สโมสรในพรีเมียร์ลีกสร้างสถิติใหม่ด้วยการใช้เงินเสริมทัพไปแล้ว 1.5 พันล้านปอนด์ในซัมเมอร์นี้ ตามผลการวิเคราะห์ของ Deloitte บริษัทด้านการเงินชื่อดัง
ตลาดซื้อขายของพรีเมียร์ลีกยังเหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์แต่ตอนนี้ 20 สโมสรในลีกสูงสุดแดนผู้ดีใช้เงินทะลุสถิติเดิมไปแล้ว
Deloitte ระบุว่าสโมสรในพรีเมียร์ลีกใช้จ่ายเงินไปกับการเสริมทัพนักเตะมากถึง 1.5 พันล้านปอนด์ในซัมเมอร์นี้ ทุบสถิติเดิม 1.4 พันล้านปอนด์ที่ทำไว้ในปี 2017
ตัวเลข 1.5 พันล้านปอนด์ยังเยอะกว่าที่พวกเขาใช้ไป 1.4 พันล้านปอนด์กับการเสริมทัพตลอดทั้งฤดูกาลที่แล้ว
ส่วนสถิติการใช้เงินมากสุดของพรีเมียร์ลีกแบบตลอดทั้งฤดูกาลนั้น เป็นของซีซั่น 2017-18 ที่ควักเงินกันมากถึง 1.86 พันล้านปอนด์
ผลการวิเคราะห์เผยว่าตลาดซื้อขายรอบนี้ สโมสรในพรีเมียร์ลีกเซ็นสัญญานักเตะด้วยค่าตัวเกินกว่า 30 ล้านปอนด์มากถึง 14 คน
เทียบกับเมื่อปี 2021 แล้ว มีนักเตะเพียงแค่ 8 คนเท่านั้นที่ย้ายซบทีมในพรีเมียร์ลีกด้วยค่าตัวเกิน 30 ล้านปอนด์
นักเตะที่มีค่าตัวนำโด่งมาในรอบนี้คือ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ย้ายซบ ลิเวอร์พูล ด้วยเงินรวมแล้วมากถึง 85 ล้านปอนด์
ขณะที่ เชลซี ใช้เงินไป 63 ล้านปอนด์กับการเซ็นสัญญา มาร์ก คูคูเรญ่า และคว้า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง มาด้วยเงิน 50 ล้านปอนด์รวมถึงดึง คาลิดู คูลิบาลี่ มาจาก นาโปลี ในราคา 34 ล้านปอนด์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เองก็เซ็นสัญญา คาเซมิโร่ มาในดีล 60 ล้านปอนด์ที่อาจเพิ่มเป็น 70 ล้านปอนด์ในภายหลัง แล้วเพื่อนร่วมเมืองแบบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ซื้อ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ มาด้วยเงิน 51.2 ล้านปอนด์
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เองก็ทุ่มเงินไปกับการเซ็นสัญญา ริชาร์ลิซอน มาจาก เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์
มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ แข้งใหม่ของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ก็อาจกลายเป็นหนึ่งในนักเตะกลุ่มนั้น หลังย้ายมาด้วยค่าตัวเบื้องต้น 25 ล้านปอนด์แต่แอดออนอาจจะทำให้พุ่งสูงถึง 42.5 ล้านปอนด์
สัปดาห์สุดท้ายของตลาดซื้อขายก็อาจจะเกิดบิ๊กดีลขึ้นได้อีกเมื่อ เชลซี ยังต้องการทั้ง เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ แอนโธนี่ กอร์ดอน ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ก ก็อยากได้ แอนโทนี่
นอกเหนือจากนี้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็กำลังจะทุบสถิติสโมสรเซ็นสัญญา อเล็กซานเดอร์ อิซาค มาด้วยเงิน 59 ล้านปอนด์