ฌอน ไดช์ กุนซือสายโหดของเบิร์นลี่ย์ มองว่าทีมของเขาก็ควรจะได้รับจุดโทษในเกมที่เสมอกับ อาร์เซน่อล 1-1 และแซะนักเตะฝั่งตรงข้ามในเรื่องการแหกปากส่งเสียงดัง
ในเกมที่ เบิร์นลี่ย์ เปิดบ้านยันเสมอกับ “ปืนใหญ่” 1-1 นอกจากจังหวะดราม่าที่ เอริก ปีเตอร์ส รอดจุดโทษครั้งแรกแล้ว ยังมีเหตุการณ์ที่เจ้าตัวโดนใบแดงและเสียจุดโทษครั้งที่สองก่อน VAR จะเปลี่ยนคำตัดสินและยกเลิกโทษดังกล่าว
โดยหลังจบเกมกุนซือชาวอังกฤษ ก็ออกมาพูดถึงจังหวะดังกล่าวพร้อมกับการโจมตีฝั่งตรงข้ามว่า
“คุณรู้ไหมเราต้องระวังหน่อยเวลาพูดถึงจุดโทษเพราะ มาเตจ วีดร้า โดนเหยียบเท้าแต่เราไม่ได้อะไรเลย เราเป็นทีมที่มีอัตราได้จุดโทษน้อยสุดในพรีเมียร์ลีก” ไดซ์ กล่าวหลังจบเกม
“สำหรับผมมันคือจุดโทษ และด้วยเหตุผลนี้ผมเลยไม่อยากให้พวกเขาได้จุดโทษด้วย”
“เกมฟุตบอลตอนนี้มันเป็นแบบนี้ เมื่อคุณสัมผัสใครสักคนที่หัวไหล่และขามันก็เป็นจุดโทษเลย มาเตจ กำลังจะเข้าไปยิงแล้วมีคนสัมผัสเท้าของเขาชัดเจน ผมเห็นมันแล้ว มันทำให้เท้าของเขาหลุดตำแหน่งการยิงออกไป”
“แต่เขาไม่ล้มตัวเขาไม่แหกปากตะโกนซึ่งตอนนี้มันน่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ที่น่าสนใจคือวันนี้พวกเขาน่าจะใส่โวลุ่มเข้าไปเพื่อให้เห็นว่ามีคนแหกปากได้ดังขนาดไหนและพวกเขาจะได้ฟรีคิกจากจังหวะแบบนี้ไหม”
“ผมว่าตอนนี้เป็นการเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจจังหวะจุดโทษในเกมมันควรจะเป็นเรื่องซื่อตรง แล้วเรื่องการแหกปาก วันนี้มันการแหกปากตะโกนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
“ผมว่าถ้ามีเครื่องวัดการแหกปาก นี่มันอาจจะดังที่สุดเท่าที่ผมได้ยินมาเป็นเวลานานมาก มันมีเสียงหนึ่งที่แหลมสูงสุดๆ เป็นเรื่องใหม่สำหรับผมเลยและเป็นอีกระดับของการแหกปากเลย”
“ผมก็ไม่รู้ว่าเกมฟุตบอลมันจะเป็นแบบไหนต่อ ผมเริ่มหลงทางกับกับเรื่องพวกนี้ที่เรากำลังคุยกันอยู่ แต่ผมไม่ได้เป็นคนควบคุมมัน ผมก็หวังว่าจะได้เป็นคนทำเพราะจะได้เอาเรื่องไม่เข้าท่าพวกนี้ออกจากเกมไปให้หมด”