แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมมาดเข้ม มั่นใจว่าเขาเป็นคนที่ใช่ สำหรับคุมทีมชาติอังกฤษเพื่อทำศึก ฟุตบอลโลก 2022 ท่ามกลางกระแสกดดันจากแฟนบอล
เซาธ์เกต คุมทีมชาติอังกฤษลงเล่นนัดล่าสุด บุกไปแพ้ อิตาลี 1-0 เป็นผลงานย่ำแย่ต่อเนื่อง ไม่ชนะใครมาแล้ว 5 นัดติด พร้อมตกชั้นจาก เนชั่นส์ ลีก
หลังจบการแข่งขันที่ มิลาน กุนซือวัย 52 ปีถูกแฟนบอล “สิงโตคำราม” ส่งเสียงโห่ และมีหลายคนเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวผู้จัดการทีม
อย่างไรก็ตาม เซาธ์เกต ยังมั่นใจว่าเขาจะพาอังกฤษ ประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลกช่วงปลายปีนี้ได้
“ผมคิดว่าผมเป็นคนที่ใช่ สำหรับการนำทีมลงแข่ง ฟุตบอลโลก, ผมไม่มีความลังเลเลยว่า นั่นจะเป็นวิธีที่ทำให้ทีมมีความมั่นคงมากกว่า”
“ผมไม่คิดว่าฟอร์มการเล่นในเกมกับ อิตาลี นั้นห่างไกลจากมาตรฐานของเรา, ผมรู้ว่าพูดแบบนี้จะต้องถูกเยาะเย้ย เพราะเราแพ้ติดกันมาหลายเกม”
“ไม่มีใครมีความสุขกับการถูกกองเชียร์โห่หลังจบเกมหรอก แต่ผมเข้าใจงานนี้ดี, การคุมทีมฟุตบอลก็เป็นแบบนี้”
“เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีผลการแข่งขันซึ่งยากลำบากติดต่อกันหลายนัด, ผู้จัดการทีมจะต้องรับผิดชอบ, นั่นเป็นงานของผม และผมจำเป็นต้องรับมือกับมัน”
“ผมเคยเห็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษทุกคนต้องเจอเรื่องแบบนี้, ดังนั้นผมจึงไม่เคยเหลิงไปกับคำชื่นชม”
“ผมรู้จักวงการนี้ดี, สถานการณ์พลิกผันได้อย่างรวดเร็ว แต่คุณจะถูกตัดสินจากผลการแข่งขัน, และเรื่องมันก็แค่นั้น”
“ผมต้องรับมือกับความกดดันด้วยวิธีของผมเอง, แต่สิ่งที่สำคัญสุดคือผมต้องทำให้แน่ใจว่าทีมยังคงอยู่ในเส้นทาง”
“เราจำเป็นต้องทำในสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องต่อไป และพิจารณาสิ่งต่างๆ ที่เราจำเป็นต้องพัฒนา
“งานของผมคือการนำความกดดันออกจากตัวผู้เล่น – และถ้าหมายความว่าผมต้องโดนวิจารณ์, นั่นก็ไม่เป็นไร”
“สิ่งที่เราทำมาตลอด 6 หรือ 7 ปีหลัง, คือการลดความกดดันในการลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ, ผมอายุ 52 ปี และผมผ่านมาแล้วเกือบทุกอย่างก็ว่าได้”
“ผมคิดว่าเมื่อคุณอยู่ในตำแหน่งเป็นเวลานาน, คุณจะต้องมีช่วงเวลาที่เจอความยากลำบากมากขึ้น, นั่นอาจจะเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์”
“แต่สุดท้ายแล้วผมจะต้องถูกตัดสินด้วยผลงานในทัวร์นาเมนต์, แน่นอนว่าช่วงนี้เราอยากได้ผลการแข่งขันที่แตกต่างออกไป, เราอยากชนะและยิงประตูถล่มทลาย”
“แต่ ฟุตบอลโลก จะเป็นบททดสอบที่แตกต่างออกไปสำหรับเรา, และเราจำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่าเราฟื้นตัวเร็วพอที่จะรับมือกับมัน”
คืนวันจันทร์นี้ ทีมชาติอังกฤษ จะลงเล่น เนชั่นส์ ลีก นัดสุดท้ายพบกับ เยอรมันนี และจากนั้นวันที่ 21 พฤศจิกายน เตรียมทำศึก ฟุตบอลโลก นัดแรกกับ อิหร่าน โดยชาติอื่นในกลุ่มได้แก่ สหรัฐอเมริกา และ เวลส์