อับดูลาย ดูคูเร่ เปิดเผยว่าพรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่ดีที่สุดสำหรับชาวมุสลิม โดยกองกลางเอฟเวอร์ตันเตรียมเข้าสู่ช่วงถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
มิดฟิลด์ชาวมาลีเป็นเด็กปั้นอะคาเดมี่ของ แรนส์ ในฝรั่งเศส ก่อนย้ายมาอังกฤษเพื่อเล่นให้ วัตฟอร์ด ในปี 2016 เขาใช้เวลา 4 ปีที่ วิคาเรจ โร้ด จากนั้นย้ายเป็นสมาชิกของ เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์
เดือนรอมฎอนในความเชื่อของศาสนาอิสลามเป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์, ซึ่งชาวมุสลิมจะถือศีลอด งดเว้นข้อห้ามต่าง ๆ ตามที่ศาสนาบัญญัติ เช่น งดการกิน การดื่ม นับตั้งแต่แสงอรุณขึ้น จนถึงตะวันตก
เหล่านักเตะในพรีเมียร์ลีกที่ถือศีลอดจะต้องจัดการกับตารางการฝึกซ้อมและการแข่งขัน โดย เอฟเวอร์ตัน มีการแข่งขัน 3 นัดในช่วงเดือนรอมฎอนของปีนี้ซึ่งจะสิ้นสุดในวันศุกร์ที่ 21 เมษายน
ดูคูเร่ ที่กลับมาเฉิดฉายในยุค ฌอน ไดช์ หลังจากดูเหมือนเป็นส่วนเกินภายใต้การคุมทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยกย่องพรีเมียร์ลีกว่าสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อผู้เล่นชาวมุสลิม
“เรารู้สึกมั่นใจมากที่นี่, ได้รับการยอมรับอย่างมาก และทุกอย่างเพียบพร้อมสำหรับชาวมุสลิม” ดูคูเร่ กล่าวกับ BBC Sport
“ในพรีเมียร์ลีก คุณมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ที่เหมาะกับคุณ, พวกเขาจะไม่ขัดต่อความเชื่อของคุณ และนี่เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก”
“ผมเกิดในฝรั่งเศสและทำงานที่นั่น, แต่ระหว่างฝรั่งเศสกับอังกฤษมีความแตกต่างกันมาก คนอังกฤษเป็นตัวอย่างที่ดี”
“บางครั้งคุณต้องฟังผู้คนและเข้าใจว่าศรัทธามีความหมายต่อพวกเขาอย่างไร ไม่ใช่ทางเลือก – มันสำคัญที่เราจะต้องปกป้องศรัทธาของเรา 100 เปอร์เซ็นต์”
“ผมอยากจะเล่นในพรีเมียร์ลีกมาโดยตลอด และอยากอยู่ที่นี่ให้นานกว่านี้ นี่เป็นลีกที่ดีที่สุดสำหรับชาวมุสลิม”
นอกจาก ดูคูเร่ แล้ว เพื่อนร่วมทีมอย่าง อัสเมียร์ เบโกวิช, อิดริสซ่า เกย์ และ อมาดู โอนาน่า ต่างก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับเดือนรอมฎอนเช่นกัน ซึ่งมิดฟิลด์วัย 30 ปี กล่าวถึงความท้าทายของการถือศีลอด แต่ก็ยืนยันว่าเขาให้ความสำคัญกับศรัทธาเหนือฟุตบอลเสมอ
ดูคูเร่ กล่าวว่า “ผมรักเดือนรอมฎอนเสมอ บางครั้งการเล่นฟุตบอลก็เป็นเรื่องยากเพราะเดือนรอมฎอนมักอยู่ในช่วงซัมเมอร์และปรีซีซั่น”
“แต่ผมโชคดีเสมอที่ได้ถือศีลอดในช่วงรอมฎอน และไม่เคยมีปัญหากับสภาพร่างกายเลย – ผมรู้สึกยินดีกับสิ่งนี้”
“ผมถือศีลอดทุกวัน (ในเดือนรอมฎอน), ไม่เคยขาดเลย มันกลายเป็นเรื่องปกติและง่ายมากสำหรับผม ผมเริ่มถือศีลอดตอนอายุ 12-13 ปี และตอนนี้ผมก็ 30 ปีแล้ว”
“ผมรู้จักร่างกายของตัวเองดี – ผมทานมื้อเช้าดี ๆ ไว้ล่วงหน้าซึ่งช่วยให้ผมอยู่ท้องได้ตลอดทั้งวัน”
ดูคูเร่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ศาสนาของผมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของผม ผมยกศาสนามาก่อน, แล้วค่อยเป็นงาน คุณสามารถทำทั้งสองอย่างร่วมกันได้ และผมก็มีความสุขกับสิ่งนั้น”
“ในฟุตบอลและชีวิต คุณต้องผ่านความเจ็บปวดและความผิดหวัง ฟุตบอลมีขึ้นและลงเสมอ – บางครั้งคุณไม่ได้เล่น, บางครั้งคุณบาดเจ็บ, แต่ความเชื่อของผมช่วยให้ผมผ่านเรื่องนี้ไปได้ ผมขอบคุณพระเจ้าที่ประทานความเข้มแข็งนั้นให้ผม”