เกมการแข่งขันระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021-22 นัดแรก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย จอร์จินโญ่ มิดฟิลด์ห้องเครื่องทีมชาติอิตาลี เมสัน เมาน์ท เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าค่าตัวแพงทีมชาติเยอรมัน
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือป้ายแดง ปาทริค วิเอร่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ไยโร่ รีเดวัลด์ กองกลางห้องเครื่องพันธุ์แกร่ง วิลฟรีด ซาฮา กองหน้ากึ่งปีกจอมพลิ้ว และ จอร์แดน อายิว กองหน้าตัวความหวังของทีม
นาที 6
เริ่มเกมมา ทั้งสองทีม เปิดเกมแลกกันอย่างสนุกทันที แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้จบเหน่ง ๆ ทั้งคู่ จังหวะนี้ เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เชลซี ที่ได้โอกาสทักทายก่อน เป็นจังหวะ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ดันสูงเติมเกมรุกขึ้นมา ขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไปไกล
นาที 10
เจ้าถิ่น เชลซี พลาดโอกาสที่จะได้ประตูขึ้นนำเร็ว เป็นจังหวะ มาร์กอส อลอนโซ่ เติมสูงขึ้นมารับบอลทางกราบซ้าย ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งไปยังพื้นที่ว่างหน้าประตูให้ คริสเตียน พูลิซิช ได้วิ่งสอดมากระโดดขึ้นไปโหม่งสะบัดเน้น ๆ คนเดียวโล่ง ๆ แต่บอลก็ดันไปตรงตัวของ บิเซนเต้ กวาอิต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน คว้าเอาไว้ได้ทัน อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 13
เจ้าถิ่น เชลซี บุกขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ติโม แวร์เนอร์ หลุดมาถึงสุดเส้นหลัง เจ้าตัวครองบอลดึงจังหวะรอเพื่อน แล้วไหลย้อนหลังมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ มาเตโอ โควาซิช ได้แต่งเข้ากลาง ก่อนจะซัดเลียดด้วยขวาหักข้อเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งกระดอนพื้น หลุดเสาแรกซ้ายมือออกไปพอสมควร
นาที 14
เจ้าถิ่น เชลซี ได้ฟรีคิกระยะได้ลุ้น บริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย แล้วเป็น มาร์กอส อลอนโซ่ ที่ทำท่าจะเปิดด้วยซ้ายหลอกแนวรับทีมเยือน ก่อนจะเป็น เมสัน เมาน์ท ที่เล่นลูกลักไก่ วิ่งมาปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง บอลพุ่งแรงโค้งสวยเข้ากรอบ แต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ บิเซนเต้ กวาอิต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน
นาที 26 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะได้ฟรีคิกระยะอันตราย บริเวณหน้ากรอบเขตโทษด้านขวา แล้วเป็น มาร์กอส อลอนโซ่ รับหน้าที่ วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ บอลพุ่งแรงโค้งสวยข้ามกำแพง ก่อนจะเสียบเสาแรกขวามือเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม บิเซนเต้ กวาอิต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทำได้แค่ยืนมอง
นาที 33
เจ้าถิ่น เชลซี ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะอันตรายอีกครั้ง คราวนี้บริเวณหน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น เมสัน เมาน์ท วิ่งมาปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ทว่าโอกาสหนนี้ บอลพุ่งไปติดกำแพง กระดอนออกมาแบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 40 GOAL!!!
เจ้าถิ่น สิงห์บลูส์ เชลซี มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ เมสัน เมาท์น ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลเลียดยัดมาที่หน้าปากประตูให้ ติโม แวร์เนอร์ กำลังจะได้ซัดจ่อ ๆ อยู่แล้ว แต่เป็น บิเซนเต้ กวาอิต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่พยายามออกมาตัดบอลให้ได้ก่อน ทว่าปัดไม่ดี บอลกระดอนออกมาเข้าทางปืนของ คริสเตียน พูลิซิช ได้วิ่งมาแปด้วยซ้าย ซ้ำจ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 44
เจ้าถิ่น เชลซี เกือบได้ประตูเพิ่ม เป็นจังหวะ มาร์กอส อลอนโซ่ เติมเกมสูงตามสไตล์ หลุดขึ้นมาเอาบอลถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเลียดไปที่เสาแรกให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้วิ่งโฉบมาแปด้วยขวาจังหวะเดียวเน้น ๆ เปลี่ยนทางบอล ยัดมุมแคบไปที่เสาซ้ายมือทันที แต่สุดท้ายบอลเฉียดเสา พุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปนิดเดียว
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น เชลซี ที่เป็นฝ่ายครองบอลอยู่ทีมเดียว ปูพรมขึงเกมรุก บุกใส่ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ได้อย่างต่อเนื่อง แทบจะฝั่งเดียว สกอร์ตอนนี้ เชลซี 2 คริสตัล พาเลซ 0 !!!
นาที 47
เปิดฉากเกมครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เชลซี ที่ขึงเกมรุก บุกเข้าใส่ทีมเยือนทันที จังหวะนี้ จอร์จินโญ่ บรรจงหยอดบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ได้วิ่งสอดขึ้นมา ก่อนจะหวดด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ยัดมุมแคบไปที่เสาแรก บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น แต่ก็ยังไปถูกเซฟโดย บิเซนเต้ กวาอิต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาอยู่ ผวาปัดออกมาได้ทัน
นาที 48
เจ้าถิ่น เชลซี ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางซ้าย ตำแหน่งคล้าย ๆ ลูกแรก แล้วเป็น มาร์กอส อลอนโซ่ เจ้าเก่า วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง บอลพุ่งแรงโค้งสวย แต่คราวนี้มุดช้าไปหน่อย สุดท้ายเฉียดคานหลุดออกหลังไป แบบได้ลุ้น
นาที 53
ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ วีลฟรีด ซาฮา ได้บอลสปีดแซงกองหลังเจ้าถิ่น หลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะหวดเร็วด้วยขวาไปถูก เทรโวห์ ชาโลบาห์ ที่ตามลงมา ช่วยสไลด์บล็อกได้ทัน บอลกระดอนมาที่สุดเส้นหลังเข้าทาง ซาฮา อีกครั้ง คราวนี้พยายามปาดเข้ากลาง แต่ก็โดน อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เคลียร์ทิ้งออกหลังไปได้ก่อน
นาที 54
จังหวะต่อเนื่อง ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ เล่นลูกสูตร เปิดบอลโด่งลึกไปที่เสาไกลให้ ฌอง ฟิลลิป มาเตต้า ถอยมาโหม่งยัดเข้ากลางตั้งให้ เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ได้วิ่งมาตวัดยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ ไม่จับ แต่เจ้าตัวซัดโดนใต้ลูกมากไปหน่อย บอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 58 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เชลซี มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะเหมือนจะไม่มีอะไร เทรโวห์ ชาโลบาห์ ดันสูง เติมเกมขึ้นมารับบอล ก่อนจะลากจี้ไปที่หน้าเขตโทษด้านขวา แล้วก้มหน้าวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น พุ่งหนีมือ บิเซนเต้ กวาอิต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบโคนเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 62
ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ได้บุกขึ้นมาขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่นบ้าง จังหวะนี้ เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ได้บอลหลุดมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลโค้งมาที่เสาแรก แล้วเป็น จอร์แดน อายิว ถอยมาเทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดได้เน้น ๆ คนเดียว แต่บอลก็ยังไปตรงตัวของ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 80
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น เชลซี ผ่อนเกมลงอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายปล่อยให้ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ได้เป็นฝ่ายที่บุกขึ้นมาบ้าง ทว่าก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับสิงโตน้ำเงินคราม เข้าไปทำอันตรายใด ๆ ในพื้นที่สุดท้ายได้ ไม่มีจังหวะลุ้นทำประตูสวย ๆ จากทั้งสองทีมให้เห็นเลย ก่อนจะจบเกมไปด้วยสกอร์ 3-0 แล้วเป็น เทรโวห์ ชาโลบาห์ แจ้งเกิดได้สำเร็จ คว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เชลซี เปิดบ้านไล่ถล่มทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ไปได้แบบสบาย ๆ ด้วยสกอร์ 3-0 !!! คว้าสามคะแนนแรกไปครองได้สำเร็จ รั้งอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนทีม อาร์เซน่อล ในวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม 2564 ส่วนทางด้านพาเลซ ร่วงมาอยู่อันดับที่ 18 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอทีม เบรนท์ฟอร์ด ในวันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม ที่จะถึงนี้