รีวิวซีรีส์จีน “The Princess and the Werewolf สวามีข้าคือราชันหมาป่า”

รีวิวซีรีส์จีน The Princess and the Werewolf สวามีข้าคือราชันหมาป่า และนี่คือซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้กลิ่นอายแฟนตาซี ที่เต็มไปด้วยความประทับใจ กลืนง่าย.. ย่อยง่าย กับรสชาติที่ผู้ชมน่าจะเสพได้อย่างดี เนื่องจากภาคต่อของซีรีส์จีนชื่อดังระดับตำนาน ยังเป็นจักรวาลเดียวกับต้นฉบับซีรีส์เกาหลี

รีวิวซีรีส์ The Princess and the Werewolf

The Princess and the Werewolf สวามีข้าคือราชันหมาป่า เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิง Qipa แห่งเผ่ามนุษย์ ค้นพบว่าเธอถูกส่งไปยังโลกปีศาจและกลายเป็นภรรยาในอนาคตของราชาปีศาจ Gui Mulang ดังนั้นเธอจึงพยายามหลบหนีหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ จนกระทั่งชายหนุ่มชื่อ Li Xiong ก่อการจลาจล แต่แท้จริงแล้วเขาคือ Li Xiong ในตอนกลางวัน และ Kui Mulang ในตอนกลางคืน

ดังนั้นได้เวลาไปชำแหละรีวิวซีรีส์จีน The Princess and the Werewolf สวามีข้าคือราชันหมาป่า กับความประทับใจแรกของเรา (First Impressions) ว่าจะน่าหลงใหลในชวนดูสักแค่ไหน…

รีวิวซีรีส์ The Princess and the Werewolf

การเล่าเรื่องและบทละคร

อย่างที่หลายๆ คนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า The Princess and the Werewolf เป็นภาคต่อของซีรีส์สุดฮิต Go Princess Go! ซีรีส์ดังจากปี 2015 ที่เวอร์ชั่นดัดแปลงให้บอกเล่าเรื่องราวของรุ่นลูก ซึ่งยังคงอิงจากนิยายต้นฉบับของ Xian Cheng เช่นเคย ซึ่งถือว่าคนละจังหวะยังคงเป็นซีรีส์แนวรอมคอมดูง่าย เพิ่มจังหวะ boo-boo ของนางเอกให้ได้ขำกันเพลินๆ
ในแง่ของการเล่าเรื่องมีความกระชับ อาจไม่เร็วเท่าที่ควร แต่สามารถขับเคลื่อนเรื่องราวได้ดี ผ่านการเดินทางของตัวละคร Princess Qipa เป็นหลัก แม้จะเปิดตัวด้วยตัวละครเยอะ แต่แนะนำให้คนดูเข้าใจได้ ไม่งง ละครอาจจะงี่เง่านิดหน่อยเรื่องแฟนเซอร์วิส แต่พอตั้งสติได้ก็กลับเข้าสู่โครงเรื่องหลักได้ทุกครั้ง ถือได้ว่าเป็นบทที่ไม่ซับซ้อน และยังน่าสนใจในแง่ของการซ่อนอาถรรพ์ของปีศาจในตอนต้นอีกด้วย
รีวิวซีรีส์ The Princess and the Werewolf

การแสดงและแคสติ้ง

ต้องบอกว่าเวอร์ชั่นดั้งเดิมของซีรีย์นี้ เป็นการจับคู่ที่เคมีลงตัวสุดๆ และดูเหมือนว่าภาคนี้ก็น่าจะเจริญรอยตามเช่นกัน "อู๋ ฉวนอี้" และ "เฉิน เจ๋อหยวน" เข้ากันได้อย่างน่าสนใจ แม้ว่า อู๋ ฉวนอี้ จะเพิ่งเข้าวงการซีรีส์มาได้เพียง 2-3 ปี แต่เธอก็แสดงได้ เหมือนเล่นละครมาหลายสิบเรื่อง ค่อนข้างรักษาบท แต่อาจจะไม่ลื่นไหลสไตล์ rom-com โบ๊เบ๊ แต่เสน่ห์ของเธออยู่ที่เรื่องนี้
ในขณะที่เฉินเจ๋อหยวนค่อนข้างไว้ใจได้ เพราะประสบการณ์ของเขามีพอประมาณ โดยเฉพาะซีรีส์ย้อนยุค ก็เป็นกำลังใจให้เขาเช่นกัน รูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นเทพหรือปีศาจก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีมิติตามตัวละครตัวเดียวกัน นี่เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ท้าทายสำหรับเขา
รีวิวซีรีส์ The Princess and the Werewolf
ในเรื่องนี้ยังมีตัวประกอบอีกมากมายโดยเฉพาะพวกที่อยู่ในอาณาจักรสัตว์ พร้อมคุณสมบัติมากมายให้นักแสดงได้แสดง และที่น่าประทับใจที่สุดคงเป็นการเปิดตัวที่ Daojai กับการกลับมาของนักแสดงรุ่นก่อนที่เคยปรากฏตัวเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Zhang Tianai และ Cheng Yilun ต่างก็เป็นตัวละครที่ยังคงทำให้แฟนๆ คิดถึงเสมอ
รีวิวซีรีส์ The Princess and the Werewolf

เทคนิคงานสร้าง

ด้านการผลิตของซีรีส์ The Princess and the Werewolf ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานซีรีส์จีน เพราะด้วยความแฟนตาซีผสมเข้ามาในธีมอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เน้นอะไรขนาดนั้น ซีรีส์ยังเพิ่ม CG เพื่อเพิ่มความมัน CG อาจจะไม่คมสวยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่งานที่เลอะเทอะน่ารำคาญ
ขณะที่โปรดักชั่นการออกแบบต่างๆของเรื่องนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดี โดยเฉพาะการแต่งหน้าและเสื้อผ้าในเรื่องนั้น ถือว่าทำออกมาได้ดีสำหรับฉากหลังต่างๆแม้จะดูเป็นฉากที่สว่างแต่รายละเอียดที่ใส่เข้ามาก็ถือว่าเหมาะสมกับเนื้อเรื่อง ฉากที่ถ่ายมุมกว้างของตัวแบบถือว่าทำได้ดี รวมถึงฉากในป่าที่ผสมผสานระหว่างฉากต่างๆ และ CG ไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างลงตัว
รีวิวซีรีส์ The Princess and the Werewolf

ภาพรวม

สรุปแล้ว ความประทับใจแรกของฉันที่มีต่อซีรีส์ The Princess and the Werewolf ค่อนข้างดีทีเดียว พล็อตและจังหวะการเล่าเรื่องชวนให้ติดตามดูไม่น้อย ปริศนาต่างๆ นำพาให้ผู้ชมก้าวไปทีละขั้น อาจจะไม่ใช่ซีรีส์ที่เร็วและกระชับในการร้อยเรียงเรื่อง แต่อย่างน้อย ก็มีจังหวะดี ๆ และการแสดงที่น่าพอใจของนักแสดงมาช่วยสนับสนุน สำหรับการสร้างก็ไม่ขี้เหร่เลย ทำออกมาได้ดี เป็นซีรี่ย์จีนอีกเรื่องที่เรารู้สึกว่าอยากให้มีต่อ...