ซับโปโร จบไม่ลง โดน ฟรอนตาเล่ ตามเจ๊าท้ายเกม 3-3 !!

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่  กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ที่สนาม บีจี สเตเดี้ยม  ในศึก เจลีก เอเชีย ชาลเล้นจ์ ไทยแลนด์ 2022  เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยแกนหลักหน้าคุ้นเหมือนเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ยูโตะ มัตสึนากะ , เรนจิ มัตสึอิ, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ยาสุโตะ วากิซากะ , เทน มิยากิ, เค ชิเนน และ ไทโย อิการาชิ 

ขณะที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จะมาสู้ด้วยระบบ 4-2-3-1 นำโดยเสาหลักขาประจำอย่าง เรียวตะ อาโอกิ, เรน ฟุจิมุระ, ฮิโรมุ ทานากะ , สุภโชค สารชาติ, สึโยชิ โอกาชิวะ และ คิม กุน ฮี เป็นต้น 

นาทีที่ 11 ซัปโปโร ขึ้นนำ 1-0 

เปิดฉากได้แค่10นาที ซัปโปโร ก็ชิงทำประตูออกนำ 1-0 ได้ก่อนเลย จากจังหวะที่ แนวรับของ ฟรอนตาเล่ เคลียร์บอลหน้าปากประตูไม่ดี โทยะ นากามูระ ที่เก็บตกได้ จึงเลือกแปสวนด้วยซ้ายข้างถนัด ส่งบอลเบียดเสาสองตุงตาข่าย ไม่มีเหลือ 

นาทีที่ 29  ซัปโปโร หนีห่าง 2-0

ผ่านครึ่งชั่วโมงแรก ซัปโปโร ก็มาทำประตูหนีห่างเป็น 2-0 จนได้ จากจังหวะที่ ฮิโรมุ ทานากะ กระชากบอลหลุดไปทางขวา ก่อนจะว่งบอลย่วไปเสาไกลให้ สุภโชค สารชาติ เติมมายิงที่จุดนัดพบ ส่งบอลตุงตาข่ายอย่างสวย 

นาทีที่ 31 ฟรอนตาเล่ ตีไข่แตก 2-1

หลังจากรับอยู่นาน ฟรอนตาเล่ ก็บุกขึ้นมาทำประตูตีไข่แตกจนได้ จากจังหวะที่ เคนโต ทาจิบานานาดะ เลี้ยงบอลโซโล่เดี่ยวหลุดเข้าไปจบสกอร์ในกรอบเขตโทษ ส่งบอลผ่านมือ โกกิ โอทานิ เป็นประตูตีไข่แตก 2-1 

นาทีที่ 36 ฟรอนตาเล่ ตีเสมอ 2-2

ก่อนหมดเวลาไม่กี่นาที ฟรอนตาเล่ ทำได้ พวกเขาตีเสมอสำเร็จ เป็นจังหวะที่ มิยากิ ขึ้นเกมทางกราบขวา ก่อนจะเลี้ยงตัดเข้ากลาง เเต่งบอลหาช่องแล้วเลือกปั่นด้วยขวาเน้นๆ ส่งบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเสาแรก โกกิ โอทานิ หมดสิทธิ์เซฟ

หมดครึ่งเวลาแรก 

คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ –  2

คอนซาโดเล่ ซัปโปโร – 2

นาทีที่ 51 ซัปโปโร ขึ้นนำ 3-2

แต่กลับมาเล่นครึ่งหลังได้แปปเดียว ซัปโปโร ก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-2 จากจังหวะที่ สุภโชค สารชาติ จ่ายบอลตามช่องให้ โอกาชิวะ สปีดตามไปเอาบอลในกรอบเขตโทษ ไม่ล้ำหน้า ก่อนจะก้มหน้ากดเรียดส่งบอลพุ่งหนีมือ ยูกิ ฮายาซากะ ตุงตาข่าย ไม่มีเหลือ 

นาทีที่ 65 ฟรอนตาเล่ ตีเสมอ 3-3

แต่ทว่าทำไปทำมา ฟรอนตาเล่ ก็ตามตีเสมอได้อีกแล้ว จากจังหวะที่ มาร์ซินโญ่ เก็บบอลขลุกขลิกหน้าประตูได้ แล้วนิ่งพอ เขาเลือกเเตะบอลหลบ โอทานิ หนึ่งที ก่อนจะจิ้มบอลเข้าประตูไปแบบนิ่มๆ 

หมดเวลาการแข่งขัน ทั้งสองทีมกินกันไม่ลง จบเจ๊า 3-3 แบบมีสกอร์ทั้งสองฝั่ง ไปตามระเบียบ