“บาเยิร์นฯ” กวาด 6 แชมป์ หลังเฉือน “ติเกรส” ศึกฟีฟ่า เวิลด์คัพ

เกมการแข่งขันระหว่างทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) เล่นกันในสนาม เอดูเคชัน ซิตี้ สเตเดี้ยม (สนามกลาง) พบกับทีม ติเกรส (เม็กซิโก) ในศึกฟุตบอล ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ นัดชิงชนะเลิศ และเป็นทีม บาเยิร์น มิวนิค แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของทางฝั่งยุโรป เฉือนเอาชนะ ติเกรส แชมป์ทวีปอเมริกาเหนือ ไปได้ 1-0 !!! ได้แชมป์สโมสรโลกไปครอง

เกมนี้ บาเยิร์น มิวนิค มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย โยชัว คิมมิช มิดฟิลด์สารพัดประโยชน์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีม ขณะที่ทางทีม ติเกรส มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย คาร์ลอส ซัลซีโด้ ปราการหลังจอมแกร่งทีมชาติเม็กซิโก และ อ็องเดร ปิแอร์ ชีญัก กองหน้าร่างยักษ์ชาวฝรั่งเศส

นาที 6

บาเยิร์น ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ ดาวิด อลาบา แทงบอลตามช่องให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่เจ้าตัวยิงวืดพลาดโอกาสไป

นาที 11

ติเกรส ได้บุกบ้าง อ็องเดร ปิแอร์ ชีญัก พักบอลอยู่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนฝากไปที่ ลุยส์ กีโญเนส ทางขวา เจ้าตัวเลี้ยงจี้เข้าหาเขตโทษ แล้วลองยิงเร็ว แต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกไป

นาที 18

บาเยิร์น เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะ โยชัว คิมมิช ได้สับไกนอกกรอบเต็มข้อ บอลเสียบเสาไกลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม แต่กรรมการขอเช็ค VAR และไม่ให้เป็นประตูเพราะ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิถีของบอล ซึ่งเจ้าตัวอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า อดได้ประตูไปสำหรับ บาเยิร์น

นาที 23

คิงส์เล่ย์ โคมัน กระชากขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะเลี้ยงตัดเข้ากรอบเขตโทษ ล็อกหนีตัวประกบมาเข้าเท้าขวา ก่อนลองซัดเต็มๆ แต่ นาอูเอล กุซมัน ผู้รักษาประตูติเกรส ยังรับไว้ได้

นาที 32

ติเกรส บุกขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษของบาเยิร์น คาร์ลอส ซัลซีโด้ ที่เติมขึ้นมารับบอล ปาดบอลไปหน้าเขตโทษให้ กีโด้ ปิซาร์โร่ ได้ยิงบริเวณหัวกระโหลก แต่บอลยังเบาไป เข้ามือ มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูบาเยิร์น รับได้สบายๆ

นาที 34

บาเยิร์น เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย เล่นลูกสูตร แตะบอลสั้นมาให้ แซร์จ กนาบรี้ เจ้าตัวแทงบอลตัดหลังแนวรับให้ ลีรอย ซาเน่ หลุดเข้าไปซัดเต็มข้อที่เสาแรก ในกรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลชนสามเหลี่ยมนอกออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 45

บาเยิร์น โยนบอลโด่งเข้าไปในเขตโทษ แนวรับติเกรส สกัดไม่ดี บอลลอยมาเข้าทาง คิงส์เล่ย์ โกมัน วิ่งเข้ามาซัดจังหวะเดียว แต่บอลก็ยังติดบล็อกแนวรับ ออกหลังไปอีก

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทาง บาเยิร์น มิวนิค ที่เหนือกว่าทุกกระบวนท่า แต่จังหวะสุดท้ายยังทำได้ไม่ดีพอ เสมอกันอยู่ 0-0 !!!

นาที 48

เปิดเกมครึ่งหลังมา บาเยิร์น มิวนิค ก็บุกใส่ทันที คิงส์เล่ย์ โคมัน กระชากขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนครอสบอลพุ่งเข้าไปที่กลางประตู ลีรอย ซาเน่ สอดขึ้นมาโขกเต็มๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว

นาที 51

ดาวิด อลาบา เติมขึ้นมาจากแดนหลัง พาบอลมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลให้ แซร์จ กนาบรี้ ในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวล็อกหลอกหาจังหวะปั่นด้วยขวาได้สำเร็จ แต่บอลโค้งไม่พอหลุดกรอบไปหน่อยเดียว

นาที 59 GOAL!!!

บาเยิร์น ยิงประตูขึ้นนำได้สำเร็จ 1-0 !!! จากจังหวะ โยชัว คิมมิช หยอดเข้าไปที่กลางประตู โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สอดขึ้นมาได้โขกเต็มๆ นานูเอล กุซมัน ผู้รักษาประตูติเกรส เอาตัวขวางไว้ได้ทัน แต่ถึงอย่างงั้น บอลก็ยังกระดอนมาเข้าทาง เบนฌาแม็ง ปาวาร์ ยิงซ้ำจ่อๆเข้าไป

นาที 73

บาเยิร์น บุกขึ้นมาทางขวา โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ เติมขึ้นมา ก่อนจะไหลเข้ากลางไปให้ ดาวิด อลาบา หน้ากรอบเขตโทษ เจ้าตัวลองซัดเต็มข้อด้วยซ้ายข้างถนัด แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไปอย่างได้ลุ้น

นาที 81

บาเยิร์น เกือบได้ประตูหนีห่าง แนวรับ ติเกรส พลาดทำเสียบอลหน้าประตูตัวเอง จามาล มูเซียล่า ฉกบอลมาได้ แล้วไหลย้อนมาให้ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ ที่หน้ากรอบเขตโทษ เจ้าตัวกดเต็มๆ แต่ นาอูเอล กุซมัน ผู้รักษาประตูติเกรส กระโดดปัด บอลไปชนเสาเด้งออกไป

นาที 85

บาเยิร์น บุกขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษ  เอริก ชูโป โมติง กระชากหนีแนวรับติเกรส เข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนดึงจังหวะแล้วไหลย้อนกลับมากลางให้ ดั๊กลาส คอสต้า ได้วิ่งมายิงเน้นๆ แต่บอลก็ยังติดเซฟผู้รักษาประตูติเกรส บอลกระดอนมาเข้าทาง โยชัว คิมมิช ได้ซ้ำดาบสอง แต่ นาอูเอล กุซมัน ผู้รักษาประตูติเกรส ก็ยังตามมาขวางไว้ได้ทัน

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นสโมสร บาเยิร์น มิวนิค เฉือนเอาชนะสโมสร ติเกรส ไปได้ 1-0 !!! คว้าแชมป์สโมสรโลกไปครองได้สำเร็จ