ทัพอัซซูรี่ “อิตาลี” เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ปีศาจแดงดำแห่งยุโรป “เบลเยี่ยม” ไปได้แบบมีเสียว 2-1!!

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพอัซซูรี่ ทีมชาติอิตาลี เปิดสนาม อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม, เมืองตูริน ประเทศอิตาลี ต้อนรับการมาเยือนของทัพปีศาจแดงดำแห่งยุโรป ทีมชาติเบลเยี่ยม ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก นัดชิงที่สาม เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น อิตาลี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย นิโคโล่ บาเรลร่า มิดฟิลด์ห้องเครื่องตัวสร้างสรรค์เกม เฟเดริโก้ เคียซ่า ตัวทำเกมริมเส้นจอมลากเลื้อย และ จาโคโม่ ราสปาโดรี่ ยืนเป็นหน้าเป้า

ขณะที่ทางฝั่งทีมชาติ เบลเยี่ยม ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย ยูริ ตีเลอมันส์ มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม ยานนิค การ์ราสโก้ ปีกจอมพลิ้ว และ มิตชี่ บาตชัวอายี่ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 7

เริ่มเกมมา ทั้งคู่เปิดหน้าแลกกันอย่างสนุกสูสีทันที สุดท้ายเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น อิตาลี ที่ได้ลุ้นจบสกอร์ก่อน เป็นจังหวะ เฟเดริโก้ เคียซ่า ลากจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะหาช่องกระชากตัดเข้าในไปซัดด้วยขวาเน้น ๆ ติดบล็อกแนวรับทีมเยือนกระดอนออกมา

นาที 8

ถัดมาเป็นทางฝั่งทีมเยือน เบลเยี่ยม ที่ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จากจังหวะ มิตชี่ บาตชัวอายี่ เก็บบอลแถวสองได้ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น เจ้าตัวพลิกหลบคู่แข่งมาสวย ก่อนจะตัดสินใจขอลองกดด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลหลุดกรอบออกไป ทำได้แค่ทักทายเช่นกัน

นาที 18

เจ้าถิ่น อิตาลี ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาทางขวา โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ได้บอลแล้วเลี้ยงตัดเข้ากลางถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะซัดไกล ปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย แต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ต้องออกแรง พุ่งไปทุบทิ้งออกมาได้ทัน

นาที 20

ถัดมาสองนาที เจ้าถิ่น อิตาลี มีโอกาสได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะการโยนยาวขึ้นหน้า แล้วเป็น เฟเดริโก้ เคียซ่า สปีดไปตามเก็บเอาไว้ได้ทางกราบซ้าย ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ จาโคโม่ ราสปาโดรี่ ได้วิ่งสอดหลุดเข้าไปซัดเร็วในเขตโทษ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบบล็อกแนวรับเบลเยี่ยม เปลี่ยนทางเฉียดเสาแรกซ้ายมือออกไปนิดเดียว 

นาที 25

ทีมเยือน เบลเยี่ยม เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ติโมธี คาสตาญ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา เจ้าตัวแทงตามช่องให้ มิตชี่ บาตชัวอายี่ ได้โฉบไปเอาบอลเกือบสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะล็อกดึงจังหวะกลับมาแล้วไหลเข้ากลางให้ อเล็กซิส ซาเลอมาเกอร์ส วิ่งมาซัดด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดไปชนคานอย่างจังอย่างน่าเสียดาย

นาที 32

เจ้าถิ่น อิตาลี ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ บอมบ์โด่งขึ้นหน้าแล้วโดนโหม่งสกัดมาเข้าทาง นิโคโล่ บาเรลร่า ได้กระชากพาบอลขึ้นมาเองจากกลางสนาม ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ทว่าบอลก็ยังพุ่งแรงเหินข้ามคานออกไปไกล

นาที 42

ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น อิตาลี ได้บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ สาดโด่งขึ้นหน้าโดนโหม่งดัก สกัดลอยกลับมาเข้าทาง โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ เก็บได้ก่อนจะป้ายออกไปทางหน้าเขตโทษด้านซ้ายต่อให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้แต่งเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะลองส่องไกลนอกกรอบ ส่งบอลพลาดเป้าออกไปอีก

นาที 45

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น อิตาลี ที่พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ โดมินิโก้ เบราร์ดี้ วางบอลยาวจากกลางสนามไปให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้กระชากหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ เจ้าตัวมีพื้นที่มีเวลาแต่งบอล ก่อนจะเอี้ยวตัวซัดด้วยขวาเน้น ๆ เล่นทางไปที่เสาไกลขวามือ ทว่าเป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ใช้ขาสกัดบอลเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันได้อย่างสนุกสูสี เป็นทีมเยือนเบลเยี่ยม ที่ครองบอลได้มากกว่านิดหน่อย แต่เจ้าถิ่น อิตาลี รูปเกมดูวูบวาบน่ากลัวกว่าพอสมควร สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!

นาที 46 GOAL!!!

เปิดฉากครึ่งหลังมาได้เพียงแค่นาทีเดียวเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น อิตาลี ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ เปิดปั่นโค้งมาที่เสาแรก แล้วเป็น ยูริ ตีเลอมันส์ โหม่งสกัดไม่ดี บอลลอยเลยไปเข้าทางปืนของ นิโคโล่ บาร์เลร่า ได้วิ่งมาหวดวอลเลย์ด้วยขวาตูมเดียวแบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลซ้ายมือเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 59

เกมแดนกลาง จินตนาการสู้ไม่ได้อย่างชัดเจน เดือดร้อนถึง โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือเบลเยี่ยม อยู่เฉยไม่ได้ต้องแก้เกมด้วยการส่ง เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ ลงมาสร้างสรรค์เกมรุกแทนที่ของ ยูริ ตีเลอมันส์ คนที่มีส่วนทำให้เสียประตู โดยอีกหนึ่งนักเตะที่โดนถอดก็คือ อเล็กซิส ซาเลอมาเกอร์ส แล้วจัดการส่ง เจ้าหนู การ์เลส เดอ เคตาลาเร่ ดาวรุ่งวัย 20 ปี ลงมาเล่นแทนในตำแหน่งเดียวกัน

นาที 60

ทีมเยือน เบลเยี่ยม เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะชุลมุนชิงเหลี่ยมโหม่งกันที่หน้าเขตโทษเข้าทาง การ์เลส เดอ เคตาลาเร่ ดีดเร็วเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ มิตชี่ บาตชัวอายี่ สอดมาซัดตามน้ำมุมแคบ ส่งบอลไปแฉลบแนวรับเจ้าถิ่น พุ่งไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 65 GOAL!!!

เจ้าถิ่น อิตาลี มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะโต้กลับเร็ว เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้ลากจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโดน ติโมธี คาสตาญ สกัดล้มลงไป ผู้ตัดสินไม่รอช้า วิ่งมาเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของทัพอัซซูรี่ทันที แล้วเป็น โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ รับหน้าที่สังหาร ซัดไปติดปลายมือของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน แต่ด้วยความแรง บอลยังปลิ้นเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 69

ทีมเยือน เบลเยี่ยม พยายามตั้งเกมฮึดสู้ จังหวะนี้แย่งบอลกลับมาได้ แล้วเป็น อั๊กเซล วิตเซล แทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ มิตชี่ บาตชัวอายี่ ได้หลุดไปตบเข้ากลางต่อให้ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ เติมสูงมาซัดเน้น ๆ ติดเซฟของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาปัดทิ้งเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 77

ทีมเยือน เบลเยี่ยม ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เล่นสั้นส่งมาให้ การ์เลส เดอ เคตาลาเร่ กระชากไปเปิดเข้ากลางโดน ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้ โหม่งสกัดไม่ดีลอยไปเข้าทาง โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ได้วอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงทำท่าจะเสียบเสาไกลขวามือเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ยังผวาพุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 82

ทีมเยือน เบลเยี่ยม น่าจะได้ประตูตีไข่แตกแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ ครองบอลทางกราบขวา เจ้าตัวจ่ายบอลเข้ากลางไปที่หน้าเขตโทษให้ มิตชี่ บาตชัวอายี่ จับบอลลั่นไหลเลยไปเข้าทาง ยานนิค การ์ราสโก้ ได้วิ่งมาแปเน้น ๆ ด้วยขวาบริเวณหัวกระโหลก ส่งบอลพุ่งไปชนเสาแรกขวามืออย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 86 GOAL!!!

ทีมเยือน เบลเยี่ยม มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับลูกเตะมุมแล้วเขวี้ยงเร็วให้ เควิน เดอ บรอยน์ ลากบอลขึ้นมาแทงทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ การ์เลส เดอ เคตาลาเร่ ดาวรุ่งวัย 20 ปี ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงลอดหว่างขาของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น อิตาลี เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน เบลเยี่ยม ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! คว้าอันดับที่ 3 ของศึกฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ประจำปี 2021 ไปครองได้สำเร็จ