ฟอร์มดุ! “แอธเลติก บิลเบา” เปิดบ้านไล่ถล่มเอาชนะ “เรอัล โซเซียดาด” ไปได้แบบขาดลอย 4-0 !!!

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา เปิดสนาม ซาน มาเมส, เมืองบิลบาโอ แคว้นประเทศบาสก์ ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทีม เรอัล โซเซียดาด ในศึกฟุตบอล ลาลีก้า สเปน เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา เป็นดาบี้แมทช์แคว้นบาสก์

เกมนี้ เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มาร์เซลิโน การ์เซีย โตรัล มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย อีเกร์ มูเนียอิน เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม ดานี่ การ์เซีย กองกลางห้องเครื่อง และ อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เรอัล โซเซียดาด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อิมานอล อัลกัวซิล มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย มิเกล เมริโน่ กองกลางห้องเครื่อง ดาวิด ซิลบา เพลย์เมกเกอร์จอมเทคนิค และ มิเกล โอยาร์ซาบัล ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 11

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน เรอัล โซเซียดาด ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ บอลชุลมุนขลุกขลิก อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ โดนรุมแย่งจ่ายติดกระดอนทาที่หน้าหัวกระโหลกเข้าทาง  มิเกล เมริโน่ ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะหวดด้วยซ้ายเต็ม ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกลพอสมควร

นาที 13

เจ้าถิ่น ทัพเหล่าสิงโต แอธเลติก บิลเบา ได้ทักทายบ้าง เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบ บริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย อีเกร์ มูเนียอิน บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่หน้าเสาแรกโล่ง ๆ ให้ อินญิโก้ มาร์ติเนซ โฉบมาโหม่งเสย ๆ โดนไม่ดีเท่าไหร่ ส่งบอลหลุดกรอบลอยออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 25

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ อเล็กซ์ เบเรนเกร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวพลิ้วเอาตัวรอดจากตัวประกบอยู่หลายจังหวะ ก่อนจะได้กระชากไปครอสเบียดเข้าไปที่หน้าเสาแรก แล้วเป็น อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ วิ่งสอดมาแปด้วยขวาเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 27

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ ราอูล การ์เซีย จ่ายยัดมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ เบิ้ลสั้น ๆ จังหวะเดียวมาที่หน้ากรอบฝั่งซ้ายตั้งให้กับ มิเกล เบสก้า วิ่งสอดมาวางเท้าตะบันไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่ายังไม่เข้าเป้า เหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปไกล ยังไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่

นาที 29 VAR!!!

เกมต้องหยุดชะงักไปพักใหญ่ ๆ เมื่อมีจังหวะที่ อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ สบโอกาสบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบแขนของ ดาบิด ซิลบา ที่พุ่งมาบล็อกบริเวณเส้นกรอบเขตโทษพอดี ช็อตนี้ ผู้ตัดสินเช็ค VAR อยู่นาน สุดท้ายกลับลงมายกเลิกลูกเตะมุม แต่เป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษแก่เจ้าถิ่นบิลเบา แถมแจกใบเหลืองให้อดีตจอมทัพของแมนซิตี้แทน

นาที 32 จุดโทษ!!!

จากจังหวะต่อเนื่อง เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา พลาดโอกาสทองฝังเพชรที่จะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อได้ลูกจุดโทษ แล้วเป็น อีเกร์ มูเนียอิน รับหน้าที่สังหาร ก่อนจะยิงเล่นทางไปที่เสาซ้ายมือ ทว่าเป็น อเล็กซ์ เรมิโร่ นายทวารทีมเยือน ที่เดาทางถูก โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดออกหลังเอาไว้ได้ทันอย่างน่าเสียดาย

นาที 36

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา เรียกสติตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ ได้บอลลากจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวเหลือบเห็นเพื่อนเลือกไหลนิ่ม ๆ ต่อให้กับ ยูริ เบร์ชิเช่ ที่วิ่งอ้อมตัดหลังตามขึ้นมา ได้สอดมาวางเท้าซัดมุมแคบด้วยซ้ายแบบไม่จับยัดไปที่เสาแรก ทว่าเป็น อเล็กซ์ เรมิโร่ นายทวารทีมเยือน ปฏิกิริยายังไว ผวาปัดทิ้งออกหลังไปได้ทันเฉียดฉิว

นาที 42

ทีมเยือน เรอัล โซเซียดาด ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา จังหวะนี้ มิเกล โอยาซาบัล บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่เสาแรก แล้วเป็น อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ ที่โหม่งสกัดไม่ดี บอลชุลมุนเคลียร์ไม่ขาดลอยออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทางปืนของ ดาบิด ซิลบา วิ่งมาหวดวอลเลย์สวนด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยขึ้นอัศจรรย์ไปไกล ไม่ได้ลุ้น

นาที 45+2

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมเยือน เรอัล โซเซียดาด ที่ได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วทำเกมเร็วขึ้นมาทางกราบขวาถึง มิเกล เมริโน่ ได้ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวนข้ามฟากไปที่หน้าเสาไกลซ้ายมือให้ มิเกล โอยาซาบัล โฉบมาโหม่งเหน่ง ๆ โดนไม่เต็มเท่าไหร่ ส่งบอลปลิ้นลอยหลุดกรอบ ออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังสู้กันได้อย่างสนุกสูสี เป็นทีมเยือนที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 60-40 เปอร์เซ็นต์ ทว่าจังหวะจบเหน่ง ๆ ในพื้นที่สุดท้ายยังทำได้ไม่ดีเอง สกอร์ตอนนี้เสมอกันอยู่ที่ แอธเลติก บิลเบา 0 เรอัล โซเซียดาด 0 !!!

นาที 49

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา ที่โหมบุกเข้าใส่คู่แข่งทันที จังหวะนี้ มิเกล เบสก้า ได้บอลหลุดมาถึงริมกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวเปิดเลียดเข้ากลางแล้วโดน มิเกล เมริโน่ แหย่สกัดออกมาทางกราบขวาแล้วเป็น ดานี่ การ์เซีย ตามมาเก็บแล้วตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่หน้าเสาซ้ายมือให้ อเล็กซ์ เบเรนเกร์ สอดมาโหม่งสะบัดเหน่ง ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลาแต่กดไม่ลง ส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 53

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา บุกขึ้นมาใหม่อีกระลอก จังหวะนี้ อีเกร์ มูเนียอิน ลากตัดจากกราบซ้ายแล้วไหลเข้ากลางมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ ราอูล การ์เซีย ได้ซัดด้วยขวาเน้น ๆ ติดบล็อก บอลลอยโด่งย้อยไปตกที่กลางประตูเข้าทาง อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ ดูดบอลลงก่อนจะหมุนตัวตวัดยิงเร็วด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเบาแถมตรงตัวของ อเล็กซ์ เรมิโร่ นายทวารทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 54

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา ได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ อีเกร์ มูเนียอิน เจ้าเก่า ลากตัดจากกราบซ้ายเข้ากลางเหมือนเดิม ก่อนจะไหลนิ่ม ๆ เข้ากลางมาที่หน้ากรอบฝั่งขวาให้กับ ราอูล การ์เซีย ได้ตั้งป้อมบรรจงซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดหนีมือของ อเล็กซ์ เรมิโร่ นายทวารทีมเยือน เฉียดเสาแรกขวามือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียว ชนิดได้เสียวสุด ๆ

นาที 68 GOAL!!!

หลังจากบดอยู่นาน เจ้าถิ่น แอธเลติกบิลเบา มาได้ประตูปลดล็อคจนได้เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย อเล็กซ์ เบเรนเกร์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาไกลให้ ดาเนี่ยล วิเวียน ได้เทคตัวขึ้นโขกย้อนศรเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงหนีมือของ อเล็กซ์ เรมิโร่ นายทวารทีมเยือน เสียบหน้าต่างเสาซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม เป็นประตูแรกของเจ้าตัวในซีซั่นนี้อีกด้วย

นาที 70

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา จังหวะนี้ อีเกร์ มูเนียอิน บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยมาที่เสาแรก แล้วเป็น ออยฮาน ซานเซต ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา สลัดตัวประกบ โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกสะบัดเหน่ง ๆ ส่งบอลหลุดกรอบออกหลังไปไกล ยังไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่

นาที 72 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา อีเกร์ มูเนียอิน เจ้าเก่า รับอาสาบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่เสาแรก แล้วเป็น ออยฮาน ซานเซต คนเดิม คราวนี้ไม่พลาด สลัดตัวประกบ โฉบมาตวัดยิงด้วยขวาเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งสวนตัวผ่านมือของ อเล็กซ์ เรมิโร่ นายทวารทีมเยือน เบียดเสาขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 80 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะโต้กลับเร็ว แล้วเป็น ออยฮาน ซานเซต กระชากพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้ากรอบแล้วแทงทะลุช่องให้ อเล็กซ์ เบเรนเกร์ ได้วิ่งสอดหลุดไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียถวายพานมาที่หน้าประตูให้ อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ ชาร์จจ่อ ๆ ระยะเผาขน เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 87

ทีมเยือน เรอัล โซเซียดาด ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ บอลชุลมุนขลุกขลิกอยู่ในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะเป็น อันเดอร์ มาร์ติน ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ไหลย้อนมาที่หัวกระโหลกตั้งให้ มาร์ติน ซูบิเมนดี้ ได้แต่งบอลมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวาหนึ่งที ก่อนจะก้มหน้าวางเท้าซัดเลียดนอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ อูไน ซิม่อน นายทวารเจ้าถิ่น เฉียดเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปชนิดได้ลุ้นทีเดียว

นาที 89 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 4-0 !!! จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร ออสการ์ เด มาร์กอส ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวจ่ายเลียดเข้าไปที่กลางประตูต่อให้กับ ออยฮาน ซานเซต ดึงจังหวะรอเพื่อนอย่างสวย ก่อนจะแทงทะลุตามช่องให้ อีเกร์ มูเนียอิน ได้วิ่งสอดมาซัดด้วยขวาเน้น ๆ ในเขตโทษฝั่งขวา ส่งบอลพุ่งเลียดสวนตัว อเล็กซ์ เรมิโร่ นายทวารทีมเยือน กลิ้งเสียบหน้าต่างเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก

หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา เปิดบ้านไล่ถล่มเอาชนะทีมเยือน เรอัล โซเซียดาด ไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 !!! รั้งอันดับที่ 8 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนบาร์เซโลน่า ในคืนวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านโซเซียดาด รั้งอันดับที่ 7 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับโอซาซูน่า ในคืนวันเดียวกันแต่คนละเวลา