ฟาติฮีโร่!! ซัดชัยพาทัพเจ้าบุญทุ่ม “บาร์เซโลน่า” บุกมาเฉือนเอาชนะ “ดินาโม เคียฟ” ถึงถิ่น 1-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) เปิดสนาม เอ็นเอสเค โอลิมปิสกี้, กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ต้อนรับการมาเยือนของทัพเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า (สเปน) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี นัดที่ 4 เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น ดินาโม เคียฟ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มีร์เซีย ลูเชสคู มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย เซอร์เกย์ ซีดอร์ชุค กองกลางห้องเครื่อง มีโคล่า ชาปาเรนโก้ เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ เดนิส ฮาร์มัชท์ กองหน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน บาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชั่วคราวอย่าง เซร์กี้ บาร์ฆวน มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ มิดฟิลด์ห้องเครื่องตัวพักบอล อันซู ฟาติ เพลย์เมกเกอร์ดาวโรจน์ และ เมมฟิส เดอปาย ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 4

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน บาร์เซโลน่า ทำเกมบุกเข้าใส่ทันทีตามสไตล์ ได้โอกาสลุ้นก่อน จากจังหวะ เมมฟิส เดอปาย ได้บอลแล้วติดเครื่อง พาลุยทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะขลุกขลิกได้ซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกของ อิเลีย ซาบาร์นยี่ เซนเตอร์แบ็คเจ้าถิ่น กระโดดมาขวางเอาไว้ได้ทัน กระเด้งออกมา ยังไม่มีอะไรมาก

นาที 22

ทีมเยือน บาร์เซโลน่า มีโอกาสได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะ อันซู ฟาติ ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนดึงจังหวะแล้วไหลย้อนกลับมาที่หน้าเขตโทษให้ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ วิ่งมาซัดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งหลุดกรอบออกไปอีกครั้งหนึ่ง

นาที 23

เจ้าถิ่น ดินาโม เคียฟ ได้โอกาสลุ้นจะแจ้งครั้งแรกของเกม จังหวะนี้ เดนิส ฮาร์มัชท์ ครองบอลเหนียวแน่นทางกราบขวา เจ้าตัวพลิกมาแทงขนาดเส้นทะลุช่องให้ วิคตอร์ ซีกานคอฟ ได้กระชากหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะคลึงบอลดึงจังหวะรอเพื่อนแล้วไหลเข้ากลางให้ มีโคล่า ชาปาเรนโก้ จับหนึ่งทีแล้วซัดเร็วด้วยซ้ายบริเวณจุดโทษ ส่งบอลปลิ้นหลังเท้า หลุดเสาขวามือออกไปเองอย่างน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 25

เจ้าถิ่น ดินาโม เคียฟ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ได้ลูกฟรีคิกบริเวณมุมธงฝั่งขวา แล้วเป็น วิคตอร์ ซีกานคอฟ เปิดบอลโค้งด้วยซ้าย พุ่งเข้าไปที่เสาแรกโดน เกลมองต์ ลองเลต์ โหม่งสกัดไม่ดีเลยไปเข้าทาง คาร์ลอส เด เปนญ่า ได้วิ่งมากดด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับบริเวณเส้นหน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นน่ากลัวไปที่เสาซ้ายมือ ทว่าเป็น มาร์ค อันเดร แตร์ สเตเก้น ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ทิ้งตัวใช้ขาเซฟเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 28

เจ้าถิ่น ดินาโม เคียฟ บุกขึ้นมาได้ลุ้นประตูอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว วิคตอร์ ซีกานคอฟ เลี้ยงจี้ขึ้นมาเอง เจ้าตัวฝากเร็วต่อไปที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ คาร์ลอส เด เปนญ่า ดึงจังหวะแล้วแทงทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ มีโคล่า ชาปาเรนโก้ ได้วิ่งสอดหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะก้มหน้าซัดด้วยซ้ายแต่โดนไม่ค่อยเต็ม ส่งบอลพุ่งเฉียดเสาแรกซ้ายมือ หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 32

ทีมเยือน บาร์เซโลน่า เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกบริเวณกึ่งกลางสนามเยื้อง ๆ มาทางกราบซ้าย จอร์ดี้ อัลบา บรรจงเปิดบอลปั่นไซด์ พุ่งแรงโค้งสวยไปยังพื้นที่ว่างกลางประตู แล้วเป็น เกลมองต์ ลองเลต์ โฉบมาพุ่งโหม่งตอร์ปิโดเหน่ง ๆ ส่งบอลไปชนเสาไกลขวามืออย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย ทว่ามีธงล้ำหน้ายกตามขึ้นมา ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี

นาที 42

ทีมเยือน บาร์เซโลน่า พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ออสการ์ มินเกซ่า ดันสูงเติมขึ้นมารับบอลทางกราบขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งไปที่เสาไกลให้ นิโก้ กอนซาเลซ สอดมาเทคตัวขึ้นโหม่งกดลงพื้นย้อนศรเหน่ง ๆ ส่งบอลพุ่งแรงตรงกรอบ ทว่าดันไปติดพวกเดียวกันเองอย่าง เมมฟิส เดอปาย กระเด้งออกมาแล้วโดนเคลียร์ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน บาร์เซโลน่า ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างชัดเจนถึง 60-40 เปอร์เซ็นต์ ทว่าทั้งสองฝั่งมีโอกาสยิงสูสีกันมาก ทัพต่างดาวซัดติดบล็อกหลายครั้ง เจ้าถิ่น ดินาโม เคียฟ ก็บุกขึ้นมาได้ลุ้นอยู่หลายคราเหมือนกัน สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!

นาที 56

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน บาร์เซโลน่า ที่พยายามบุกเอาประตูขึ้นนำทันที จังหวะนี้ จอร์ดี้ อัลบา ดันสูงตามสไตล์ เก็บตกแถวสองจากลูกเตะมุมได้ทางริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวครอสบอลโด่งกลับเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วเป็น เกลมองต์ ลองเลต์ ได้เทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเน้น ๆ แต่กดไม่ลง สุดท้ายบอลลอยโด่ง ย้อยข้ามคาน หลุดออกหลังไป

นาที 58

เจ้าถิ่น ดินาโม เคียฟ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ โอเล็คซานเดอร์ คาราวาเยฟ พลิกมาล้มตัวตวัดหักข้อทะลุช่องให้ วิตาลี บูยาลสกี้ ได้วิ่งสอดลากหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดยัดเข้าไปที่หน้าประตูโดนเคลียร์ออกมาเข้าทาง โอเล็คซานเดอร์ คาราวาเยฟ เจ้าเก่า ได้บรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ หน้ากรอบด้านซ้าย ส่งบอลแรงโค้งสวย เฉียดสามเหลี่ยมเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปชนิดได้ลุ้น

นาที 63 VAR!!!

ทีมเยือน พลาดโอกาสทองที่จะได้จุดโทษ เป็นจังหวะ จ่ายยัดเข้าไปที่กลางประตู บอลชุลมุนขลุกขลิกในเขตโทษ แล้วเป็น อันซู ฟาติ กำลังจะได้ง้างเท้ายิงโล่ง ๆ ทว่าโดน โทมาสซ์ เคดซิโอร่า ยื่นขามาขวางทำให้หวดวืดล้มลงไป ทีแรกผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกจุดโทษ สุดท้ายเช็ค VAR แล้วไม่รู้อีท่าไหน เปลี่ยนใจว่าไม่ฟาล์ว ให้เล่นกันต่อไปเหมือนเดิม

นาที 70 GOAL!!!

ทีมเยือน บาร์เซโลน่า มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ฟรีคิกเล่นเร็วไหลออกมาทางริมกรอบด้านขวาให้ ออสการ์ มินเกซ่า ได้ครอสเลียดเข้าเขตโทษโดน มีโคล่า ชาปาเรนโก้ สไลด์สกัดไม่ดีกระดอนเลยไปเข้าทาง อันซู ฟาติ ได้หวดฮาล์ฟวอลเล่ย์ด้วยขวาเต็มข้อโล่ง ๆ บริเวณจุดโทษ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดแสกหน้าของ จอร์จี้ บุชชาน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสยใต้คานเข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 76

ทีมเยือน บาร์เซโลน่า กำลังมาเต็ม บุกหนักขึ้นมาอีกรอบ จังหวะนี้ อุสมาน เดมเบเล่ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวโชว์ความพลิ้ว ล็อคหนีตัวประกบตัดเข้าใน ก่อนจะปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยไปที่เสาแรก แล้วเป็น จอร์จี้ บุชชาน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่นืนปิดมุมอยู่พอดี เขยิบมารับเอาไว้ได้สบาย

นาที 82

เจ้าถิ่น ดินาโม เคียฟ เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เบนจามิน เวอร์บิช รับบอลมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวโยกแล้วแทงตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ วิคตอร์ นอม พยายามจะเลี้ยงแต่โดนปั๊ม บอลกระฉอกย้อนหลังมาเข้าทาง วิคตอร์ ซีกานคอฟ ได้ปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ทำท่าจะเสียบเสาไกลซ้ายมือเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น มาร์ค อันเดร แตร์ สเตเก้น ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดปลายมือออกมาเข้าทาง เบนจามิน เวอร์บิช ได้ซ้ำเต็มข้อ ส่งบอลพุ่งหลุดกรอบ ลอยออกไปไหนไม่รู้

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน บาร์เซโลน่า บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น ดินาโม เคียฟ ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! เขยิบขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงของตาราง โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเบนฟิก้า ในคืนวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านดินาโม เคียฟ รั้งบ๊วยของกลุ่มอยู่เหมือนเดิม นัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับบาเยิร์น มิวนิค ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา