บอลไล่โค้ช?!! “แมนฯยูไนเต็ด” ฟอร์มสะดุดต่อเนื่อง โดน “เอฟเวอร์ตัน” ตามเจ๊า 1-1 ไร้ชัยสามนัดรวด

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด, เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพลย์เมกเกอร์จอมถล่มประตู อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้ากึ่งปีกตัวลากเลื้อยริมเส้น และ เอดิสัน คาวานี่ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ราฟา เบนิเตซ มาเล่นในระบบ 4-4-1-1 นำทีมโดย อับดูลาย ดูกูเร่ กองกลางห้องเครื่อง แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ปีกตัวจี๊ด และ ซาโลม่อน รอนดอน ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 6

เปิดฉากครึ่งแรกมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้โอกาสทักทายก่อน แถมเกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ แอรอน วาน บิสซาก้า ดันสูงขึ้นมารับบอลทางฝั่งขวา เจ้าตัวโยกหลอก ลูก้าส์ ดีญ ไปได้อย่างสวย หลุดขึ้นมาถึงริมกรอบเขตโทษ ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงครอสบอลโค้ง ลอยลึกไปที่เวาไกลให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้สอดมาโหม่งโล่ง ๆ เหน่ง ๆ ทว่าบอลหลุดกรอบ ถากเสาซ้ายมือออกไปเอง อย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 16

ทีมเยือน ทัพท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ได้ทักทายแบบได้ลุ้นบ้าง เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวา แอนดรอส ทาวน์เซนด์ เปิดบอลโค้งไปที่กลางประตูให้ ไมเคิ่ล คีน เบียดเอาชนะ ลุค ชอว์ โฉบมาโหม่งเช็ดเน้น ๆ เปลี่ยนทาง ส่งบอลหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว

นาที 21

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เฟร็ด รับบอลมาบริเวณกราบซ้าย เจ้าโยกตัดเข้ากลางมานิดนึง ก่อนจะบรรจงเปิดบอลไปที่กลางประตูให้ เอดินสัน คาวานี่ ได้สอดมาเทคตัวขึ้นโขกกดลงพื้นเน้นๆ ส่งบอลทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาทิ้งตัวพุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 25

เกมดำเนินมาถึงครึ่งทางของครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก จังหวะนี้เป็นทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เมื่อ เฟร็ด จ่ายบอลผิดพลาดโดนบุกสวนกลับเร็วขึ้นมาทางฝั่งขวา อับดูลาย ดูกูเร่ ได้บอลหลุดขึ้นมาถึงริมกรอบเขตโทษ ก่อนจะหักเข้ากลางประตูให้ ซาโลม่อน รอนดอน ได้จับแล้วซัดเร็วทันที ทว่าแนวรับเจ้าถิ่นก็ยังตามบล็อกเอาไว้ได้ทัน

นาที 29

เกมต้องหยุดชะงักไปพักใหญ่ เมื่อมีจังหวะชุลมุนกันเกิดขึ้นจากการที่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เข้าปะทะใส่ ลูก้าส์ ดีญ อย่างหนักจนล้มลงไปนอน ทว่าผู้ตัดสินไม่ได้ให้ฟาล์ว แม็คโทมิเนย์ เลยไปอุ้ม ดีญ ให้ลุกขึ้นมา สร้างความไม่พอใจให้ผู้เล่นเอฟเวอร์ตันอย่างหนัก จนสุดท้ายเกือบจะมีเรื่องกัน แต่ก็แยกย้ายเล่นกันต่อไป

นาที 31

ทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ได้บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ อับดูลาย ดูกูเร่ ป้ายออกไปริมเส้นฝั่งซ้ายให้ ลูก้าส์ ดีญ เติมขึ้นมารับบอลจ่ายต่อให้ แอนโธนี่ กอร์ดอน ได้กระชากหนี วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดเข้ากลางให้ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ โฉบหุบเข้ามายิงเร็วไปติดบล็อกของ ลุค ชอว์ ที่ตามมาประกบ ป้องกันเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 33

ทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว  เดมาราย เกรย์ พลิกหนีมาจากกลางสนามได้สวย เจ้าตัวลากขึ้นมาเองถึงหน้าหัวกระโหลก ก่อนจะก้มหน้าวางเท้าซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นน่ากลัวไปที่เสาซ้ายมือ ทว่า ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาทิ้งตัวพุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 36

ทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ กระชากหนีตัวประกบ หลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้ากลางให้ อับดูลาย ดูกูเร่ มีโอกาสได้ซัดเน้น ๆ แต่บอลก็ยังไปติดบล็อกเต็ม ๆ กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 43 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้เป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ เมสัน กรีนวู้ด ถอยมาล้วงบอลทางกราบขวา เจ้าตัวจ่ายมาหน้าเขตโทษต่อให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส พลิกบอลแล้วไหลเร็วตามช่อง ถวายพานเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายตั้งให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้วิ่งสอดมาเอี้ยวตัววางเท้าแปด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ บอลพุ่งแรงไปแฉลบแนวรับทีมเยือนนิดนึง ก่อนจะเปลี่ยนทางแสกหน้าสวนตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมผลัดกันรุกผลัดกันรับได้อย่างสนุกสูสี เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะมาได้ประตูขึ้นนำในช่วงท้าย ส่วนทางทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน บุกสวนขึ้นมาแต่ละทีได้ลุ้นเหมือนกัน ทว่าจังหวะจบยังไม่ดีพอเอง สกอร์ตอนนี้ แมนยู 1 เอฟเวอร์ตัน 0 !!!

นาที 57

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังทำได้แค่จังหวะหวาดเสียว ส่วนทางด้านเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจเปลี่ยนตัวทีเดียวสองคนรวด โดยกุนซืออย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เลือกถอด เอดินสัน คาวานี่ และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ออกไปพัก แล้วจัดการส่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ศูนย์หน้าตัวเทพ และ เจดอน ซานโช่ ปีกจอมลากเลื้อย ลงมาสร้างสรรค์เกมรุกแทน

นาที 59

ทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ได้บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ เดมาราย เกรย์ พาบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจ้าตัวเลี้ยงจี้เข้าใส่ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ กินพื้นที่เข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะล็อคเปิดมุมตัดเข้าในแล้วซัดเร็วด้วยขวา ทว่าจังหวะง้างเท้าโดนชนทำให้ยิงไม่ค่อยถนัด สุดท้ายบอลค่อย ๆ กลิ้ง หลุดเสาไกลขวามือออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 61

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย จ่ายกลับมาที่หน้าเขตโทษให้ เจดอน ซานโช่ พยายามหาช่องยิงแต่โดนขวาง สุดท้ายเจ้าตัวเลือกจ่ายตามช่องเข้าไปในเขตฝั่งขวาให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ตวัดเร็วเข้ากลางประตูให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ วิ่งมาหวดโล่ง ๆ ทว่าดันยิงวืด พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 65 GOAL!!!

ทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน มาได้ประตูตามตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะตัดบอลจากลูกเตะมุมได้แล้วสวนกลับเร็ว เดมาราย เกรย์ กระชากบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายแล้วจ่ายสั้น ๆ เข้ากลางต่อให้ อับดูลาย ดูกูเร่ ได้แตะหนีตัวประกบ ก่อนจะแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาถวายพานให้ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ที่วิ่งสอดขนาบตามขึ้นมา ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดเลียดด้วยขวาโล่ง ๆ เน้น ๆ คนเดียว ส่งบอลเสียบเสาซ้ายมือเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 70

ทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ได้บุกต่อทันที จังหวะนี้ เบน ก็อดฟรี่ย์ เติมเกมสูงขึ้นมารับบอลทางกราบขวา ก่อนจะไหลเข้าเขตโทษให้ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ได้ใช้ตัวบังตัวประกบ ก่อนจะพลิกหนีเลี้ยงตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ บอลพุ่งแรงแต่โค้งช้าไปหน่อย ถากเสาไกลซ้ายมือ ลอยหลุดออกหลังไปไกลพอสมควร

นาที 74

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เจดอน ซานโช่ ทำชิ่ง 1-2 แทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายคืนให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้หลุดไปก้มหน้ากดด้วยซ้ายเน้น ๆ มุมแคบ ส่งบอลผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว

นาที 82

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ เจดอน ซานโช กระชากหลบ เบน ก็อดฟรี่ย์ หลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะจ่ายเลียดย้อนมาที่หน้าเขตโทษให้ ปอล ป็อกบา ได้จับหนึ่งที ตามด้วยบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลโค้งหลุดเสา ลอยออกหลังไปอีกครั้งหนึ่ง

นาที 85 VAR!!!

ทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน เกือบได้ประตูพลิกขึ้นนำ เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุม เปิดเข้าไปแล้วโดนสกัดออกมา เบน ก็อดฟรี่ย์ เก็บแถวสองได้แล้วแทงตามช่องให้ ทอม เดวิส รับบอลว่าง ๆ ได้หลุดเดี่ยวในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียดไปที่หน้าประตูถวายพานให้ เยอร์รี่ มิน่า สอดมาแปโล่ง ๆ เข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินขอเช็ค VAR อยู่พักใหญ่ ๆ สุดท้ายกลับลงมายึดประตูคืน เนื่องจากปราการหลังทีมชาติโคลอมเบีย อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า

นาที 90

ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นเฮือกสุดท้าย จากจังหวะขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน ปอล ป็อกบา ครองบอลอยู่ตรงกลางแล้วจ่ายเร็วต่อให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดไปเกือบทุกเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวไขว้เร็วย้อนกลับหลังตั้งให้ เจดอน ซานโช่ ที่วิ่งตามขึ้นมา ได้ซัดด้วยขวาเน้น ๆ ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกติดเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาอยู่ รับเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น

หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านทำได้แต่เสมอกับทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน เจ๊ากันไปด้วยสกอร์ 1-1 !!! รั้งอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนเลสเตอร์ ซิตี้ ในคืนวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเอฟเวอร์ตัน อยู่ที่ 4 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม ถัดมาหนึ่งวัน