ประธานสโมสร เซบีญ่า เปิดเผยว่าที่พวกเขาตัดสินใจไม่ปล่อย ฌูลส์ คุนเด้ ให้กับ เชลซี ในช่วงซัมเมอร์ก็เพื่อความทะเยอทะยานของพวกเขา แม้ข้อเสนอดังกล่าวจะช่วยปลดหนี้ไปได้บ้าง
กองหลังวัย 22 ปีเป็นเป้าหมายเบอร์หนึ่งในการเสริมแนวรับของ “สิงห์บลูส์” ตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ทีมดังจากลอนดอนไม่อยากจ่ายตามค่าฉีกสัญญาที่สูงถึง 80 ล้านยูโร
โฆเซ่ คาสโตร ประธานของ เซบีญ่า อ้างว่าทาง เชลซี ยื่นข้อเสนอเข้ามาที่ 50 ล้านยูโร ซึ่งหากตอบรับข้อเสนอดังกล่าวจะทำให้พวกเขาไม่ต้องขาดทุนแม้โดนผลกระทบจากการระบาดของโควิด
อย่างไรก็ตาม คาสโตร เชื่อว่าเขาตัดสินใจถูกต้องแล้วเพราะพวกเขามีความทะเยอทะยานที่จะเสริมแกร่งให้ทีมมากกว่าปล่อยนักเตะออกไป
“เราเป็นทีมอันดับสองที่มีเพดานค่าเหนื่อยสูงสุด ไม่มีใครหนีความจริงที่ว่าเราผ่านพ้นการระบาดของไวรัสครั้งใหญ่และปีนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเจอกับผลประกอบการที่ติดลบ” คาสโตร เผยกับ Diario de Sevilla
“ไม่มีรายได้จากตั๋วปี, จากการขายตั๋วหรือจากบาร์ เงินจากมาร์เก็ตติ้งและลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดก็ลดลง”
“ถึงอย่างนั้น, ด้วยข้อเสนอ 50 ล้านยูโรของ เชลซี จะทำให้การขาดทุนไม่เกิดขึ้น นั่นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของสโมสร”
“ผมไม่รู้ว่ามีกี่ทีมในสเปนนะที่จะปฏิเสธเงิน 50 ล้านยูโรของ เชลซี และเลือกที่จะขาดทุน, จากที่นักเตะในทีมมีมูลค่าถึง 400 ล้านยูโร”
“การขาดทุนเกิดขึ้นจากการระบาด แต่เราเองเลือกที่จะสร้างทีมที่แข็งแกร่งขึ้นแทนที่จะปล่อยนักเตะในตลาดซื้อขาย 2 รอบหลัง”
“นั่นคือความทะเยอทะยานและบางครั้งความทะเยอทะยานก็แลกด้วยการขาดทุน แต่ไม่เป็นไรหรอก”
ย้อนไปปีก่อน เซบีญ่า ก็เคยปฏิเสธข้อเสนองามๆขอซื้อ คุนเด้ จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยที่นักเตะเปิดเผยว่าได้คุยกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แล้วด้วยซ้ำ