ติเต้ นายใหญ่ บราซิล และ เนย์มาร์ สตาร์ประจำชาติ ยกย่องให้ คาเซมิโร่ มิดฟิลด์จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือกองกลางที่ดีที่สุดในโลกคนปัจจุบัน
คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา “แซมบ้า” ลงเล่นฟุตบอลโลกกับ สวิตเซอร์แลนด์ เจอเกมที่อึดอัดอยู่ถึง 83 นาทีจนได้ คาเซมิโร่ สอดมายิงประตูชัย พร้อมการันตีการผ่านเข้ารอบ
หลังจบเกม เนย์มาร์ สตาร์คนสำคัญของ บราซิล ซึ่งไม่ได้ลงเล่นในเกมดังกล่าวเพราะอาการบาดเจ็บ โพสข้อความลงทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า
“คาเซมิโร่ คือกองกลางที่ดีที่สุดในโลกมาเป็นเวลานานแล้ว”
ระหว่างการให้สัมภาษณ์หลังจบเกม ติเต้ ถูกถามถึงความคิดเห็นของ เนย์มาร์
“ปกติแล้วผมจะเคารพความคิดเห็นของคนอื่น และจะไม่พูดถึงความคิดเห็นเหล่านั้น แต่ครั้งนี้คือข้อยกเว้น และผมเห็นด้วยกับ เนย์มาร์”
“คาเซมิโร่ คือผู้เล่นที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของทีม และเมื่อมีโอกาส เขาสามารถสร้างเซอไพรส์จากแนวหลังได้”
“เนย์มาร์ มีความสามารถที่แตกต่างออกไป เขาคือผู้เล่นที่สร้างจังหวะมหัศจรรย์และสามารถเลี้ยงหลบแนวรับได้หลายคน – เขามีทักษะในการทำแบบนั้น”
“ผู้เล่นคนอื่นก็กำลังไปถึงระดับของ เนย์มาร์ และผมหวังว่าพวกเขาจะทำได้”
“ดังนั้นเราคิดถึง เนย์มาร์, เขามีพลังในการสร้างสรรค์เกมอันยิ่งใหญ่ และทำเกมรุกได้ดีสุดๆ แต่เรายังมีคนอื่นที่สามารถคว้าโอกาสในทีมได้เช่นกัน”
เซซาร์ ซามเปา ผู้ช่วยของ ติเต้ กล่าวเพิ่มเติมถึงแข้งวัย 30 ปีจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
“ในการเล่นเกมรับ คาเซมิโร่ คือที่พึ่งของแผงแบ็คโฟร์, เขาคือคนที่อุดรูรั่วเป็นชั้นแรกในแดนกลาง และเขายังสามารถจ่ายบอลในระยะกลางได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างในตำแหน่งนั้น”
ผลงานของ คาเซมิโร่ ทำให้เขาถูกเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมทช์ อย่างเป็นทางการจาก ฟีฟ่า และนักเตะผู้คว้า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก 5 สมัย ก็กล่าวหลังรับรางวัลว่า
“ผมยิงได้ก็จริง แต่สิ่งสำคัญคือการได้ช่วยเหลือทีม, เราคว้าชัยชนะและพ่ายแพ้ไปด้วยกัน นั่นคือทัศนคติของผมมาตลอด, เราต้องเล่นเป็นทีม เพราะนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการคว้าแชมป์”
“แน่นอนว่าหน้าที่แรกสุดของผม คือการสนับสนุนและให้ความสมดุลกับทีม ผมต้องช่วยเหลือผู้เล่นในแนวรับ และคอยแก้ไขสถานการณ์ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นที่ตำแหน่งไหนของสนาม”
“เมื่อเราเจอกับคู่แข่งที่เน้นตั้งรับ เราต้องรู้สถานการณ์ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น, หน้าที่แรกของผมคือเกมรับ แต่ถ้ามีโอกาสทำประตูได้ นั่นก็อาจเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน”
4 ปีที่แล้ว บราซิล ตกรอบก่อนรองชนะเลิศจากความพ่ายแพ้ต่อ เบลเยียม ซึ่ง คาเซมิโร่ ไม่ได้ลงสนาม
“ผมเชื่อว่าเรามีหลายอย่างที่แตกต่างจาก 4 ปีก่อน, เรามีผู้เล่นใหม่เข้ามาหลายคน และปีนี้เรามีตัวเลือกหลากหลายให้ใช้งานโดยที่ภาพรวมของทีมไม่เปลี่ยนแปลงไป” คาเซมิโร่ กล่าวเพิ่ม
“เราสามารถเปลี่ยนวิธีการเล่นของเราได้ในแต่ละเกม ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรามีตัวเลือกมากกว่าปี 2018”
แม้แต่คู่แข่งในเกมนี้อย่าง กรานิต ชาก้า ก็ยังออกปากชื่นชม คาเซมิโร่ เช่นกัน
“เป็นเรื่องน่าพอใจสำหรับผม กับการได้เป็นคู่ต่อสู้ของ คาเซมิโร่ ทั้งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติบราซิล, เขาคว้าแชมป์เปี้ยนส์ ลีก 5 สมัยเลยนะ, ผมแค่หวังไว้ว่าเขาไม่ได้ยิงประตูใส่เรา”