เกมการแข่งขันระหว่างเจ้าถิ่นทีมนักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เปิดสนาม เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทีมสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เกมนี้เป็นทีมเจ้าถิ่น ที่ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนในครึ่งเวลาแรก ก่อนที่ทีมเยือนจะมาตามตีเสมอได้ เสมอกันไป 1-1 !!!
เกมนี้เจ้าถิ่น เซาธ์แฮมป์ตัน มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย เจมส์ วอร์ด เพราส์ มิดฟิลด์ตัวทำเกม และ แดนนี่ อิงส์ หัวหอกตัวความหวังของทีม ขณะที่ทางทีมเยือน เชลซี มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 เช่นกัน นำทีมโดย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ไดนาโม และ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงค่าตัวแพงชาวเยอรมัน
นาที 5
ทีมเยือน เชลซี ได้ทักทายก่อน จากจังหวะตัดบอลได้ตรงกลางสนาม บอลมาถึง เมสัน เมาน์ท จ่ายบอลออกขวามาให้ รีซ เจมส์ เจ้าตัวค่อยๆพาบอลขึ้นมาก่อนจะโยนบอลโด่งข้ามฟากไปให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่เติมขึ้นมาในกรอบเขตโทษด้านซ้าย วิ่งมาวอลเลย์ด้วยซ้ายไม่จับ บอลพุ่งผ่านเสาไกลไปอย่างได้ลุ้นเลยทีเดียว
นาที 24
มาร์กอส อลอนโซ่ วิ่งเบียดกับ ยาน เบดนาเร็ค บริเวณในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วล้มลงไปเจ็บ ผู้ตัดสินเป่าหยุดเกม เมื่อดูภาพช้า เป็น อลอนโซ่ ข้อเท้าพลิกเอง ไม่ได้ฟาล์วอะไร
นาที 28
ทีมเยือน ต่อบอลกันอยู่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น ก่อนที่ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ จะเติมขึ้นมาลองสับไกนอกกรอบเขตโทษ ระยะเกือบ 35 หลา ด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเข้ากรอบ แต่ไปตรงตัว อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบาย
นาที 32 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เซาธ์แฮมป์ตัน มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 !!! จากจังหวะ นาธาน เร้ดมอนด์ ทำชิ่ง1-2 สั้นๆกับ โอริโอล โรเมว ตรงกลางสนาม ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ ทาคูมิ มินามิโนะ หลุดเดี่ยวไปดวลกับผู้รักษาประตูในกรอบเขตตรงกลางประตูเยื้องๆไปทางขวา เจ้าตัวหลอกจะยิงก่อนหนึ่งจังหวะทำให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ที่พยายามวิ่งมาบล็อก และ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูที่วิ่งมาปิดมุม ล้มหลังหักหัวทิ่มกันไม่เป็นท่า ก่อนจะดีดบอลด้วยขวาเข้ากลางประตูไปง่ายๆ สุดสวยจริงๆลูกนี้
นาที 38
ทีมเยือน เกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะได้ลูกเตะฟรีคิกบริเวณด้านซ้าย มาร์กอส อลอนโซ่ โยนบอลโค้งไปที่หน้าประตู เคิร์ท ซูม่า วิ่งสอดไปโขกเต็มๆที่เสาไกล บอลกำลังจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ผู้รักษาประตูทีมเจ้าถิ่นโชว์ซุปเปอร์เซฟ พุ่งปัดไว้ได้หวุดหวิด
นาที 43
เกมต้องหยุดชั้วคราว จากจังหวะ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เหมือนจะเผลอไปย่ำ มุสซ่า เฌเนโป ที่ข้อเท้า ล้มลงไปนอนเจ็บ ผู้ตัดสินย้อนดู VAR ก่อนจะให้ผ่านไม่มีอะไร ดูเหมือนจะเป็นจังหวะไม่ได้ตั้งใจ
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังไม่ได้มีจังหวะเข้าทำประตูกันมากเท่าไหร่ นอกจากลูกที่เป็นประตูของเจ้าถิ่นแล้ว ก็ยังสู้กันที่แดนกลางเป็นส่วนใหญ่ จบครึ่งแรก เจ้าถิ่น เซาธ์แฮมป์ตัน นำอยู่ 1-0 !!!
นาที 53 GOAL!!!
ทีมเยือน บุกขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย เลี้ยงจี้มาถึงกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะปาดเลียดเข้ากลางให้ เมสัน เมาน์ท ที่กลางประตู เจ้าตัวได้บอลแล้วพยายามจะเลี้ยงกระชากแหวกแนวรับเจ้าถิ่นไปที่เสาแรก แต่โดน แดนนี่ อิงส์ ที่ตามลงมาช่วย สกัดล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที เจ้าตัวลุกขึ้นมาสังหารเอง เข้าประตูไป ทีมเยือน เชลซี ไล่มาเป็น 1-1 !!!
นาที 70
เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งขวา เจมส์ วอร์ด เพราส์ ปั่นโค้งไปที่กลางประตู แนวรับเจ้าถิ่นโหม่งสกัดไม่ดี บอลกระดอนเลยไปถึงอีกฝั่งของเขตโทษ นาธาน เร้ดมอนด์ ขยันวิ่งไปเก็บบอลไว้ที่กรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสกลับเข้ามาที่หน้าประตูอีกครั้ง เป็น ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ได้ยืนโหม่งสะบัดเต็มๆที่เสาสอง บอลลอยพุ่งไปชนคานเต็มๆ กระเด้งมาที่ แดนนี่ อิงส์ ก็ยิงซ้ำหลุดกรอบออกไปอีก
นาที 72
ทีมเยือน บุกกันขึ้นมาตรงกลางสนาม เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พาบอลขึ้นมาเอง ก่อนจ่ายให้กับ เมสัน เมาน์ท บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ เจ้าตัวแทงบอลเร็วต่อไปให้ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย หลุดไปด้านขวาของกรอบเขตโทษ เจ้าตัวพยายามจะกระชากไปเปิดแต่โดนขวาง เลยไหลบอลย้อนกลับมาให้ เมสัน เมาน์ท ที่หน้ากรอบเขตโทษเยื้องๆมาทางขวาอีกที เจ้าตัววิ่งมาปั่นด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งโค้งไปที่เสาไกล แต่ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ทะยานไปปัดไว้ได้ปลายมือ
นาที 83
เมสัน เมาน์ท์ ได้บอลบริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะเลื้อยผ่านกองหลังไปหนึ่ง แล้วกระชากต่อไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย แล้วครอสไปที่เสาไกลให้ รีซ เจมส์ ที่ยืนปักหลักรออยู่โล่งๆคนเดียว ได้ยิงด้วยขวาเต็มๆ แต่บอลหลุดกรอบโด่งออกไปไกลแบบน่าผิดหวัง
นาที 87
ทีมเยือน ขึ้นเกมมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ฮาคีม ซิเยค พยายามจะเลี้ยงไปเปิดแต่ไม่ผ่าน เลยจ่ายตัดเข้ากลางมาให้ เมสัน เมาน์ท เจ้าลองซัดด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบ แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไปไกล
หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น เซาธ์แฮมป์ตัน เปิดบ้านยันเสมอทีมเยือน เชลซี ไว้ได้ 1-1 !!! รั้งอันดับที่ 13 ต่อไป ขณะที่ทาง เชลซี รั้งอันดับที่ 4 ของตารางอยู่ในตอนนี้