เกมการแข่งขัน ระหว่างเจ้าถิ่นทีมปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ เปิดสนาม เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เกมนี้ เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เอเบเรชี่ เอเซ่ ปีกจอมพลิ้ว คริสติย็อง เบนเตเก้ กองหน้าตัวจบสกอร์ และ วิลฟรีด ซาฮา ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย แฟร์นันดินโญ่ มิดฟิลด์ตัวรับตัวเก๋า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกความเร็วสูง และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวซัลโวประจำสโมสร
นาที 9
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทักทายก่อน แล้วเกือบจะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เบนฌาแม็ง เมนดี้ ล็อคหนี โจเอล วอร์ด หลุดขึ้นสูงมาทางฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสโด่งลึกไปที่เสาไกลให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ที่ยืนรออยู่ ได้ตั้งป้อมยิงด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลไปติดบล็อกของ ไทริก มิทเชลล์ แฉลบออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 10
เป็นจังหวะต่อเนื่องจากเตะมุม เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ได้ทักทายขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะสวนกลับเร็ว แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ลากพาบอลขึ้นไปเกือบสุดเส้นทางขวา ก่อนจะเลี้ยงวนกลับหลังแล้วเปิดด้วยซ้าย พุ่งโด่งเข้าไปในเขตโทษให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ ได้กระโดดโถมมาโหม่ง แต่สุดเหยียดโดนบอลไม่เต็ม หลุดกรอบออกไป
นาที 14
เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาทางกราบซ้าย วิลฟรีด ซาฮา พาบอลเลี้ยงขึ้นมาเอง ก่อนจะไหลไปที่หน้าเขตโทษให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ เจ้าตัวเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษ ไม่มีใครเข้ามาประกบ เลยยิงเร็วด้วยขวาทันที บอลพุ่งแรงและตรงกรอบ แต่ไม่หนีตัวเท่าไหร่ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เขยิบมารับไว้ได้สบาย
นาที 17
ทีมเยือน ได้ลุ้นขึ้นมาอีกครั้ง เป็นจังหวะวางบอลยาวมาจากแดนหลัง ชีกู กูยาเต้ กะจังหวะบอลตกพลาด บอลหลุดมาถึง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้โชว์เหนือ กระดกบอลหนี โจเอล วอร์ด ทะลุเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะแตะหลบ สกอตต์ แดนน์ อีกที แล้วง้างเท้ายิงจ่อ ๆ ที่เสาแรก ทว่า ไทริก มิทเชลล์ ตามลงมาช่วยสไลด์ขวางบอลจังหวะสุดท้ายได้ทันเฉียดฉิว
นาที 28
เจ้าถิ่น ทำชิ่งขึ้นมากันสวย บอลมาถึงที่ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ได้พาขึ้นมาทางขวา ดึงจังหวะรอเพื่อน แล้วไหลตัดหลังแนวรับต่อให้ โจเอล วอร์ด ที่เติมสูงตามหลังขึ้นมา ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา แล้วจ่ายยัดเข้าไปตรงกลางประตู แนวรับทีมเยือนสกัดไม่ดี บอลไม่ไปไหนมาตกที่ คริสติย็อง เบนเตเก้ ได้เอาบอลลงแล้วกลับตัวยิงจ่อ ๆ ระยะเผาขน แต่บอลดันไปตรงตัวของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด
นาที 36
ทีมเยือน น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ แฟร์นันดินโญ่ ครองบอลอยู่ตรงกึ่งกลางสนาม ก่อนจะตักบอลข้ามแนวรับให้ กาเบรียล เชซุส ได้สอดทะลุเข้าไปในเขตโทษ แล้วพุ่งไปยิงตามน้ำสวนตัว บิเซนเต้ กวาอิต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป แต่สุดท้ายผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้า ก่อนจะเช็ค VAR แล้วยืนยันให้เป็นล้ำหน้าจริง
นาที 38
ทีมเยือน บุกมาอีกระลอก เป็นจังหวะ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เลี้ยงจี้ขึ้นมาตรงกลาง ก่อนจะไหลออกไปทางกรอบเขตโทษด้านขวาให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้หลุดไปถึงเส้นหลัง แล้วตบย้อนกลับเข้ามาตรงกลางให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้จับบอลแล้วยิงเร็วด้วยขวา แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 39
เจ้าถิ่น ได้ลุ้นประตูเหมือนกัน เป็นจังหวะ ไยโร่ รีเดวัลด์ เลี้ยงลุยขึ้นมาจากกลางสนาม ก่อนจะไหลต่อให้ เอเบเรชี่ เอเซ่ ได้พลิกบอลหลบมาสวย แต่งเข้าเท้าซ้าย แล้วส่องไกลหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งแรงหลุดเสาไกลขวามือออกหลังไป
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเล่นกันได้อย่างสูสี เกมยังไม่เปิดหน้าแลกกันมากนัก ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อยตามสไตล์ แต่จังหวะสุดท้ายยังทำได้ไม่ดี ขณะที่เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ รอสวนกลับเร็ว แต่ก็จบไม่ได้เช่นกัน เสมอกันอยู่ 0-0 !!!
นาที 53
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะครองบอลขึงเกมรุกอยู่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น แฟร์นันดินโญ่ หยอดบอลข้ามแนวรับให้ กาเบรียล เชซุส ได้พักอกเอาบอลลง หลุดไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะครอสไปที่เสาไกลให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้ยิงเหน่ง ๆ บอลผ่านตัว บิเซนเต้ กวาอิต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ไปแล้ว แต่ สกอตต์ แดนน์ ตามมาโขกเคลียร์ทิ้งบนเส้นได้ทันหวุดหวิด
นาที 58 GOAL!!!
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 !!! เป็นจังหวะ เบนฌาแม็ง เมนดี้ ลากบอลขึ้นเกมมาทางฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดเลียดเข้าไปในเขตโทษให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้จับบอลอย่างนิ่ง แล้วซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเป็นจรวดเสยตาข่ายเข้าประตูไป หมดสิทธิ์เซฟสำหรับ บิเซนเต้ กวาอิต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น
นาที 59 GOAL!!!
ถัดมาแค่นาทีเดียว ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูหนีห่างออกไปอย่างรวดเร็วเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ เซร์คิโอ อเกวโร่ ลากพาบอลฝ่าผู้เล่นเจ้าถิ่นขึ้นมา แล้วไหลมาด้านซ้ายให้
ราฮีม สเตอร์ลิ่งพยายามจะส่งคืนทำชิ่งเร็วแต่ไปติดเท้าของ เชกู กูยาเต้ กองหลังเจ้าถิ่น มาเข้าทาง เฟร์ราน ตอร์เรส ได้วิ่งมาซัดเร็วด้วยซ้าย หน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น บิเซนเต้ กวาอิต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ขยับตัวไม่ทัน บอลเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 62
ทีมเยือน น่าจะได้ประตูเพิ่มแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ กาเบรียล เชซุส แทงบอลให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้กระชากหนี สกอตต์ แดนน์ ทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะยิงยัดไปที่เสาแรกทันที บอลพุ่งไปชนเสาเต็ม ๆ กระเด้งออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 71
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะ วิลฟรีด ซาฮา พลิ้วหลุดขึ้นมาทางซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนจะเปิดยัดเข้าไปตรงกลางประตูถึง เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ตัวสำรอง ได้โฉบมายิงด้วยซ้าย แต่บอลเบาและไม่หนีมือเท่าไหร่ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับไว้ได้ทัน
นาที 74
ทีมเยือน ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมา เฟร์ราน ตอร์เรส เก็บบอลได้เกือบสุดเส้นหลังทางขวา ก่อนจะดึงจังหวะรอเพื่อน แล้วไหลย้อนหลังไปที่หน้ากรอบเขตโทษให้ ชูเอา คันเซโล่ ได้เติมสูงมายิงเต็ม ๆ ด้วยขวา บอลพุ่งแรงสวย แต่เหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
นาที 82
ทีมเยือน ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ขอยิงเอง วิ่งมาปั่นด้วยขวาข้ามกำแพง บอลมุดช้า เหินข้ามรานออกไป
นาที 83
ทีมเยือน สวนกลับเร็วอีกแล้ว โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ พาบอลขึ้นมาก่อนจะไหลต่อให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้เลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย โยกหนี สกอตต์ แดนน์ มาเข้าเท้าขวา แล้วปั่นไซด์หนีมือ บิเซนเต้ กวาอิต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ไปที่เสาไกลขวามือ แต่บอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว แบบน่าเสียดายสุด ๆ
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเอาชนะเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ไปได้แบบเบา ๆ 2-0 !!! รั้งจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับทีมเชลซี ส่วนทางด้าน คริสตัล พาเลซ อยู่อันดับที่ 13 ของตารางคะแนน นัดต่อไปต้องออกไปเยือนทีมเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด