ทรอย ดีนี่ย์ หัวหอกมากประสบการณ์ของ เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ เปิดเผยว่าเขาได้รับข้อความเหยียดผิวสัปดาห์ละ 30-40 ครั้ง พร้อมชี้ว่าการระบาดของโควิด-19 มีส่วนทำให้สถานการณ์แย่ลง
การเหยียดผิวยังคงเป็นประเด็นใหญ่ในวงการฟุตบอล แม้จะมีมาตรการมากมาย, ทั้งการจูงใจและบทลงโทษ, สำหรับแก้ปัญหาเรื่องนี้
ทีมในพรีเมียร์ลีกมีมติร่วมกันให้มีการคุกเข่าเพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านการเหยียดผิวในทุกเกม ขณะที่ทางการอังกฤษก็มีการจัดตั้งหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อแก้ปัญหาโดยใช้กฎหมาย
อย่างไรก็ดี ปัญหาดังกล่าวก็ไม่ได้หายไป โดย ดีนี่ย์ เปิดเผยว่าเขาได้รับข้อความเหยียดผิวสัปดาห์ละ 30-40 ครั้ง และจำนวนข้อความก็มากเป็นทวีคูณในช่วงที่มีการระบาดของโคโรน่าไวรัส
เมื่อถูกถามถึงจำนวนข้อความเหยียดผิวที่ได้รับ, ดีนี่ย์ ตอบกับ Sky Sports ว่า “สัปดาห์ละ 30-40 ข้อความ”
“ผมคิดว่าโควิดมีผลกับเรื่องนี้ ถ้าให้พูดกันตามตรง”
“ผมคิดว่าผู้คนเริ่มเบื่อ, รู้สึกรำคาญ และต้องการระบายความทุกข์ของตัวเองกับอะไรสักอย่าง”
“นั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัวสำหรับพวกเขา ผมมองว่ามันก็แค่แสดงให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา”
“แต่ก็ใช่ ไม่ว่าจะเป็นในรูปของผม, ภรรยา, หรือแม้แต่ลูกๆของผม มันไม่มีขีดจำกัดสำหรับความโกรธแค้นของคนกลุ่มนี้และพื้นที่ระบายอารมณ์ของพวกเขา”
“อย่าเข้าใจผมผิดนะ ผมเป็นคนที่เฉยๆกับความชอบหรือเกลียด บางคนอาจรักผม, บางคนก็ไม่ แต่คุณสามารถพูดถึงความสามารถในฐานะนักฟุตบอลของผมได้มากเท่าที่ต้องการเลย ผมแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาพูดเรื่องสีผิวของผมด้วย”
“มันมากขึ้นทวีคูณ มีเด็กขี้โมโหแบบ เดอะ ฮัล์ค อยู่ในตัวผม แต่มันก็มีอีกส่วนที่ทำให้ผมรู้สึกเศร้า นั่นอาจจะเป็นความเป็นพ่อในตัวผม”
“มันเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่ เมื่อผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาสามารถเข้าสู่โลกออนไลน์แล้วจะพูดอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ, อย่างที่ต้องการ และจะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนั้น”
“ถ้าตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน ผมคงตกเป็นข่าว, ชื่อของผมคงถูกพูดถึงไปทั่ว และคงจะมีบทลงโทษ แต่สิ่งนั้นไม่เกิดขึ้นกับคนเหล่านี้”