เกมการแข่งขัน ระหว่างเจ้าถิ่นทีมสิงห์ผยอง แอสตัน วิลล่า เปิดสนาม วิลล่า พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของทีมสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดสุดท้าย
เกมนี้ เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ภายใต้การคุมทีมของ ดีน สมิธ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย จอห์น แม็คกินน์ กองกลางห้องเครื่อง แจ็ค กรีลิช เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้ว และ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย เมสัน เมาน์ท กองกลางตัวสร้างสรรค์เกมทีมชาติอังกฤษ คริสเตียน พูลิซิช ปีกความเร็วสูงทีมชาติอเมริกา และ ติโม แวร์เนอร์ ศูนย์หน้าค่าตัวแพงทีมชาติเยอรมัน
นาที 2
เริ่มเกมมา ก็เป็นทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เติมสูงขึ้นมาทางขวา แล้วเปิดโด่งเข้าไปในเขตโทษ ไทโรน มิงส์ โหม่งสกัดออกมาได้ไม่ดี บอลลอยออกมานอกกรอบเขตโทษฝั่งขวาเข้าทาง เมสัน เมาน์ท ได้ลากเข้าเข้าเขตโทษ แล้วยิงเร็วด้วยขวาทันที แต่บอลพุ่งหลุดเสาไกลซ้ายมือออกไปนิดเดียว
นาที 8
ยังคงเป็นทีมเยือน ที่ยังได้บุกต่อเนื่อง จังหวะนี้ เบน ชิลเวลล์ เติมสูงขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะไหลเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษให้ เมสัน เมาน์ท ได้ตั้งป้อม ลองส่องไกลด้วยขวานอกเขต แต่บอลก็ยังโดน มาร์เวลัส นากัมบ้า บล็อกไว้ได้ทัน กระเด้งออกมา ต้องเริ่มตั้งเกมกันใหม่
นาที 11
ทีมเยือน บุกขึ้นมาได้จบอีกครั้ง เป็นจังหวะ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะครอสบอลโค้งไปที่เสาแรกให้ ติโม แวร์เนอร์ วิ่งโฉบมาโขกสะบัดเน้น ๆ แต่โดนบอลบางเกินไป บอลผ่านหน้าปากประตู หลุดเสาสองซ้ายมือออกไปอย่างได้ลุ้นทีเดียว
นาที 15
ทีมเยือน โต้กลับขึ้นมาทางขวา ติโม แวร์เนอร์ ลากจี้ขึ้นมาถึงมุมกรอบเขตโทษ ก่อนจะโยนบอลโด่งลึกไปที่เสาไกลให้กับ เบน ชิลเวลล์ ที่ตั้งป้อมรออยู่ ได้วอลเลย์ด้วยซ้ายเต็ม ๆ บอลพุ่งแรงกระเด้งพื้น แต่ดันไปตรงตัวของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
นาที 16
หลังจากโดนบุกใส่อยู่นาน เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ก็ได้โอกาสลุ้นครั้งแรกของเกม เป็นจังหวะ สาดบอลยาวไปที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน แล้วเป็น โอลลี่ วัตกิ้นส์ โหม่งชงต่อไปให้ เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ ที่กรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวได้บอลแล้วโชว์พลิ้ว เลี้ยงพาบอลแหวกแนวรับทีมเยือน ทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะได้ช่องซัดเลียดด้วยซ้ายยัดไปที่เสาแรก แต่ก็ยังติดเซฟของ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมรออยู่แล้ว รับไว้ได้ทัน
นาที 18
ทีมเยือน กลับมาเป็นฝ่ายได้บุกอีกครั้ง จังหวะนี้ ติโม แวร์เนอร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะดึงจังหวะรอเพื่อน แล้วไหลบอลย้อนกลับหลังมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ เมสัน เมาน์ท ได้วางเท้าซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงและเข้ากรอบ แต่ก็ไปตรงตัวของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เซฟไว้ได้ทัน
นาที 20
ทีมเยือน บุกมาเรื่อย ๆ ไม่ผ่อนเกม จังหวะนี้ เมสัน เมาน์ท หลุดมาทางขวา ก่อนจะไหลเข้ากลางไปให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้จับบอลหนึ่งจังหวะ แล้วล็อกบอลมาใส่ด้วยซ้ายบริเวณหัวกระโหลก บอลพุ่งแรงแต่ไม่ห่างตัวเท่าไหร่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เขยิบมาเซฟไว้ได้ทัน
นาที 22
ทีมเยือน ขึงเกมรุกอยู่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ตั้งป้อมโยนบอลจากฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษ โดนโหม่งสกัดออกมา แล้วเป็น เบน ชิลเวลล์ โหม่งตั้งยัดกลับเข้าไปอีกครั้งเข้าทาง คริสเตียน พูลิซิช ได้ลองตีลังกายิง แต่บอลก็ยังไปตรงตัวของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับสบาย
นาที 24
ทีมเยือน น่าจะได้ประตูแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ จอร์จินโญ่ วางบอลยาวข้ามแนวรับให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า วิ่งสอดหลุดไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตวัดเลียดมาที่บริเวณจุดโทษให้ เมาสัน เมาน์ท วิ่งโฉบมาวางเท้าแปด้วยซ้ายเน้น ๆ แต่บอลพุ่งแรงเหินข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
นาที 28
เจ้าถิ่น ได้โต้ตอบขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะ จอห์น แม็คกินน์ แทงบอลไปยังหน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ ได้แต่งหาช่องเข้าขวา แล้วลองปั่นไซด์โป้งเน้น ๆ แต่บอลก็ยังพุ่งหลุดเสาไกลขวามือ ออกหลังไป แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 29
เจ้าถิ่น ได้จบอีกครั้ง จังหวะนี้ จอห์น แม็คกินน์ ขยันเบียดแย่งบอลจาก มาเตโอ โควาซิช ได้ตรงกลางสนาม ก่อนจะไหลบอลเร็วขึ้นมาให้ โอลลี่ วัตกินส์ ได้บอลทางกรอบเขตโทษด้านขวา แล้วกระชากตัดเข้าในมาถึงหัวกระโหลก ก่อนจะปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ แต่บอลก็พุ่งหลุดกรอบออกไปอยู่ดี
นาที 43 GOAL!!!
ทำไปทำมากลายเป็น เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ที่ได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย แจ็ค กรีลิช เปิดบอลพุ่งโค้งไปบริเวณจุดโทษ แล้วเป็น เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ วิ่งฉีกตัวประกบโฉบมาซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งหนีมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบใต้คานเสาแรกซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 45+3
เจ้าถิ่น ได้ลุ้นอีกครั้ง เป็นจังหวะได้ฟรีคิกทางกราบขวา แจ็ค กรีลิช เปิดบอลโด่งโค้งลึกไปที่เสาไกล แล้วเป็น อันวาร์ เอล กาซี่ วิ่งโฉบมาโขกเหน่ง ๆ แต่กดไม่ลง บอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน เชลซี ที่ครองบอลได้เยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกใส่เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า อยู่แทบจะฝั่งเดียว แต่จังหวะสุดท้ายทำไม่ได้กันเอง ก่อนจะมาโดนสิงห์ผยอง ที่วันนี้ใช้โอกาสไม่เปลือง ยิงออกนำไปก่อน 1-0 !!!
นาที 46
เริ่มเกมครึ่งหลังมาแปปเดียว ทีมเยือน เชลซี ต้องถอดผู้รักษาประตูมือหนึ่งอย่าง เอดูอาร์ เมนดี้ ออกจากสนามไป เนื่องจากจังหวะเซฟลูกยิงของ เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ แล้วตัวเองลอยไปกระแทกเสาอย่างจัง จนบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว แล้วส่ง เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูตัวสำรอง ลงมาเล่นแทน
นาที 47
ทีมเยือน เชลซี เปิดเกมรุกใส่เจ้าถิ่นทันที จังหวะนี้ ติโม แวร์เนอร์ ใช้ความเร็วกระชากสวนกลับขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะครอสเข้ากลางไปให้ คริสเตียน พูลิซิช ที่เติมเข้าเขตโทษได้ซัดด้วยขวา แต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกไปอีกครั้ง
นาที 49
ทีมเยือน น่าจะได้ประตูตีเสมอสุด ๆ เป็นจังหวะ จอร์จินโญ่ วางบอลยาวข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษให้ เมสัน เมาน์ท ได้สอดมายิงจ่อ ๆ ที่หน้าปากประตูระยะแค่ 6 หลา แต่ เอซรี่ คอนซ่า วิ่งตามลงมาบล็อกไว้ได้ทันเฉียดฉิว เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยืนขาตายแล้วด้วย รอดไปสำหรับเจ้าถิ่น
นาที 52 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ จอร์จินโญ่ ไปเข้าบอลพลาดทำฟาล์วใส่ เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ ล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษทันที ก่อนจะขอเช็ค VAR สักครู่ใหญ่ แล้วกลับลงมายืนยันคำเดิม อันวาร์ เอล กาซี่ รับหน้าที่สังหาร ซัดด้วยขวาเล่นทาง เสียบเสาขวามือ เข้าประตูไป ไม่พลาด
นาที 54
ทีมเยือน บุกหนักหวังตีไข่แตกให้ได้ จังหวะนี้ เบน ชิลเวลล์ เติมสูงขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะไหลบอลไปที่หน้าเขตโทษให้ เมสัน เมาน์ท ได้ล็อกมาเข้าขวา แล้วซัดไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็ยังพุ่งแรงหลุดเสาขวามือ ออกไปนิดเดียว ได้ลุ้นเหมือนกัน
นาที 60 VAR!!!
จังหวะดราม่าของเกม เป็นทีมเยือน เชลซี ที่ยิงเข้าไปแล้วแต่ไม่ได้ประตู จังหวะนี้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า มีโอกาสได้ซัดด้วยขวาเต็ม ๆ ไปติดบล็อกแนวรับเจ้าถิ่น กระฉอกมาเข้าทาง ติโม แวร์เนอร์ ได้ซ้ำเข้าไปไม่เหลือ แต่ VAR ย้อนมาให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ล้ำหน้าไปก่อนตั้งแต่จังหวะหน้านั้น
นาที 62
ทีมเยือน ขึงเกมรุกอยู่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น แต่ก็ยังเจาะไม่เข้า จึงต้องอาศัยการยิงไกลจากแถวสอง จังหวะนี้ รีซ เจมส์ ดันสูงมารับบอลทางขวา ก่อนจะไหลเข้ากลางมาให้ มาเตโอ โควาซิช ได้แต่งหาช่อง แล้วลองสับไกด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม บอลหลุดกรอบออกไปอีกครั้งหนึ่ง
นาที 67
ทีมเยือน น่าจะได้ประตูตีไข่แตก เป็นจังหวะ เบน ชิลเวลล์ ตั้งป้อมครอสบอลจากทางฝั่งซ้าย พุ่งแรงโค้งสวยไปที่เสาสองให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ ได้โฉบมาชาร์จจ่อ ๆ แต่โดนบอลไม่ดีเอง หลุดกรอบออกไป อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 70 GOAL!!!
ทีมเยือน เชลซี มาได้ประตูตีไข่แตกจนได้ ไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะ คริสเตียน พูลิซิช ทำชิ่ง 1-2 กับ ฮาคิม ซิเย็ค หลุดไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะเปิดลึกไปที่เสาไกลให้ เบน ชิลเวลล์ วิ่งมาวางเท้าแปด้วยซ้ายเน้น ๆ เข้าประตูไป เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น พยายามควักออกจากเส้นแล้ว แต่ไม่ทัน ทีมเยือนไล่ตามขึ้นมาแล้ว
นาที 75
ทีมเยือน เกือบได้ประตูตีเสมอ จังหวะนี้ เมสัน เมาน์ท หลุดมาทางขวา ก่อนจะครอสโด่งเข้าไปในเขตโทษให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ ได้ตวัดยิง แต่ก็ยังไปติดบล็อกของ ไทโรน มิงส์ ที่หน้าปากประตู ผู้เล่นทีมเยือน พยายามประท้วงว่าเป็นลูกแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้ว่าอะไร ให้เล่นต่อไป
นาที 76
ทีมเยือน โหมบุกใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก จังหวะนี้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เห็นเพื่อนเจาะไม่เข้า อึดอัดใจเลยเติมขึ้นมา ขอลองส่องไกลด้วยขวานอกกรอบเขตโทษดู แต่บอลก็ยังเหินข้ามคานออกไปอยู่ดี
นาที 87
ทีมเยือน น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ฮาคิม ซิเย็ค โยนบอลยาวจากทางกราบขวาไปที่เสาไกลซ้ายมือให้ เบน ชิลเวลล์ เติมเข้าไปซัดด้วยซ้ายโล่ง ๆ คนเดียว แต่บอลก็ยังไปตรงตัวของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ใช้ขาเซฟไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 89 ใบแดง!!!
ท้ายเกม ทีมเยือน เชลซี ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เป็นจังหวะชุลมุนพัวพันกันตอนแย่งบอล แล้วเป็น เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ไปเล่นนอกเกม เอามือไปฟาดใส่หน้า แจ็ค กรีลิช ล้มลงไป ผู้ตัดสิน สจ๊วร์ต แอตเวลล์ ไม่รีรอ ควักใบแดงให้ อัซปิลิกวยต้า ออกจากสนามทันที
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ที่เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน เชลซี ไปได้แบบพลิกล็อค 2-1 !!! จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 11 ของตารางคะแนน ส่วนทางด้าน เชลซี ถึงแม้จะแพ้ แต่ยังโชคดี จบที่ 4 ของตารางคะแนน เนื่องจากเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมคู่แข่งแพ้ คว้าตั๋วฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่หวังได้สำเร็จ