เกมการแข่งขัน ระหว่างเจ้าถิ่นทีมสิงโตคำราม ทีมชาติ อังกฤษ เปิดสนาม ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม, มิดเดิ้ลสโบรช์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติ ออสเตรีย ในศึกฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ
เกมนี้ เจ้าถิ่น ทีมชาติ อังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็คขวาจอมบุกจากลิเวอร์พูล แจ็ค กรีลิช เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกมจากแอสตัน วิลล่า และ แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ทีมชาติ ออสเตรีย ภายใต้การคุมทีมของ ฟรังโก้ โฟดา มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย ดาวิด อลาบา กองหลังสารพัดประโยชน์จากเรอัล มาดริด มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกมจากแอร์เบ ไลป์ซิก และ ซาซ่า คาลัดซิช กองหน้าดาวโรจน์จากสตุ๊ดการ์ด
นาที 4
เริ่มเกมมาได้แปปเดียว เจ้าถิ่น สิงโตคำราม อังกฤษ ก็ได้ทักทายก่อนเลย เป็นจังหวะ แฮร์รี่ เคน ถอยลงมาล้วงบอลที่กลางสนามฝั่งซ้าย แล้วเปลี่ยนแกนเปิดบอลเร็วข้ามฟากไปทางขวาให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้ลากบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตัดสินใจตะบันด้วยขวาเต็มข้อยัดไปที่เสาแรก แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 5
นาทีถัดมา เจ้าถิ่น ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา คีแรน ทริปเปียร์ เปิดบอลโด่งโค้งมาที่กลางประตู แล้วเป็น จู๊ด เบลลิงแฮม ได้สอดมาโขกเต็ม ๆ แต่บอลดันพุ่งไปตรงตัวของ แดเนี่ยล บัคมันน์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเข้าซองไว้ได้สบาย
นาที 7
ทีมเยือน ออสเตรีย ได้ทักทายขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะ ต่อบอลกันขึ้นมาตรงกลางถึงหน้ากรอบเขตโทษ คริสตอฟ เบาม์การ์ทเนอร์ พลิกบอลมาได้แล้วกระชากหาช่องเข้าขวา ก่อนจะสับไกเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงลอยโด่งเหินข้ามคาน หลุดกรอบออกไปไกล
นาที 10
เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลโค้งลึกไปที่เสาไกล บอลตกใส่กองหลังทีมเยือน สกัดไม่ดี บอลกระดอนไปเข้าทาง เจสซี่ ลินการ์ด ได้วิ่งมาซัดบอลด้วยขวาไปแฉลบขา จู๊ด เบลลิงแฮม เปลี่ยนทางเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสิน เป่าให้เป็นจังหวะฟาวล์ของ ไทโรน มิงส์ ที่เข้าไปกระแทกแนวรับทีมเยือน ในจังหวะก่อนหน้านั้น อดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย สำหรับเจ้าถิ่น
นาที 19
เจ้าถิ่น บุกใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เจสซี่ ลินการ์ด ตั้งป้อมเปิดบอลจากทางกราบขวา เข้าไปที่กลางประตู มาร์ติน ฮินเตอร์เร็กเกอร์ แนวรับทีมเยือน โหม่งสกัดไม่ดี บอลลอยเลยไปที่หน้าเสาไกลซ้ายมือเข้าทาง บูกาโย่ ซาก้า ได้วิ่งมาวอลเลย์ด้วยซ้ายไม่จับ แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 27
เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาตรงกลาง แจ็ค กรีลิช เลี้ยงจี้ขึ้นมา โดนสกัดเรียกฟาล์วล้มลงไป ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ รับอาสา วิ่งมาปั่นด้วยขวาแฉลบกำแพง แต่บอลยังลอยไปในเขตโทษฝั่งซ้ายเข้าทาง แฮร์รี่ เคน ตวัดยิงเร็วด้วยซ้ายไม่จับ พุ่งกระดอนไปที่เสาแรกซ้ายมือ แต่ แดเนี่ยล บัคมันน์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่คุมเสาอยู่ ทุบทิ้งออกมาได้ทัน
นาที 28
เจ้าถิ่น บี้หนักขึ้นมาตรงกลาง บูกาโย่ ซาก้า จ่ายให้ แจ็ค กรีลิช ได้เลี้ยงจี้ขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ แล้วแทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ แฮร์รี่ เคน ได้วิ่งสอดหลุดกับดักล้ำหน้า ทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะซัดด้วยซ้ายยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที แต่ยังไม่ผ่าน แดเนี่ยล บัคมันน์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเอาขาเซฟไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 36
ทีมเยือน ออสเตรีย ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะ คอเนอร์ เคาดี้ โหม่งเคลียร์บอลไม่ดี บอลมาเข้าทาง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ จ่ายบอลเร็วต่อให้ ซาซ่า คาลัดซิช ได้สบโอกาสลองส่องไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งไปตรงตัวเข้ามือของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบาย
นาที 40
ทีมเยือน สวนกลับขึ้นมาตรงกลาง คริสตอฟ เบาม์การ์ทเนอร์ เลี้ยงแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่น ทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายได้ดื้อ ๆ ก่อนจะรีบซัดเร็วด้วยซ้ายจ่อ ๆ ยังดีที่ ไทโรน มิงส์ วิ่งตามบล็อกลูกยิงจังหวะสุดท้าย ไว้ได้ทันหวุดหวิด บอลดูเหมือนจะกระเด้งโดนแขนของ ไทโรน มิงส์ ออกหลังไป แต่ผู้ตัดสิน ไม่ได้ว่าอะไร ให้เป็นเตะมุม
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น อังกฤษ ที่ครองบอลได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ขึงเกมรุกปูพรมบุกใส่ทีมเยือน ออสเตรีย อยู่แทบจะฝั่งเดียว ขาดแค่ประตูเท่านั้นที่ยังไม่มา สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 56 GOAL!!!
เจ้าถิ่น อังกฤษ มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 !!! เป็นจังหวะสวนกลับเร็วจากกลางสนาม แฮร์รี่ เคน เลี้ยงจี้ขึ้นมา ก่อนจะจ่ายต่อไปที่หน้าหัวกระโหลกให้ แจ๊ค กรีลิช ได้ทำชิ่ง 1-2 กับ เจสซี่ ลินการ์ด หลุดเข้าไปในเขตโทษตรงกลาง กำลังจะได้ยิง แต่โดนแนวรับทีมเยือน แหย่ขาสกัดบอล กระดอนไปที่หน้าเสาซ้ายมือเข้าทาง บูกาโย่ ซาก้า ได้วิ่งเข้ามาซัดด้วยซ้ายโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย ถือว่าเป็นประตูแรกของเจ้าตัว ในนามทีมชาติอีกด้วย
นาที 58
ทีมเยือน ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย เล่นลูกสูตร จ่ายสั้นมาที่หน้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ได้ซัดด้วยขวาเต็ม ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งไปแฉลบบล็อกของ จู๊ด เบลลิงแฮม กระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุมอีกครึ่งนึง
นาที 64
ทีมเยือน ออสเตรีย เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะชุลมุนอยู่บริเวณหัวกระโหลกของเจ้าถิ่น บอลกระดอนมาเข้าทาง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ได้วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ไม่จับ พุ่งแรงแล้วมุดลง ข้ามหัว จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 80
ทีมเยือน เป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก และเกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ลากพาบอลขึ้นมาเอง ก่อนจะซัดด้วยขวาเต็มแรงที่หน้ากรอบเขตโทษระยะ 25 หลา บอลพุ่งแรงและเข้ากรอบ แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ พุ่งไปปัดไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 89
ทีมเยือน ได้ลุ้นประตูตีเสมอเฮือกสุดท้าย เป็นจังหวะ ต่อบอลขึ้นมาทางกราบขวาได้สวย คริสตอฟ ทริมเมล ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ตั้งป้อมบรรจง ครอสบอลโด่งโค้งไปที่กลางประตูให้ มิเชล เกรกอริตช์ ขึ้นโขกเหน่ง ๆ แต่บอลก็เฉียดเสาไกลซ้ายมือออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 90+2
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือน น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ บอมบ์โด่งเข้าไปวัดดวงในเขตโทษ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ออกมากระโดดชกบอล ไปชนกับเพื่อนร่วมทีม บอลลอยมาเข้าทาง อเล็กซานโดร ชอปฟ์ ตัวสำรอง ได้วางเท้ายิงสวนเน้น ๆ ทว่า เบน ไวท์ ที่ยืนคุมเส้นอยู่พอดี หวดทิ้งออกมาได้ทันเฉียดฉิว
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น อังกฤษ ที่เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน ออสเตรีย ไปได้ 1-0 !!! โดยทีมชาติ อังกฤษ ยังมีคิวเตะอุ่นเครื่องกับทีมชาติ โรมาเนีย อีกหนึ่งนัดก่อนจะลุยยูโร ส่วนทางด้าน ออสเตรีย ก็มีคิวเจอกับทีมชาติ สโลวาเกีย เช่นกัน