คาร์ร่าบอก “ลูกากู” คือระเบิดเวลา – ไม่ลงแล้ว “สิงห์” เล่นดีกว่า

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังลิเวอร์พูล ให้ความเห็นว่า โรเมลู ลูกากู คือระเบิดเวลาที่รอวันปะทุในระหว่างที่ยังอยู่กับเชลซี

เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ลูกากู ย้ายจากอินเตอร์ มิลาน กลับไปเล่นให้เชลซีอีกรอบ ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 97.5 ล้านปอนด์

หลังจากออกสตาร์ทได้ดีเขามีปัญหาบาดเจ็บรวมถึงเรื่องโควิด-19 ทำให้ช่วงปลายปีที่ผ่านมาไม่ได้รับโอกาสลงสนาม

ก่อนที่กองหน้าชาวเบลเยี่ยมจะออกมาให้สัมภาษณ์เป็นประเด็นดราม่า ส่วนหนึ่งก็เรื่องสถานการณ์ของตนเองภายใต้กุนซือโธมัส ทูเคิล ก่อนที่สุดท้ายเขาจะออกมาเปิดใจขอโทษกับแฟนบอล

แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะมีส่วนหรือไม่ แต่เชลซีไม่ชนะในพรีเมียร์ลีกมา 4 นัดติดต่อกัน หลังจากคำสัมภาษณ์ดังกล่าวของลูกากูถูกเผยแพร่และเขาก็กลับมาลงสนามช่วยทีมได้หลังจากออกมาขอโทษ

พูดถึงสถานการณ์นี้ คาร์ราเกอร์ บอกผ่าน Telegraph ว่า “ตอนที่ลูกากูเซ็นกับเชลซี ทุกคนเห็นตรงกันว่าเขาเป็นผู้เล่นคนละคนกับตอนที่ย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”

“6 เดือนหลังจากนั้น มีข้อสังเกตเดียวที่ถูกต้องเกี่ยวกับการกลับมาของเขา คือเขาไม่ต่างจากเดิม”

“โธมัส ทูเคิล กำลังจัดการกับกองหน้าคนเดิมที่ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหมดความอดทนและขายเขาให้อินเตอร์ มิลาน

“ทำให้ช่วยไม่ได้ที่ผมจะคิดว่ามันมีระเบิดเวลาอยู่ในห้องแต่งของเชลซี กับการที่ผู้เล่นและสโมสรเริ่มขาดความอดทนซึ่งกันและกัน”

“การสัมภาษณ์ล่าสุดของลูกากูกับสื่ออิตาลีมันคือการบอกใบ้ถึงสิ่งที่จะตามมาในอนาคต”

“เรื่องมันซาลงไปแล้ว แต่ถ้าผลงานยังไม่ดีและทูเคิลยังพยายามสื่อว่า 11 ตัวจริงของเขาไม่มีลูกากูอยู่ในนั้น มันเหมือนกับว่าระเบิดมันถูกหยุด ไม่ได้ถูกปลด”

จากนั้นเขาพูดถึงทีมเชลซีว่า “บนหน้ากระดาษเชลซีดูเป็นทีมที่สมดุลกับการมีลูกากูเป็นกองหน้า แต่ความเป็นจริงคือพวกเขาเล่นได้ลื่นไหลและอันตรายมากกว่าโดยที่ไม่มีเขา”

“อย่าลืมนะว่าก่อนที่ลูกากูจะย้ายไปร่วมทีม พวกเขาคว้าแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยที่คนทำประตูชัยอย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์ เป็น false nine”

“มองไปที่ฟอร์มการเล่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดของเชลซีในฤดูกาลนี้ เกมชนะยูเวนตุส 4-0 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ลูกากูไม่ได้อยู่ในรายชื่อเนื่องจากบาดเจ็บ”

“มันยังเร็วไปที่จะพูดว่าการจ่าย 97.5 ล้านปอนด์ซื้อลูกากูเป็นเรื่องผิดพลาด แต่ถ้าฟอร์มการเล่นยังไม่กลับมาและทูเคิลไม่เชื่อใจเขาในเกมสำคัญในพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ ลีก นั่นแหละถึงเป็น(ความผิดพลาด)” เขากล่าว