เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์, เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนทัพนกขมิ้นเหลืองอ่อน นอริช ซิตี้ ในศึกฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 5 เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 2 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางห้องเครื่องกัปตันทีม ทาคูมิ มินามิโนะ ตัวรุกทีมชาติญี่ปุ่น และ ดีโอโก้ โชต้า ศูนย์หน้าตัวโป้งปิดบัญชีของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน นอริช ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ดีน สมิธ มาเล่นในระบบ 4-3-3 เช่นกัน นำทีมโดย ปิแอร์ ลีส์ เมลู กองกลางห้องเครื่อง มิล้อต ราชิก้า ตัวทำเกมริมเส้น และ ตีมู ปุ๊กกี้ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
นาที 8
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ ไหลบอลมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ อเล็กซ์ อ็อกเล็ด แชมเบอร์เลน ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะสบโอกาสขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นน่ากลัว แต่ทิศทางไม่เข้าเป้า กลิ้งหลุดเสาซ้ายมือออกไปไกล
นาที 9
ถัดมาหนึ่งนาที เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำเร็ว เป็นจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ เก็บตกบอลได้ทางมุมกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวล็อกหนีแนวรับทีมเยือนตัดเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะเห็นช่องบรรจงวางเท้าปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ทิม ครูล นายทวารทีมเยือน มุดเช็ดคาน กระเด้งลอยหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 14
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ลุยขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ อเล็กซ์ อ็อกเล็ด แชมเบอร์เลน ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่กลางประตู แล้วเป็น ดีว็อค โอริกี้ ที่หันหลังให้ประตู ได้เกี่ยวบอลลง ก่อนจะกลับตัวยิงเน้น ๆ ติดบล็อกมาเข้าทาง อิบราฮิมา โกนาเต้ แปะมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซัดสวนเปรี้ยงเน้น ๆ ส่งบอลเหินข้ามคานออกไปไกล ยังไม่ได้ลุ้น
นาที 15
ทีมเยือน ทัพนกขมิ้นเหลืองอ่อน นอริช ซิตี้ ได้ทักทายบ้าง เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ปีร์เซไมสลาพ ปาเชต้า พลิกบอลขึ้นมาแทงให้ มิล้อต ราชิก้า พยายามจะไปเองแต่โดนสกัดมาเข้าทาง ตีมู ปุ๊กกี้ ได้หลุดเข้าไปตวัดยิงมุมแคบเน้น ๆ ในกรอบฝั่งขวา ส่งบอลพุ่งผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียว ชนิดได้ลุ้นสุด ๆ
นาที 19
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ต่อเนื่องจากลูกเตะมุม แล้วเป็น เจมส์ มิลเนอร์ เก็บตกบอลได้ทางกราบขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาไกลให้ คอสตาส ซิมิคาส สอดมากระโดดสลับขายิงด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกของแนวรับทีมเยือนเต็ม ๆ สุดท้ายกระเด้งออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 27 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ คอสตาส ซิมิคาส ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกเปิดเข้ากลางไปถึง ดีว็อค โอริกี้ ได้ดูดบอลลงก่อนจะดึงจังหวะจ่ายสั้น ๆ ถวายพานมาที่หน้าเสาขวามือโล่ง ๆ ให้ ทาคูมิ มินามิโนะ จับหนึ่งทีแล้วซัดเปรี้ยงจ่อ ๆ ด้วยขวาแบบไร้ตัวประกบ ส่งบอลพุ่งสวนตัวของ ทิม ครูล นายทวารทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 39 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย คอสตาส ซิมิคาส บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เบน กิ๊บสัน โหม่งเคลียร์ไม่ดีเลยไปที่หน้าเสาไกลเข้าทาง ทาคูมิ มินามิโนะ ได้จับบอลลงหนึ่งที ก่อนจะก้มหน้าวางเท้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดแสกหน้าของ ทิม ครูล นายทวารทีมเยือน เสียบเสาขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 41
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ยิงเล่นยิงได้ใจ จังหวะนี้ คอสตาส ซิมิคาส ที่วันนี้เติมเกมรุกขึ้นมาได้ตลอดแบบไร้กังวล เจ้าตัวดันสูงตัดสินขอลองส่องไกลด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษเน้น ๆ กว่า 30 หลา ส่งบอลพุ่งเบาไร้น้ำหนักแถมทิศทางก็ยังใช้ไม่ได้ ช็อตนี้ทำเสียของไม่มีอะไรมาก
นาที 45+2
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ทีมเยือน นอริช ซิตี้ ได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว โจ โกเมซ จ่ายเสียไปโดน มิล้อต ราชิก้า ฉกได้แล้วพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจสับไกด้วยขวานอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าทิศทางยังไม่เข้าเป้า สุดท้ายหลุดกรอบออกหลังไปอยู่ดี
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามคาด เป็นฝ่ายพับสนามขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน ทัพนกขมิ้นเหลืองอ่อน อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วถึงสองลูก สกอร์ตอนนี้ ลิเวอร์พูล 2 นอริช ซิตี้ 0 !!!
นาที 46
เปิดฉากครึ่งหลังมา ทีมเยือน นอริช ซิตี้ ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะ ตีมู ปุ๊กกี้ ถอยมาล้วงบอลตวัดออกขวาให้กับ จอช ซาร์เจนท์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้โชว์ความพลิ้วลากหนี คอสตาส ซิมิคาส ทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะสบโอกาสซัดเร็วมุมแคบด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงถากเสาไกลซ้ายมือออกไปนิดเดียว ยังไม่ได้ประตูตีไข่แตก
นาที 51
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะ อเล็กซ์ อ็อกเล็ด แชมเบอร์เลน พาบอลกระชากหนี จอช ซาร์เจนท์ หลุดทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะเห็นช่องก้มหน้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปชนโคนเสาแรกอย่างจัง สุดท้ายกระเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 54
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ดีโอโก้ โชต้า ลากตัดจากกราบซ้ายเข้ากลาง ก่อนจะสบโอกาสวางเท้าซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกของ เบน กิ๊บสัน เต็ม ๆ กระเด้งออกมา ช็อตนี้เจ้าตัวโวยวายฟ้องจะเอาเป็นแฮนด์บอล ทว่าผู้ตัดสินยังใจแข็ง ไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ แถมให้เล่นกันต่อไป VAR ก็ไม่ได้แจ้งอะไรมา
นาที 59
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้บุกอยู่ฝั่งเดียว จังหวะนี้ ต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา เก็บตกบอลได้ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทว่าทิศทางยังไม่หนีตัวเท่าไหร่ ทิม ครูล นายทวารทีมเยือน เขยิบมารับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย
นาที 69
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ทาคูมิ มินามิโนะ พาบอลขึ้นมาเองแล้วไหลออกไปทางริมกรอบฝั่งขวาให้กับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ได้โฉบมาบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาไกลให้ ดีโอโก้ โชต้า ได้สอดมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ แต่ดันกดไม่ลง ส่งบอลหลุดกรอบ เหินข้ามคาน ลอยออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 76 GOAL!!!
ทำไปทำมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน นอริช ซิตี้ ที่มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ทาคูมิ มินามิโนะ จ่ายบอลเสียกลางสนามมาเข้าทาง จอช ซาร์เจนท์ ได้พลิกลากขึ้นมาจ่ายเร็วตามช่องให้กับ ลูคัส รุปป์ สอดแตะบอลมาถึงหัวกระโหลก ก่อนจะเห็นเหลี่ยม ก้มหน้าบรรจงซัดหักข้อด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงทะลุบล็อกหนีมือของ อลิสซง เบ็คเกอร์ นายทวารเจ้าถิ่น เสียบเสาซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 84
ท้ายเกม ทีมเยือน นอริช ซิตี้ เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ โจนาธาน โรว์ โชว์ความพลิ้วกระชากหนี เจมส์ มิลเนอร์ ทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะยิงมุมแคบเร็วทันที ส่งบอลพุ่งแรงทิศทางตรงกรอบ แต่เป็น อลิสซง เบ็คเกอร์ นายทวารเจ้าถิ่น ปฏิกิริยายังไว ผงาปัดทิ้งออกหลังเอาไว้ได้ทัน ยอมเสียเป็นลูกเตะมุม
นาที 87
ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้กับ หลุยส์ ดิอาซ ได้ล็อคหาช่องตัดเข้าใน ก่อนจะสบโอกาสวางเท้าบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยแต่เลี้ยวไม่พอ สุดท้ายถากเสาไกลขวามือ ลอยหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ทำได้แค่หวาดเสียว
หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเบียดเอาชนะทีมเยือน นอริช ซิตี้ ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของฟุตบอล เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จตามเป้าหมาย โดยนัดต่อไป ทัพหงส์แดง จะต้องออกไปเยือนระหว่าง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ หรือ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ ในคืนวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2565 ที่จะถึงนี้
สนับสนุนบทความโดย ufabet