นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เรอัล โซเซียดาด ที่เตรียมเปิดสนาม เรอาเล่ อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของ แอตเลติโก้ มาดริด ในศึก ลา ลีกา(สเปน) เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เรอัล โซเซียดาด จะมาในระบบ 4-3-1-2 โดยไม่มีชื่อของ มิเกล โอยาร์ซาบัล กับ ดาบิด ซิลบา ที่มีปัญหาเรื่องความฟิต แต่เสาหลักของทีมรายอื่นๆ ยังลวสนามได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น มาร์ติน ซูบิเมนดี้,อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้,ราฟินญ่า,อเล็กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ และ อเล็กซานเดอร์ อิซาค
ขณะที่ แอตเลติโก้ มาดริด จะมาสู้ด้วยระบบ 3-5-2 แผนเดียวกับที่ใช้ในเกมล่าสุด ซึ่งจะนำโดยแข้งตัวหลักของทีมอย่าง โรดริโก้ เด ปอล,เจฟฟรีย์ ก็องด็อกเบีย,อ็องตวน กรีซมันน์ และ ยานนิค การ์ราสโก้
นาทีที่ 15
เกมนี้กว่าทั้งสองทีมจะมีโอกาสลุ้นประตูครั้งแรก ก็ต้องรอนานถึง 15 นาที และเป็นฝ่ายเจ้าบ้านที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ อิยาร์ราเมนดี้ เปิดลูกฟรีคิกโยนเข้ากลางประตู เมริโน่ วิ่งมาสบัดตั้งบอลให้ เลอ นอร์มองด์ วิ่งมาล้มตัวยิง แต่โชคไม่ดี นอร์มองด์ ดันจิ้มไม่โดนบอล
นาทีที่ 28
โซเซียดาด พลาดโอกาสทองอีกแล้ว จากจังหวะที่ อิซาค พักบอลได้บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะโชว์แหวกแนวรับของ ตราหมี เข้าไปในกรอบเขตโทษอย่างสวย แต่ทว่าจัวหวะที่กำลังจะยิง เจ้าตัวดันเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้น มือไปโดนบอล ลูกนี้เลยฟาวล์ไปตามระเบียบ
นาทีที่ 44
โซเซียดาด โอกาสเยอะจริงๆ แต่ยังใส่สกอร์ไม่ได้จังหวะนี้พวกเขาก็พลาดอีกแล้ว เมื่อ ซอร์ล็อธ จ่ายตามช่องให้ ราฟินญ่า ฉีกแนวรับของ แอตมาดริด ทะลุเข้าไปล่อเป้า ยาน โอบลัค ได้แล้ว แต่บอลสุดท้าย ก็ยังไม่ดีพอ ราฟินญ่า ยิงหลุดกรอบออกข้างสนามไปเอง
หมดครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
แต่รูปเกมโดยรวม เรอัล โซเซียดาด เหนือกว่าเยอะเลย เชื่อว่า45นาทีหลังพวกเขาจะบวกสกอร์เพิ่มได้แน่ ถ้ายังรักษาฟอร์มแบบนี้เอาไว้ได้
นาทีที่ 50 แอตเลติโก้ มาดริด 1-0!
เริ่มครึ่งหลังได้แปปเดียว แอตมาดริด ที่ไปแก้เกมมาก็เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ กรีซมันน์ ทำชิ่งกับ เด ปอล บริเวณหน้ากรอบฝั่งขวา ก่อนที่ มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์ จะวางเท้าซัดไกล ด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเสียบสามเหลี่ยมไม่ทีเหลือ
นาทีที่ 69 แอตเลติโก้ มาดริด นำห่าง 2-0 !!
ยิงประตูแรกได้ สกอร์ของ แอตมาดริด ก็ไหลเลย ประตูที่2 ตามมาติดๆ จากจังหวะที่ การ์ราสโก้ ขึ้นเกมทางขวา แล้วมีโอกาสได้ ครอสบอลเข้าไปตรงกลางประตู โกเก้ ดีดต่อให้ คอร์เรอา ได้ซัดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 90+3 เรอัล โซเซียดาด ตีไข่แตก 2-1
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย จู่ๆ ทีมเยือนก็มาได้ประตูตีไข่แตกเฉยเลย จากจังหวะที่ ยานาไซจ์ ยิงฟรีคิดไปติดเซฟของ โอบลัค กระเด้งไปเข้าทาง กูริดี้ โหม่งซ้ำจ่อๆ ไม่มีเหลือ
หมดเวลาการแข่งขัน เป็น แอตเลติโก้ มาดริด ที่มารัวยิงรวดเดียวสองประตูในครึ่งหลัง พาทีมบุกไปเอาชนะ โซเซียดาด 2-1 เก็บเพิ่มสามคะแนน ปิดฉากฤดูกาลนี้ด้วยอันดับ3 ตามคาด