ราชัน กระสุนด้าน! เจาะ โซเซียดาด ไม่เข้าเจ๊าโนสกอร์ จามหลังบุญโยก 5 แต้ม 

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เรอัล มาดริด   กับ เรอัล โซเซียดาด ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ใน ศึก ลา ลีกา (สเปน) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เรอัล มาดริด จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 ที่คุ้นเคย นำโดยสตาร์ดังของทีมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ติโบต์ คูร์กตัวส์,เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า,โทนี่ โครส,เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้,วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซม่า

ขณะที่ เรอัล โซเซียดาด จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 เช่นเดียวกัน นำโดยขาประจำของทีมอย่าง อเล็กซ์ เรมิโร่,ไอเฮน มูนญอซ,มาร์ติน ซูบิเมนดี้,มิเกล โอยาร์ซาบัล,ทาเคฟุสะ คุโบะ และ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ เป็นต้น 

นาทีที่ 14 

ช่วงต้นเกมเป็น ราชันชุดขาว ที่มีโอกาสได้ลุ้นประตูมากกว่า อย่างลูกนี้ที่ วินิซิอุส โชว์พริ้วเลี้ยงแหวกแนวรับคู่แข่ง จนหลุดเข้าไปจบสกอร์ในกรอบเขตโทษได้สำเร็จแล้ว แต่บอลสุดท้ายมันดันปลิ้นหลุดกรอบออกหลังไป อย่างน่าเสียดาย 

นาทีที่ 32 

เรอัล มาดริด พยายามเร่งเครื่องอย่างหนัก และเกือบทำสำเร็จตามแผนด้วย เพียงแต่ว่าจังหวะสุดท้ายที่ โทนี่ โครส ได้แปจ่อๆนั้น เรมิโร่ ยังล้มตัวปัดบอลทิ้งออกไปได้ทันเวลา ทำให้สกอร์ยัง 0-0 เท่าเดิม 

นาทีที่ 45+1 

ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เรอัล มาดริด ก็มีโอกาศได้ลุ้นสกอร์อีกแล้ว จากจังหวะที่ เบนเซม่า แทงบอลตามช่องให้ วินิซิอุส หลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนจะเกี่ยวบอลลากเข้าไปยิงติดเซฟ เรมิโร่ ในกรอบเขตโทษ

หมดครึ่งเวลาแรก

เรอัล มาดริด – 0

เรอัล โซเซียดาด – 0

นาทีที่  49 

กลับมาต่อครึ่งหลัง เรอัลมาดริด ที่บุกมากกว่าก็ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ อย่างจังหวะนี้ที่ วินิซิอุส มีโอกาสได้วางเท้ายิงเน้นๆในกรอบเขคโทษ แต่บอลสุดท้ายก็ยังไม่ผ่านมือจอมหนึบอย่าง เรมิโร่ อยู่ดี 

นาทีที่ 61 

โซเซียดาด พอผ่านหนึ่งชั่วโมงแรกมาได้ พวกเขาก็มีจังหวะได้ตอบโต้คืนบ้าง จากจังหวะที่ ทาเคฟุสะ คุโบะ เลี้ยงบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะได้ดวลเดี่ยวกับ คูร์กตัวส์ แต่น่าเสียดายที่บอลสุดท้ายมันพุ่งไปเข้าซองของ คูร์กตัวส์ รับสบาย 

นาทีที่ 82 

ช่วงท้ายเกม เรอัล มาดริด กลับมามีลุ้นประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ อเซนซิโอ้ ฝืนเลี้ยงบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเลือกหักข้อซัดเองไม่ส่งเพื่อน ซึ่งจังหวะนี้เจ้าตัวก็ยิงได้น่าผิดหวังเหลือเกิน ทำบอลพุ่งหลุดกรอบออกหลังไปเอง  ทำให้สกอร์ยัง 0-0 เท่าเดิม 

หมดเวลาการแข่งขัน ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ สุดท้ายต้องแบ่งแต้มกันไปทีมละ 1 คะแนน ตามระเบียบ