ลิเวอร์พูล เปิดบ้านแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาเป็นแชมป์เก่าของลีกสูงสุดอังกฤษทีมแรกที่แพ้ในบ้าน 3 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1956
เกมที่ที่สนามแอนฟิลด์เมื่อคืนที่ผ่านมา “หงส์แดง” โดนนำไปก่อนจาก อิลคาย กุนโดกาน ก่อนที่พวกเขาจะตีเสมอได้จากจุดโทษของ โม ซาลาห์
อย่างไรก็ตามสุดท้าย “เรือใบสีฟ้า” ก็มารัวยิงสามลูกรวดจาก กุนโดการ, ราฮีม สเตอร์ลิง และ ฟิล โฟเด้น จบเกม 4-1
นับเป็นนัดที่สามติดต่อกันที่ลิเวอร์พูลแพ้ในบ้าน หลังจากก่อนหน้านี้พวกเขาโดน เบิร์นลีย์ และ ไบรท์ตัน บุกเชือดมานัดละ 1-0
ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมแชมป์เก่าของลีกสูงสุดอังกฤษทีมแรกในรอบเกือบ 65 ปี ที่แพ้คาบ้าน 3 นัด โดยทีมสุดท้ายที่ครองสถิตินี้คือเชลซีเมื่อปี 1956
ขณะเดียวกันก็เป็นครั้งแรกในรอบ 58 ปี ที่ลิเวอร์พูลแพ้เกมลีกที่แอนฟิลด์ 3 นัดติด
ความพ่ายแพ้นี้ยังเป็นครั้งแรกที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ คุมทีมลิเวอร์พูลแพ้ในลีก 2 นัดติด โดยเขาครองสถิติกุนซือพรีเมียร์ลีกที่ไม่เคยแพ้สองนัดติด(ครั้งแรก)มากที่สุดที่ 205 นัด ทิ้งห่างคนที่ตามมาอย่าง โจเซ่ มูรินโญ่ ที่เคยทำไว้ 76 นัด
กลับกัน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาทีมแมน ซิตี้ บุกชนะลิเวอร์พูลในลีกได้เป็นครั้งแรก แถมตอนนี้ยังทำสถิติพาทีมชนะทุกรายการติดต่อกัน 14 นัด ทาบสถิติสูงสุดของทีมจากลีกสูงสุดอังกฤษ ของ เปรสตัน(1892) และ อาร์เซนอล(1987)
สถิติอื่นที่น่าสนใจในเกมนี้
• อลิสซอน เบคเกอร์ เป็นผู้รักษาประตูคนแรกของลิเวอร์พูล ที่เล่นพลาดและนำไปสู่การเสียประตู 2 ครั้งในเกมเดียว นับตั้งแต่ ลอริส คาริอุส ทำไว้ในเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก 2018
• สเตอร์ลิง เรียกจุดโทษได้เป็นครั้งที่ 21 ในพรีเมียร์ลีก มากที่สุดในประวัติศาสตร์รายการนี้
• สเตอร์ลิง เป็นผู้เล่นคนที่สามภายใต้การคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า ที่ยิงครบ 100 ประตู ถัดจาก ลิโอเนล เมสซี่(211) และ แซร์กิโอ อเกวโร่(120)