแรก จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เจดอน ซานโช่ ขยับถ่างออกมารับบอลทางขวา ก่อนจะแปะไหลมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส วิ่งมาตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ระยะร่วม 30 หลา ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวด ถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปชนิดได้เสียว
นาที 29
เจ้าถิ่น เชลซี เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ บอลหน้าเขตโทษของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ดันสูงขึ้นมาแต่งหนึ่งที ได้ช่องวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ ระยะกว่า 25 หลา ส่งบอลลอยข้ามบล็อกของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ พุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 36
เจ้าถิ่น เชลซี เกือบได้ลูกส้มหล่น เป็นจังหวะความผิดพลาดของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ติดประมาท ไปจ่ายบอลขวางสนามหน้าเขตโทษตัวเองโดน คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย สอดมาฉกลากไปยิงเร็ว ๆ เน้น ๆ ทว่าโชคไม่ดีเท่าไหร่ บอลดันพุ่งไปตรงตัวของ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้ทัน
นาที 40
เจ้าถิ่น เชลซี บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ เกมรับของปีศาจแดงพลาดกันอีกแล้วโดน ฮาคิม ซีเย็ค ขยันไล่บี้ชิงบอลมาได้ เจ้าตัวจ่ายเร็วเข้ากลาง แล้วเป็น วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ หวดสกัดทิ้งออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง รีซ เจมส์ ได้วิ่งมายิงสวนทันที ทว่าบอลยังไม่เข้าเป้า ลอยหลุดออกหลังไปไกล
นาที 45+1
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เจ้าถิ่น เชลซี ลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษทางด้านซ้าย แล้วเป็น รีซ เจมส์ รับหน้าที่ บรรจงเปิดปั่นไซด์เข้าไปลุ้นที่หน้าประตู บอลพุ่งแรงโค้งสวยไม่โดนใคร กระเด้งไปที่เสาไกล ทำท่าจะเสียบหน้าต่างเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังไม่เหม่อ ผวาพุ่งไปปัดทิ้งออกหลัง ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด เสียเป็นลูกเตะมุมแทน
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น เชลซี ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 68 เปอร์เซ็นต์ ทัพสิงห์บลูส์ เป็นฝ่ายขึงเกมรุก พับสนามบุกใส่ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่แทบจะฝั่งเดียว ขาดเพียงแค่ความเฉียบคมในพื้นที่อันตรายเท่านั้น ที่ยังทำได้ไม่ดีเอง สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์ตอนนี้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 50 GOAL!!!
เปิดฉากครึ่งหลังมาได้แค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ต่อเนื่องจากลูกเตะมุม บรูโน่ แฟร์นันด์ส หวดเคลียร์โด่งทิ้งมาที่ตรงกลางสนามเข้าทาง จอร์จินโญ่ ที่ยืนเป็นตัวสุดท้าย ทำผิดพลาดจับบอลห่างตัวโดน เจดอน ซานโช่ โฉบมาฉกไปดื้อ ๆ ได้กระชากหลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้าในเขตโทษ ก่อนจะแปเน้น ๆ เล่นทางผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างเยือกเย็น
นาที 58
เจ้าถิ่น เชลซี มาได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย มาร์กอส อลอนโซ่ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น อารอน วาน บิสซาก้า สกัดบอลไม่ดี ปล่อยแฉลบหลุดมาที่เสาไกลถึง ติโม แวร์เนอร์ ได้เอี้ยวตัวอัดด้วยขวาเน้น ๆ แต่โดนไม่ดีเท่าไหร่ บอลพุ่งติดไซด์ก้อย ปลิ้นหลุดเสาไกลออกหลังไปเอง อย่างน่าผิดหวังสุด ๆ
นาที 67 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เชลซี มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมแล้วโยนเข้ากลางไปแฉลบหลัง เฟร็ด มาเข้าทาง ติอาโก้ ซิลวา ถึงบอลก่อนใคร ทว่าโดน อารอน วาน บิสซาก้า เสียเหลี่ยมเข้าบอลช้าไปหวดใส่ขาเต็ม ๆ ร่วงลงไป แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ ไม่รอช้า เป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษแก่ทัพสิงห์บลูส์ทันที แล้วเป็น จอร์จินโญ่ รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด แก้ตัวให้ตัวเองได้สำเร็จ
นาที 72
เจ้าถิ่น เชลซี โหมบุกอย่างหนัก จังหวะนี้ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย วางบอลยาวข้ามฟากเข้าไปที่เสาไกลขวามือให้ รีซ เจมส์ ที่เติมสูงสอดขึ้นมา ได้โหม่งย้อนกลับเข้ามาตรงกลางให้ ฮาคิม ซีเย็ค พุ่งโฉบมาตวัดยิงด้วยขวาข้างไม่ถนัด โดนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่งบอลผิดเหลี่ยม หลุดออกหลังไปอีกครั้งหนึ่ง
นาที 77
เจ้าถิ่น เชลซี ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ ประสานงานทำชิ่งกันอย่างสุดสวย แล้วเป็น ฮาคิม ซีเย็ค ดีดบอลยัดเข้าไปที่กรอบ 6 หลาให้ ติโม แวร์เนอร์ ขยับตัวพลิกหนีประกบ สอดมายิงฉีดยาด้วยซ้ายเน้น ๆ ทว่าต้องชม อารอน วาน บิสซาก้า วิ่งตามมาขวางทางปืน แหย่ขาสกัดบล็อกบอล ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 80
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น เชลซี ยังคงพับสนามบุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เมสัน เมาน์ท ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ครองบอลดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนไหลเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษให้ ฮาคิม ซีเย็ค ได้โยกหาช่องยิงเน้น ๆ ได้สวย ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูทีมเยือน เขยิบมารับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย
นาที 88
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูชัย เป็นจังหวะ ความผิดพลาดของ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ออกบอลประมาท กลายเป็นไปจ่ายถวายพานให้ เฟร็ด ลากสวนขึ้นมา ก่อนจะพยายามชิพนอกกรอบเขตโทษอย่างเหนือ ทว่าบอลน้ำหนักเบา แถมตรงตัวของ เอดูอาร์ เมนดี้ รับคืนเอาไว้ได้สบาย น่าเสียดายของสุด ๆ จังหวะนี้
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เชลซี เปิดบ้านเสมอกับทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 1-1 !!! ยังคงรั้งจ่าฝูงของตารางอยู่เหมือนเดิม โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนวัตฟอร์ด ในคืนวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2564 ส่วนทางด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รั้งอันดับที่ 8 ของตารางคะแนน นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับอาร์เซน่อล ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้